รายละเอียดกระทู้

ภาพหมู่ ผู้เข้าร่วมการประชุมอมธ.ด้านคนพิการแนะกรุงเทพมหานครเดินหน้าพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เมื่อ 3 ก.ค. 2556 คณะอนุกรรมาธิการด้านคนพิการ ในคณะกรรมาธิการ การพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา นำโดย นายมณเฑียร บุญตัน และนายประสงค์ นุรักษ์ สมาชิกวุฒืสภา ได้เดินทางไปพบรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางผุสดี ตามไท เพื่อศึกษาดูงานด้านคนพิการของกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารหน่วยงานต่างๆ ของกรุงเทพมหานครได้สรุปข้อมูลการดำเนินงานด้านคนพิการ ภายใต้แผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติและกรุงเทพมหานคร และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งดำเนินงานร่วมกับองค์กรด้านคนพิการในรูปคณะกรรมการ อนุกรรมการ และคณะทำงานภายใต้อนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประจำกรุงเทพมหานคร ว่า คนพิการที่ได้รับเบี้ยความพิการมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ โดยในปี 2557 มี 51,800 คน กรุงเทพมหานครได้เร่งดำเนินงานต่างๆ ด้านคนพิการ เช่น 1)พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนทั้งมวล เช่น ห้องน้ำ ทางลาด 2) เพิ่มจำนวนลิฟต์ที่สถานีรถไฟบีทีเอส 3) เพิ่มสัญญาณไฟจราจรคนข้ามถนนอัจฉริยะซึ่งมีแบบสั่นสะเทือนและมีสัญญาณเสียงในช่วงที่เดินช้ามถนนได้ 4) จัดซื้อรถสุขาเคลื่อนที่สำหรับคนพิการ 5) บริการรถตู้โดยสารสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุที่ใช้เก้าอี้เข็น 6) จัดช่องทางพิเศษที่โรงพยาบาลเพื่อให้บริการคนพิการ7)จัดทำสลากซองยาเป็นอักษรเบรลล์ 8) จัดบริการอุปกรณ์เขียนอักษรเบรลล์ให้คนตาบอด 9)จัดตั้งศูนย์พัฒนากลุ่มเด็กพิเศษ ให้บริการตรวจคัดกรองและประเมินความพิการเบื้องต้น 10)บริการรถตรวจการได้ยินเคลื่อนที่ 11)จัดห้องสมุด และเว็บไซต์ให้คนตาบอดเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ 12) จัดการศึกษาสำหรับคนพิการ โดยจัดโรงเรียนเรียนร่วม 108 โรงเรียน และจัดฝึกอาชีพสำหรับเด็กออทิสติก 13) สอนคนพิการว่ายน้ำและสนับสนุนกีฬาคนพิการในระดับต่างๆ 14) ให้เงินสงเคราะห์ด้านต่างๆ เช่น การรักษาพยาบาล ค่าครองชีพ ทุนประกอบอาชีพ และเครื่องอุปโภคบริโภคปีละประมาณ 1,000 ราย 15)สร้างแหล่งงานและสนับสนุนการจ้างงานคนพิการ เช่น การจัดสถานที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของคนพิการที่ตลาดน้ำตลิ่งชัน เป็นต้น และ 16 สนับสนุนการจัดประชุมสมัชชาสหภาพคนตาบอดโลก ครั้งที่ 8 ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครมีแผนการดำเนินงานในอนาคตตาม “นโยบายร่วมสร้างกรุงเทพ” ดังนี้ 1) เพิ่มทางลาดบนทางเดินเท้า 350 แห่ง 2) เพิ่มสัญญาณไฟจราจรอัจฉริยะ 220 ตัว 3)จัดทำเอกสารอักษรเบรลล์ 4) ส่งเสริมอาชีพคนพิการเพิ่มเป็น 2 แสนคนภายใน 5 ปี 5) เพิ่มโรงเรียนรองรับเด็กพิการ 100 แห่ง และ 6) เพิ่มลิฟต์ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เป็น 100 ตัว นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อนึ่ง คณะอนุกรรมาธิการด้านคนพิการ วุฒิสภา ได้ให้ข้อเสนอแนะแก่กรุงเทพมหานคร ดังนี้ 1)ควรวางแผนงานให้สอดรับกับกฎหมายและแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติและแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประจำกรุงเทพมหานคร 2) ควรจัดทำข้อบัญญัติด้านคนพิการของกรุงเทพมหานครเพื่อดำเนินงานให้สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นของคนพิการกรุงเทพมหานคร 3) ควรจัดตั้งกองทุนร่วมสมทบกับกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการและกองทุนสำนักงานประกันหลักสุขภาพแห่งชาติเพื่อให้บริการคนพิการอย่างรอบด้านโดยเฉพาะด้านสุขภาพ 4) ควรสนับสนุนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยขอความร่วมมือจากประชาชนในชุมชนและองค์กรภาคธุรกิจ 5) ควรพัฒนาบริการทางการแพทย์ โดยเพิ่มบุคลากรในสาขาวิชาชีพเกี่ยวกับคนพิการ เช่น นักโสตสัมผัสวิทยา และนักแก้ไขการพูด เป็นต้น 6) ควรจัดอบรมอาสาสมัครประสานนำคนพิการรับบริการต่างๆตามสิทธิ 7) ควรจัดปรับเงินเพิ่มพิเศษให้ครูสอนเด็กพิการ 8) ควรจัดทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลให้นักเรียนพิการทุกคน พร้อมทั้ง จัดบริการคูปองส่งเสริมการศึกษาตามความต้องการของเด็กพิการแต่ละคน 9) ควรเร่งทำลิฟต์ที่สถานีBTSทุกสถานี 10)ควรปรับโครงสร้างการจ้างงานคนพิการโดยประสานดับกระทรวงแรงงาน เพื่อให้มีหน่วยงานที่รับผิดชอบส่งเสริมการจ้างงานคนพิการอย่างมีประสิทธิภาพ 11) ควรจัดตลาดนัดงานคนพิการ เพื่อให้นายจ้างและคนพิการมีโอกาสพบกัน 12) ควรเพิ่มจำนวนรถตู้บริการคนพิการเป็น100คัน 13) ควรปรับทางเดินเท้า คอสะพาน และที่จอดรถเมล์ เพื่อให้คนที่ใช้เก้าอี้เข็นสามารถใช้บริการรถเมล์ชานต่ำที่กำลังจัดซื้อมากกว่า 3,000 คัน 14) ควรเปิดพื้นที่สาธารณะที่สวนสาธารณะ และสถานที่ท่องเที่ยว เป็นต้น ให้คนพิการจัดการแสดงหารายได้ 15) ควรจัดสิ่งอำนวยความสะดวกบนพื้นที่สาธารณะ โดยเริ่มที่แหล่งท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งสำหรับคนพิการและคนทั่วไป 16) ควรสำรวจหาคนพิการในชุมชนต่างๆให้ครบทุกคน และ 17) ควรจัดทำแผนงานเพื่อส่งเสริมคนพิการให้มีความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวรับปากกับคณะอนุกรรมาธิการด้านคนพิการว่าจะสนับสนุน และติดตามให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะอนุกรรมาธิการด้านคนพิการต่อไป พร้อมท้งจะนำแจ้งความคืบหน้าเป็นระยะๆ