นักกรีฑาคนพิการไทยชีช้ำ!ไร้เงินรางวัลบนเวทีระดับโลก
ตลอดช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องบอกว่า ''วงการกีฬาไทย'' เจอ ''พายุมรสุมระดับทอร์นาโด'' ลูกใหญ่ถาโถมเข้ามาสร้างความเสียหายอย่างหนัก ชนิดที่ทำเอาหัวใจที่เคย พองโตของแฟนๆ กีฬาไทยห่อเหี่ยวจนเกิดอาการ เศร้า-เหงา-เซ็ง และเบื่อหน่ายกับข่าวฉาวที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในสัปดาห์นี้เหมือนจะเป็น "ฟ้าหลังฝน" ของ "วงการกีฬาไทย" เพราะท้องฟ้าที่พาดผ่าน "วงการกีฬาไทย" ในสัปดาห์นี้เริ่มสดใสแบบทันตา เรื่องราวร้ายๆ ต่างๆ เริ่มคลี่คลายและจางหาย พร้อมกับมีเรื่องราวดีๆ ผุดขึ้นมาบนหน้าหนังสือพิมพ์อย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ที่บอกเช่นนี้ เพราะช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา "ทัพนักกรีฑาคนพิการไทย" ที่ได้เดินทางไปแข่งขันรายการระดับโลกรายการแรกในปีนี้ สามารถสร้างความภาคภูมิใจให้ "แฟนกีฬาชาวไทย" กลับมามีรอยยิ้มพิมพ์ใจได้อีกครั้ง เมื่อ "พวกเขา" ทำผลงานในศึกกรีฑาคนพิการชิงแชมป์โลก "ไอพีซี แอธเลติกส์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2013" ที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าเหรียญรางวัลมาให้คนไทยได้ชื่นชมได้ถึง 2 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง
สำหรับผลงาน 2 เงิน 2 ทองแดง ของ "ทัพนักกีฬาคนพิการไทย" ในรายการศึกชิงแชมป์โลก ดังกล่าวนี้ 2 เหรียญเงิน ได้มาจาก "เบิ้ม" เรวัตร์ ต๋านะ ในประเภทวีลแชร์ เรซซิ่ง 1,500 ม.ชาย ที 54 และทีมผลัดวีลแชร์ 4 คูณ 400 ม. ที 53-54 ซึ่งมี 4 นักซิ่ง ประกอบด้วย "เบิ้ม" เรวัตร์ ต๋านะ, "เจ้าโอ๊ต" สายชล คนเจน, พิเชษฐ์ กรุงเกตุ และ สุขขุม น้ำลุน และ 2 ทองแดง จาก "เจ้าโอ๊ต" สายชล คนเจน ในรายการวีลแชร์ เรซซิ่ง 800 ม.ชาย ที 54 และวีลแชร์ เรซซิ่ง 200 ม.ชาย ที 54 และจากผลงานดังกล่าวนี้ ถือว่า "ทัพนักกีฬาคนพิการไทย" ประเดิมสนามแข่งขันแรกของปีนี้ได้อย่างสวยหรูเลยทีเดียว
ขณะที่ "เจ้าโอ๊ต" สายชล คนเจน กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่พวกเราสามารถคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้ 2 เงิน 2 ทองแดง มาฝากคนไทยได้สำเร็จ และพวกเราขอมอบเหรียญรางวัลในครั้งนี้ให้กับแฟนกีฬาชาวไทยทุกคน เพื่อเป็นการปลอบใจหลังต้องเจอกับข่าวเรื่องร้ายๆ มาตลอดช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา และหวังว่าแฟนกีฬาไทยจะเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาไทยตลอดไป
เป็นน่าน้อยใจแทน นักกีฬาคนพิการ ไทย ที่จะไม่ได้รับเงินรางวัลจาก "กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ" เหมือนกับ "นักกีฬาคนปกติ" ทั้งที่ สามารถคว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันรายการระดับโลกมาครองได้
"ผลงานในครั้งนี้ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะในการแข่งขันสามารถทำสถิติได้ดีขึ้นมากในหลายๆ รายการ จนสามารถเก็บคะแนนสะสมติดระดับเกรด เอ ได้ทุกรายการ แต่อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงสนามแรกในการเก็บคะแนนสะสมเพื่อไปเข้าร่วมแข่งขัน พาราลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ประเทศบราซิล และยังเหลืออีก 3 สนาม ที่จะแข่งขัน 3 ปีนับจากนี้ ทำให้จากนี้ไปตนต้องฟิตซ้อมอย่างต่อเนื่องเพื่อเก็บคะแนนสะสมผ่านเกณฑ์ไปเข้าร่วมการแข่งขัน พาราลิมปิกเกมส์ 2016 ให้ได้"
ด้าน "เบิ้ม" เรวัตร์ ต๋านะ กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากเช่นกันที่สามารถคว้าเหรียญเงิน วีลแชร์ 1,500 ม.ชาย ที 54 ในการแข่งขันชิงแชมป์โลก ในครั้งนี้มาครองได้สำเร็จ และถือเป็นผลงานเกินความคาดหมายมาก เนื่องจากเป็นเข้าร่วมการแข่งขันรายการะดับโลกในรอบ 8 ปี ของตนเองหลังจากเลิกเล่นไปอย่างยาวนานกว่า 8 ปีเต็มและเพิ่งกลับมาฝึกซ้อมได้เพียงปีเดียวเท่านั้น
"การคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้ถือว่าพลิกความคาดหมายเหมือนกัน ถึงแม้ว่าผมเองจะเป็นเจ้าสถิติก็ตาม แต่ผมเองร้างสนามไปนาน ทำให้ตอนแรกไม่ค่อยมั่นใจนักว่าจะทำได้ แต่สุดท้ายก็ทำได้สำเร็จ ทำให้ตอนนี้มีกำลังใจมากขึ้นทีเดียว ส่วนอนาคตหลังจากนี้ผมคงกลับไปฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องเพราะผมเองหวังไว้ว่าจะต้องกลับเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ให้ได้อีกครั้ง"
แต่ในขณะเดียวกัน จากประเด็นความสำเร็จของ "ทัพนักกรีฑาคนพิการ" ก็มีเรื่องที่น่าสนใจอยู่ประการหนึ่ง คือ "นักกรีฑาคนพิการ"" ที่สามารถคว้าเหรียญรางวัลมาครอง ได้ในศึกกรีฑาคนพิการชิงแชมป์โลกหนนี้ จะไม่ได้รับเงินรางวัลสนับสนุนความสำเร็จในรายการระดับโลก จากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เหมือนกับตอนที่ "นักกีฬาคนปกติ" ทำได้!
ทั้งที่ "นักกีฬาคนพิการ" ก็ทำเชื่อเสียงให้กับประเทศชาติเหมือนกัน! จนต้องขอบอกว่า...รู้สึกน้อยใจ...แทน "นักกีฬาคนพิการ" จริงๆ พร้อมขอตั้งคำถามว่า...ทำไม "กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ" จึงไม่มีข้อบังคับหรือกำหนดมอบเงินรางวัล ให้กับ "นักกีฬาคนพิการ" ทั้งที่พวกเขาทำชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ!! …. ช้ำ! กับความไม่เสมอภาคจริงๆ…-หมอเค- รายงาน
ขอบคุณ... http://m.siamsport.co.th/detail_news.asp?id=196168#.UfsNy6ykPZ4
สยามสปอร์ตออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 2 ส.ค.56
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
คณะนักกรีฑาวีลแชร์คนพิการไทย ตลอดช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องบอกว่า ''วงการกีฬาไทย'' เจอ ''พายุมรสุมระดับทอร์นาโด'' ลูกใหญ่ถาโถมเข้ามาสร้างความเสียหายอย่างหนัก ชนิดที่ทำเอาหัวใจที่เคย พองโตของแฟนๆ กีฬาไทยห่อเหี่ยวจนเกิดอาการ เศร้า-เหงา-เซ็ง และเบื่อหน่ายกับข่าวฉาวที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในสัปดาห์นี้เหมือนจะเป็น "ฟ้าหลังฝน" ของ "วงการกีฬาไทย" เพราะท้องฟ้าที่พาดผ่าน "วงการกีฬาไทย" ในสัปดาห์นี้เริ่มสดใสแบบทันตา เรื่องราวร้ายๆ ต่างๆ เริ่มคลี่คลายและจางหาย พร้อมกับมีเรื่องราวดีๆ ผุดขึ้นมาบนหน้าหนังสือพิมพ์อย่างต่อเนื่องเช่นกัน ที่บอกเช่นนี้ เพราะช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา "ทัพนักกรีฑาคนพิการไทย" ที่ได้เดินทางไปแข่งขันรายการระดับโลกรายการแรกในปีนี้ สามารถสร้างความภาคภูมิใจให้ "แฟนกีฬาชาวไทย" กลับมามีรอยยิ้มพิมพ์ใจได้อีกครั้ง เมื่อ "พวกเขา" ทำผลงานในศึกกรีฑาคนพิการชิงแชมป์โลก "ไอพีซี แอธเลติกส์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2013" ที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าเหรียญรางวัลมาให้คนไทยได้ชื่นชมได้ถึง 2 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง สำหรับผลงาน 2 เงิน 2 ทองแดง ของ "ทัพนักกีฬาคนพิการไทย" ในรายการศึกชิงแชมป์โลก ดังกล่าวนี้ 2 เหรียญเงิน ได้มาจาก "เบิ้ม" เรวัตร์ ต๋านะ ในประเภทวีลแชร์ เรซซิ่ง 1,500 ม.ชาย ที 54 และทีมผลัดวีลแชร์ 4 คูณ 400 ม. ที 53-54 ซึ่งมี 4 นักซิ่ง ประกอบด้วย "เบิ้ม" เรวัตร์ ต๋านะ, "เจ้าโอ๊ต" สายชล คนเจน, พิเชษฐ์ กรุงเกตุ และ สุขขุม น้ำลุน และ 2 ทองแดง จาก "เจ้าโอ๊ต" สายชล คนเจน ในรายการวีลแชร์ เรซซิ่ง 800 ม.ชาย ที 54 และวีลแชร์ เรซซิ่ง 200 ม.ชาย ที 54 และจากผลงานดังกล่าวนี้ ถือว่า "ทัพนักกีฬาคนพิการไทย" ประเดิมสนามแข่งขันแรกของปีนี้ได้อย่างสวยหรูเลยทีเดียว ขณะที่ "เจ้าโอ๊ต" สายชล คนเจน กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่พวกเราสามารถคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้ 2 เงิน 2 ทองแดง มาฝากคนไทยได้สำเร็จ และพวกเราขอมอบเหรียญรางวัลในครั้งนี้ให้กับแฟนกีฬาชาวไทยทุกคน เพื่อเป็นการปลอบใจหลังต้องเจอกับข่าวเรื่องร้ายๆ มาตลอดช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา และหวังว่าแฟนกีฬาไทยจะเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาไทยตลอดไป การแข่งขันกีฬา วีลแชร์เรซซิ่ง เป็นน่าน้อยใจแทน นักกีฬาคนพิการ ไทย ที่จะไม่ได้รับเงินรางวัลจาก "กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ" เหมือนกับ "นักกีฬาคนปกติ" ทั้งที่ สามารถคว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันรายการระดับโลกมาครองได้ "ผลงานในครั้งนี้ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะในการแข่งขันสามารถทำสถิติได้ดีขึ้นมากในหลายๆ รายการ จนสามารถเก็บคะแนนสะสมติดระดับเกรด เอ ได้ทุกรายการ แต่อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงสนามแรกในการเก็บคะแนนสะสมเพื่อไปเข้าร่วมแข่งขัน พาราลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ประเทศบราซิล และยังเหลืออีก 3 สนาม ที่จะแข่งขัน 3 ปีนับจากนี้ ทำให้จากนี้ไปตนต้องฟิตซ้อมอย่างต่อเนื่องเพื่อเก็บคะแนนสะสมผ่านเกณฑ์ไปเข้าร่วมการแข่งขัน พาราลิมปิกเกมส์ 2016 ให้ได้" ด้าน "เบิ้ม" เรวัตร์ ต๋านะ กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากเช่นกันที่สามารถคว้าเหรียญเงิน วีลแชร์ 1,500 ม.ชาย ที 54 ในการแข่งขันชิงแชมป์โลก ในครั้งนี้มาครองได้สำเร็จ และถือเป็นผลงานเกินความคาดหมายมาก เนื่องจากเป็นเข้าร่วมการแข่งขันรายการะดับโลกในรอบ 8 ปี ของตนเองหลังจากเลิกเล่นไปอย่างยาวนานกว่า 8 ปีเต็มและเพิ่งกลับมาฝึกซ้อมได้เพียงปีเดียวเท่านั้น "การคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้ถือว่าพลิกความคาดหมายเหมือนกัน ถึงแม้ว่าผมเองจะเป็นเจ้าสถิติก็ตาม แต่ผมเองร้างสนามไปนาน ทำให้ตอนแรกไม่ค่อยมั่นใจนักว่าจะทำได้ แต่สุดท้ายก็ทำได้สำเร็จ ทำให้ตอนนี้มีกำลังใจมากขึ้นทีเดียว ส่วนอนาคตหลังจากนี้ผมคงกลับไปฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องเพราะผมเองหวังไว้ว่าจะต้องกลับเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ให้ได้อีกครั้ง" แต่ในขณะเดียวกัน จากประเด็นความสำเร็จของ "ทัพนักกรีฑาคนพิการ" ก็มีเรื่องที่น่าสนใจอยู่ประการหนึ่ง คือ "นักกรีฑาคนพิการ"" ที่สามารถคว้าเหรียญรางวัลมาครอง ได้ในศึกกรีฑาคนพิการชิงแชมป์โลกหนนี้ จะไม่ได้รับเงินรางวัลสนับสนุนความสำเร็จในรายการระดับโลก จากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เหมือนกับตอนที่ "นักกีฬาคนปกติ" ทำได้! \"เจ้าโอ๊ต\" สายชล คนเจน ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ทั้งที่ "นักกีฬาคนพิการ" ก็ทำเชื่อเสียงให้กับประเทศชาติเหมือนกัน! จนต้องขอบอกว่า...รู้สึกน้อยใจ...แทน "นักกีฬาคนพิการ" จริงๆ พร้อมขอตั้งคำถามว่า...ทำไม "กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ" จึงไม่มีข้อบังคับหรือกำหนดมอบเงินรางวัล ให้กับ "นักกีฬาคนพิการ" ทั้งที่พวกเขาทำชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ!! …. ช้ำ! กับความไม่เสมอภาคจริงๆ…-หมอเค- รายงาน ขอบคุณ... http://m.siamsport.co.th/detail_news.asp?id=196168#.UfsNy6ykPZ4 สยามสปอร์ตออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 2 ส.ค.56
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)