ชื่นชมคนพิการ...ชื่นชมสิงห์ / สรเดช

แสดงความคิดเห็น

นักกรีฑาวีลแชร์เรซซิ่ง

คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “สรเดช เพชรแสงใสกุล” : สัปดาห์ที่แล้วเรื่องลีดของหน้ากีฬานำความยอดเยี่ยมของนักกีฬาไทยที่ไปโกยเหรียญรางวัลคล้องคอเป็นว่าเล่นในศึก พาราลิมปิก เกมส์ 2016 ที่ ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิลมาเล่าสู่กันฟังไปแล้วทว่าตอนนั้นการแข่งขันยังไม่จบตัวเลขการันตีความยอดเยี่ยมยังไม่นิ่ง

ล่าสุด ปิดฉากไปเรียบร้อยแล้วเมื่อเช้าวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย โดยผลงานนักกีฬาคนพิการไทยอยู่อันดับที่ 23 คว้าไป 6 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน และ 6 เหรียญทองแดง รวม 18 เหรียญ ดีกว่า 4 ปีที่แล้ว ที่ได้ที่ 31 รวม 8 เหรียญจาก 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงินและ 2 เหรียญทองแดง ซึ่งถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญรางวัลมากที่สุด พร้อมทำลายสถิติเดิม 5 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดงรวม 11 เหรียญ ที่เคยทำไว้เมื่อปี 2000 ที่นครซิดนีย์ประเทศออสเตรเลียอีกด้วย

สำหรับนักกีฬาที่สร้างชื่อคว้าเหรียญทองก็นำโดย ประวัติ วะโฮรัมย์ และ พงศกร แปะยอ จากวีลแชร์ ซิวไปคนละ 2 เหรียญทอง ตามด้วยบอคเซียที่มี พัทธยา เทศทอง นำทัพ ส่วนเหรียญเงิน ก็มี สายสุนีย์ จ๊ะนะ จากฟันดาบ และเหรียญทองแดงคือ รุ่งโรจน์ ไทยนิยม จากเทเบิลเทนนิส

แน่นอนว่า ต้องมีเงินอัดฉีดตอบแทนความมุ่งมั่นเกินร้อย แม้ร่างกายจะไม่เอื้ออำนวยแต่ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งใจได้ โดยเบื้องต้นรับเงินจากรัฐบาลราว 180,700,000 บาท โดยจะแบ่งเป็น 2 แนวทาง คือ ทางเลือกแรก รับเงินสดก้อนเดียว 100 เปอร์เซ็นต์ เหรียญทอง 6 ล้านบาท เหรียญเงิน 4 ล้านบาท เหรียญทองแดง 2.5 ล้านบาท โดยแนวทางนี้สรุปนักกีฬาจะรับเงิน 120,500,000 บาท ผู้ฝึกสอนรับ 24,100,000 บาท และสมาคมกีฬาฯ รับ 12,000,000 บาท รวมทั้งสิ้น 156,600,000 บาท

ส่วนแนวทางที่สอง รับเงินสดก้อนแรก 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 50 เปอร์เซ็นต์ แบ่งจ่ายรายเดือนภายในเวลา 4 ปี จะได้รับเหรียญทอง 7.2 ล้านบาท เหรียญเงิน 4.8 ล้านบาท เหรียญทองแดง 3 ล้านบาท แนวทางนี้จะมียอดเงินในส่วนนักกีฬา 144,600,000 บาท ผู้ฝึกสอน 24,100,000 บาท สมาคมกีฬาฯ 12,000,000 บาท ซึ่งมีกระแสว่าอยากให้อัดฉีดเพิ่มเท่ากับนักกีฬาปกติทั่วไปเพราะก็สร้างชื่อเสียงเหมือนกัน

ทั้งนี้ รัฐบาลกำลังกำหนดวันในการจัดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จเพื่อมอบเงินให้นักกีฬาอยู่ เพราะเดินทางกลับมากันหมดแล้วแบ่งเป็น 2 ชุดคือ วันที่ 21 กับ 22 กันยายนที่ผ่านมา ส่วน พงศกร แปยอ นักกรีฑาวีลแชร์เรซซิ่ง เป็นนักกีฬาไทยคว้าเงินรางวัลจากรัฐบาลได้มากที่สุด 24 ล้านบาท จากผลงาน 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน โดย 2 เหรียญทอง ได้จาก วีลแชร์เรซซิ่ง 400 ม.ชาย ที 53, วีลแชร์เรซซิ่ง 800 ม.ชาย ที 53 ส่วน 2 เหรียญเงิน จากวีลแชร์เรซซิง 100 ม.ชาย ที 53, ผลัด 4x400 ม. ชาย ที 53-54

เมื่อพูดถึง พงศกร นั้น ถือเป็นเลือดใหม่ของทัพนักกีฬาคนพิการไทยและจะเป็นความหวังในอีก 4 ปีข้างหน้าที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพ ซึ่งการได้เห็นเช่นนี้ถือเรื่องดี เพราะเดิมที จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย หวังจะใช้ที่ประเทศบราซิลเก็บเกี่ยวประสบการณ์ แต่ดันทำได้ดีเกินคาดคว้าเหรียญทองเลยทีเดียวเมื่อได้เห็นผลงานอันน่าชื่นใจแบบนี้หัวเรือใหญ่จึงมีกำลังผลักดันเดินเครื่องต่อทันที

เห็นอย่างนี้แล้วปิดท้ายก็ต้องชื่นชมทางด้าน สิงห์ ที่คอยผลักดันจ่ายเงินสนับสนุนตลอด ยามไม่มีการแข่งขันก็รับนักกีฬามาเป็นพนักงานที่บริษัท ดังนั้นไม่อยากจะคิดเลยหากไม่มี “บิ๊กนิดหน่อย” หรือ จุตินันท์ นั้นจะเป็นเช่นไร อันนี้ต้องปรบมือให้ดัง ๆ เลย

ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/sport/ViewNews.aspx?NewsID=9590000096492 (ขนาดไฟล์: 166)

ที่มา: manager.co.thออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 25 ก.ย.59
วันที่โพสต์: 26/09/2559 เวลา 10:47:10 ดูภาพสไลด์โชว์ ชื่นชมคนพิการ...ชื่นชมสิงห์ / สรเดช

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

นักกรีฑาวีลแชร์เรซซิ่ง คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “สรเดช เพชรแสงใสกุล” : สัปดาห์ที่แล้วเรื่องลีดของหน้ากีฬานำความยอดเยี่ยมของนักกีฬาไทยที่ไปโกยเหรียญรางวัลคล้องคอเป็นว่าเล่นในศึก พาราลิมปิก เกมส์ 2016 ที่ ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิลมาเล่าสู่กันฟังไปแล้วทว่าตอนนั้นการแข่งขันยังไม่จบตัวเลขการันตีความยอดเยี่ยมยังไม่นิ่ง ล่าสุด ปิดฉากไปเรียบร้อยแล้วเมื่อเช้าวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย โดยผลงานนักกีฬาคนพิการไทยอยู่อันดับที่ 23 คว้าไป 6 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน และ 6 เหรียญทองแดง รวม 18 เหรียญ ดีกว่า 4 ปีที่แล้ว ที่ได้ที่ 31 รวม 8 เหรียญจาก 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงินและ 2 เหรียญทองแดง ซึ่งถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญรางวัลมากที่สุด พร้อมทำลายสถิติเดิม 5 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดงรวม 11 เหรียญ ที่เคยทำไว้เมื่อปี 2000 ที่นครซิดนีย์ประเทศออสเตรเลียอีกด้วย สำหรับนักกีฬาที่สร้างชื่อคว้าเหรียญทองก็นำโดย ประวัติ วะโฮรัมย์ และ พงศกร แปะยอ จากวีลแชร์ ซิวไปคนละ 2 เหรียญทอง ตามด้วยบอคเซียที่มี พัทธยา เทศทอง นำทัพ ส่วนเหรียญเงิน ก็มี สายสุนีย์ จ๊ะนะ จากฟันดาบ และเหรียญทองแดงคือ รุ่งโรจน์ ไทยนิยม จากเทเบิลเทนนิส แน่นอนว่า ต้องมีเงินอัดฉีดตอบแทนความมุ่งมั่นเกินร้อย แม้ร่างกายจะไม่เอื้ออำนวยแต่ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งใจได้ โดยเบื้องต้นรับเงินจากรัฐบาลราว 180,700,000 บาท โดยจะแบ่งเป็น 2 แนวทาง คือ ทางเลือกแรก รับเงินสดก้อนเดียว 100 เปอร์เซ็นต์ เหรียญทอง 6 ล้านบาท เหรียญเงิน 4 ล้านบาท เหรียญทองแดง 2.5 ล้านบาท โดยแนวทางนี้สรุปนักกีฬาจะรับเงิน 120,500,000 บาท ผู้ฝึกสอนรับ 24,100,000 บาท และสมาคมกีฬาฯ รับ 12,000,000 บาท รวมทั้งสิ้น 156,600,000 บาท ส่วนแนวทางที่สอง รับเงินสดก้อนแรก 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 50 เปอร์เซ็นต์ แบ่งจ่ายรายเดือนภายในเวลา 4 ปี จะได้รับเหรียญทอง 7.2 ล้านบาท เหรียญเงิน 4.8 ล้านบาท เหรียญทองแดง 3 ล้านบาท แนวทางนี้จะมียอดเงินในส่วนนักกีฬา 144,600,000 บาท ผู้ฝึกสอน 24,100,000 บาท สมาคมกีฬาฯ 12,000,000 บาท ซึ่งมีกระแสว่าอยากให้อัดฉีดเพิ่มเท่ากับนักกีฬาปกติทั่วไปเพราะก็สร้างชื่อเสียงเหมือนกัน ทั้งนี้ รัฐบาลกำลังกำหนดวันในการจัดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จเพื่อมอบเงินให้นักกีฬาอยู่ เพราะเดินทางกลับมากันหมดแล้วแบ่งเป็น 2 ชุดคือ วันที่ 21 กับ 22 กันยายนที่ผ่านมา ส่วน พงศกร แปยอ นักกรีฑาวีลแชร์เรซซิ่ง เป็นนักกีฬาไทยคว้าเงินรางวัลจากรัฐบาลได้มากที่สุด 24 ล้านบาท จากผลงาน 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน โดย 2 เหรียญทอง ได้จาก วีลแชร์เรซซิ่ง 400 ม.ชาย ที 53, วีลแชร์เรซซิ่ง 800 ม.ชาย ที 53 ส่วน 2 เหรียญเงิน จากวีลแชร์เรซซิง 100 ม.ชาย ที 53, ผลัด 4x400 ม. ชาย ที 53-54 เมื่อพูดถึง พงศกร นั้น ถือเป็นเลือดใหม่ของทัพนักกีฬาคนพิการไทยและจะเป็นความหวังในอีก 4 ปีข้างหน้าที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพ ซึ่งการได้เห็นเช่นนี้ถือเรื่องดี เพราะเดิมที จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย หวังจะใช้ที่ประเทศบราซิลเก็บเกี่ยวประสบการณ์ แต่ดันทำได้ดีเกินคาดคว้าเหรียญทองเลยทีเดียวเมื่อได้เห็นผลงานอันน่าชื่นใจแบบนี้หัวเรือใหญ่จึงมีกำลังผลักดันเดินเครื่องต่อทันที เห็นอย่างนี้แล้วปิดท้ายก็ต้องชื่นชมทางด้าน สิงห์ ที่คอยผลักดันจ่ายเงินสนับสนุนตลอด ยามไม่มีการแข่งขันก็รับนักกีฬามาเป็นพนักงานที่บริษัท ดังนั้นไม่อยากจะคิดเลยหากไม่มี “บิ๊กนิดหน่อย” หรือ จุตินันท์ นั้นจะเป็นเช่นไร อันนี้ต้องปรบมือให้ดัง ๆ เลย ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/sport/ViewNews.aspx?NewsID=9590000096492

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...