กระตุ้นไอคิวเกิน100 พัฒนาต่อเนื่องเด็ก0-5ขวบ
ประเทศใดมีประชากรที่เต็มไปด้วยความพร้อมทั้งสติปัญญา อารมณ์ สังคม คงเต็มไปด้วยคุณภาพและพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว เมื่อ เร็วๆ นี้ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข สุขภาพจิต ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) และสถาบันราชานุกูล เปิดตัวโครงการพัฒนาระบบการจัดการเชิงพื้นที่ในการเชื่อมต่อข้อมูลและการให้ บริการเพื่อส่งเสริมพัฒนาการและเชาวน์ปัญญาหรือไอคิวเด็กไทยให้เด็กไทยIQเกิน100
ปัจจุบันสถานการณ์ปัญหาของ ไทยก็ถือว่าอาการเพียบหนัก เด็กที่มีระดับสติปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน หรือ IQ ต่ำกว่า 100 จุดนั้น พบสูงถึง 49 เปอร์เซ็นต์ เด็กสมาธิ สั้น แอลดี เรียนช้า และออทิสติกมีถึง12-13เปอร์เซ็นต์ของประชากรเด็กทั้งหมด
ฉะนั้น โอกาสทองที่จะพัฒนาเด็ก คือ ช่วงวัย 0-5 ขวบ ที่จะเร่งสร้างสติปัญญา หรือ IQ สร้างพัฒนาการทางอารมณ์ หรือ EQ ไปควบคู่กัน ดร.อมร วิชช์ นาครทรรพ ที่ปรึกษาวิชาการสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน อธิบายว่า สถานการณ์สังคมไทยในปัจจุบันครอบครัวไทย 20 ล้านครอบครัว ต้องเผชิญหน้ากับปรากฏการณ์ "แม่วัยใส ยายวัยซ่า ย่าวัยซิ่ง" ทำให้ครอบครัวไม่พร้อมในการกระตุ้นพัฒนาการจึงจำเป็นต้องสร้างระบบการช่วยเหลือเพื่อไม่ให้ต้นทุนชีวิตเด็กแย่ลงจากความไม่พร้อม
กลไกการทำงานเพื่อพัฒนา IQ EQ และพัฒนาการของเด็กต้องเป็นกระบวนการทำงานในลักษณะเครือข่ายระดับพื้นที่ที่เกิดการประสานความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ อาทิ สาธารณสุขจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เขตพื้นที่การศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียน และอื่นๆ เพื่อให้เกิดการดูแลสุขภาพเด็กปฐมวัยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่แรก จากสาธารณสุข ไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดูแลศูนย์เด็กเล็กไปจนถึงโรงเรียนซึ่งเป็นการรับไม้ต่อทั้งด้านข้อมูลและการให้บริการ
โครงการ กระตุ้นพัฒนาการฯ ได้เริ่ม ในพื้นที่นำร่อง 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ จ.เชียงราย ภาคกลาง จ.พระนคร ศรีอยุธยา ภาคอีสาน จ.สุรินทร์ และภาคใต้ จ.ภูเก็ต เพราะหากปล่อยไว้และไม่มีการดูแลเด็กที่ดีในช่วงอายุ 0-5 ขวบ ก็จะเป็นปัญหาต่อเนื่องไปจนโต เด็กที่เป็นสมาธิสั้นก็จะกลายเป็นเด็กก้าวร้าวและทะเลาะวิวาทกลายเป็นปัญหาสังคมในอนาคต
โดยพบปัญหาสำคัญคือ การส่งต่อข้อมูลเด็กจากบันทึกสุขภาพแม่และเด็กหรือสมุดสีชมพูที่ไม่ถูกส่ง ต่อไปยังศูนย์พัฒนาเด็ก เล็กหรือโรงเรียนอนุบาล ไม่ถูกส่งต่อไปยังโรงเรียน ส่งผลให้เด็กที่มีความผิดปกติหรือบกพร่องด้านการเรียนรู้ไม่ถูกดูแลด้าน พัฒนาการที่ต่อเนื่อง ทั้งที่ 90% ของเด็กที่บกพร่องการเรียนรู้สามารถแก้ไขได้หากได้รับการพัฒนาที่ต่อเนื่องตั้งแต่วัย0-5ขวบ อนาคตประเทศจะเป็นอย่างไร ช่วยหาทางแก้วันนี้ยังพอทัน
ขอบคุณ... http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROb1pXRXdNVEl3TURZMU5nPT0= (ขนาดไฟล์: 167)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข สุขภาพจิต ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) และสถาบันราชานุกูล เปิดตัวโครงการพัฒนาระบบการจัดการเชิงพื้นที่ในการเชื่อมต่อข้อมูลและการให้ บริการเพื่อส่งเสริมพัฒนาการและเชาวน์ปัญญาหรือไอคิวเด ประเทศใดมีประชากรที่เต็มไปด้วยความพร้อมทั้งสติปัญญา อารมณ์ สังคม คงเต็มไปด้วยคุณภาพและพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว เมื่อ เร็วๆ นี้ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข สุขภาพจิต ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) และสถาบันราชานุกูล เปิดตัวโครงการพัฒนาระบบการจัดการเชิงพื้นที่ในการเชื่อมต่อข้อมูลและการให้ บริการเพื่อส่งเสริมพัฒนาการและเชาวน์ปัญญาหรือไอคิวเด็กไทยให้เด็กไทยIQเกิน100 ปัจจุบันสถานการณ์ปัญหาของ ไทยก็ถือว่าอาการเพียบหนัก เด็กที่มีระดับสติปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน หรือ IQ ต่ำกว่า 100 จุดนั้น พบสูงถึง 49 เปอร์เซ็นต์ เด็กสมาธิ สั้น แอลดี เรียนช้า และออทิสติกมีถึง12-13เปอร์เซ็นต์ของประชากรเด็กทั้งหมด ฉะนั้น โอกาสทองที่จะพัฒนาเด็ก คือ ช่วงวัย 0-5 ขวบ ที่จะเร่งสร้างสติปัญญา หรือ IQ สร้างพัฒนาการทางอารมณ์ หรือ EQ ไปควบคู่กัน ดร.อมร วิชช์ นาครทรรพ ที่ปรึกษาวิชาการสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน อธิบายว่า สถานการณ์สังคมไทยในปัจจุบันครอบครัวไทย 20 ล้านครอบครัว ต้องเผชิญหน้ากับปรากฏการณ์ "แม่วัยใส ยายวัยซ่า ย่าวัยซิ่ง" ทำให้ครอบครัวไม่พร้อมในการกระตุ้นพัฒนาการจึงจำเป็นต้องสร้างระบบการช่วยเหลือเพื่อไม่ให้ต้นทุนชีวิตเด็กแย่ลงจากความไม่พร้อม กลไกการทำงานเพื่อพัฒนา IQ EQ และพัฒนาการของเด็กต้องเป็นกระบวนการทำงานในลักษณะเครือข่ายระดับพื้นที่ที่เกิดการประสานความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ อาทิ สาธารณสุขจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เขตพื้นที่การศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียน และอื่นๆ เพื่อให้เกิดการดูแลสุขภาพเด็กปฐมวัยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่แรก จากสาธารณสุข ไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดูแลศูนย์เด็กเล็กไปจนถึงโรงเรียนซึ่งเป็นการรับไม้ต่อทั้งด้านข้อมูลและการให้บริการ โครงการ กระตุ้นพัฒนาการฯ ได้เริ่ม ในพื้นที่นำร่อง 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ จ.เชียงราย ภาคกลาง จ.พระนคร ศรีอยุธยา ภาคอีสาน จ.สุรินทร์ และภาคใต้ จ.ภูเก็ต เพราะหากปล่อยไว้และไม่มีการดูแลเด็กที่ดีในช่วงอายุ 0-5 ขวบ ก็จะเป็นปัญหาต่อเนื่องไปจนโต เด็กที่เป็นสมาธิสั้นก็จะกลายเป็นเด็กก้าวร้าวและทะเลาะวิวาทกลายเป็นปัญหาสังคมในอนาคต โดยพบปัญหาสำคัญคือ การส่งต่อข้อมูลเด็กจากบันทึกสุขภาพแม่และเด็กหรือสมุดสีชมพูที่ไม่ถูกส่ง ต่อไปยังศูนย์พัฒนาเด็ก เล็กหรือโรงเรียนอนุบาล ไม่ถูกส่งต่อไปยังโรงเรียน ส่งผลให้เด็กที่มีความผิดปกติหรือบกพร่องด้านการเรียนรู้ไม่ถูกดูแลด้าน พัฒนาการที่ต่อเนื่อง ทั้งที่ 90% ของเด็กที่บกพร่องการเรียนรู้สามารถแก้ไขได้หากได้รับการพัฒนาที่ต่อเนื่องตั้งแต่วัย0-5ขวบ อนาคตประเทศจะเป็นอย่างไร ช่วยหาทางแก้วันนี้ยังพอทัน ขอบคุณ... http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROb1pXRXdNVEl3TURZMU5nPT0=
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)