รายละเอียดกระทู้

จากซ้าย จอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย และพิชัย ราชภัณฑารี ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ร่วมลงนามในบันทีกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ *1515 SMS ครอบครัวผูกพัน “ดีแทค” เผยการชุมนุมยังไม่ส่งผลต่อธุรกิจในขณะนี้ แต่ในระยะยาวไม่แน่ พร้อมต่อยอด Internet for All ด้วยบริการ SMS *1515 ส่งข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนถึงอายุ 2 ปีให้พ่อแม่ได้นำไปใช้ ภายใต้การหนุนของเทเลนอร์ที่ใช้กว่า18.56ล้านบาทเพื่อส่งเสริมสิทธิเด็กใน5ปี นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า การชุมนุมทางการเมืองในปัจจุบันยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของดีแทคจนต้อง ทำให้มีการปรับแผนการดำเนินงาน แต่ทั้งนี้หากยืดเยื้อก็อาจจะต้องมาพิจารณากันใหม่ โดยการให้บริการ 3G ของดีแทคจะครอบคลุม 80% ของพื้นที่ให้บริการทั้งหมดภายในเดือนมิถุนายนนี้ เช่นเดียวกับการให้บริการ 4Gที่จะเริ่มได้ในไตรมาส2ซึ่งจะเริ่มต้นในพื้นที่ใจกลางเมืองของกรุงเทพก่อน “การดำเนินการ 4G นั้น จะช่วยให้การใช้ข้อมูลมีความคล่องตัวมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันในพื้นที่ดังกล่าวมีการใช้ข้อมูลอย่างหนาแน่น ซึ่งคาดว่าการเปิดในพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯนั้นจะทำให้พื้นที่ดังกล่าวมี ปริมาณการใช้ข้อมูลถึง 10% ของปริมาณการใช้ข้อมูลทั้งประเทศ ส่วนกรณีการคืนคลื่นเพื่อนำไปประมูล 4G นั้นดีแทคพร้อมนานแล้วและไม่ได้มีเงื่อนไขแต่อย่างใด แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีการตอบรับ” นอกเหนือไปจากการขยายเครือข่ายเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าแล้ว เพื่อตอกย้ำถึงสโลแกน Internet for All ดีแทคและเทเลนอร์ จึงได้ร่วมกันให้การสนับสนุนยูนิเซฟทั้งทางด้านการเงินและเทคโนโลยีเพื่อการ พัฒนาเด็กอย่างรอบด้าน โดยล่าสุด ดีแทค ยูนิเซฟ และกรมอนามัยได้ร่วมกันเปิดตัวโครงการ SMS *1515 ซึ่งเป็นบริการส่งข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนถึงอายุ 2 ปี ให้พ่อแม่ผู้ปกครองผ่านข้อความSMSฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย นายจอนกล่าวว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเทเลนอร์ได้มอบเงินจำนวนประมาณ 18.56 ล้านบาท ในการส่งเสริมและสร้างความตระหนักในเรื่องสิทธิเด็ก โดยจะมีโครงการและกิจกรรมต่างๆ ตลอดระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้ โดย *1515 SMS ครอบครัวผูกพันถือเป็นส่วนหนึ่งของการนำเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายมาใช้ในการ ให้บริการด้านสุขภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์ด้านพัฒนาการของเด็ก ซึ่งหญิงตั้งครรภ์และพ่อแม่ผู้ปกครองสามารถใช้บริการนี้ได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการรับข้อความตลอดโครงการ ด้าน นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นโครงการที่สามารถช่วยสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ ในการพัฒนาสุขภาพของแม่และเด็กได้เป็นอย่างดี และสามารถบูรณาการไปกับโครงการฝากท้องทุกที่ ฟรีทุกสิทธิ์อีกด้วย และด้วยการสื่อสารด้วยช่องทางนี้จะทำให้หญิงตั้งครรภ์สามารถดูแลสุขภาพของตน เองและบุตรได้ดีขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเด็กในประเทศไทยนับจากนี้ต่อไป ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000022689 ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 27 ก.พ.57