เศรษฐา สะใจ ไทยผงาดอันดับ 8 'เอเชียนเกมส์ ' - ยาหอมนักกีฬาคนพิการ รัฐพร้อมหนุน
นายกรัฐมนตรีเปิดทำเนียบรัฐบาล ร่วมต้อนรับและแสดงความยินดีต่อเหล่านักกีฬาทีมชาติไทย นักกีฬาคนพิการ "พาราไทย" ที่ร่วมกันสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย ผ่าน เอเชียนเกมส์ และ เอเชียนพาราเกมส์ ที่ประเทศจีน ย้ำภารกิจรัฐคือหาแหล่งเงินทุน เพื่อสนับสนุนให้กับวงการกีฬา
นายกรัฐมนตรีเปิดทำเนียบรัฐบาล ร่วมต้อนรับและแสดงความยินดีต่อเหล่านักกีฬาทีมชาติไทย นักกีฬาคนพิการ "พาราไทย" ที่ร่วมกันสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย ผ่าน เอเชียนเกมส์ และ เอเชียนพาราเกมส์ ที่ประเทศจีน ย้ำภารกิจรัฐคือหาแหล่งเงินทุน เพื่อสนับสนุนให้กับวงการกีฬา
ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในงานเลี้ยงแสดงความยินดีให้แก่ นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬา และคณะเจ้าหน้าที่ ซึ่งเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 และกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 ณ เมืองหางโจว ประเทศจีน โดยมี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี, นายณณัฐ หงส์ชูเวช ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายกิตติ เชาวน์ดี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)
ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) ,พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ , ร.ท.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกเเห่งประเทศไทย, พล.ต.โอสถ ภาวิไล เลขาธิการคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย และประธานสหพันธ์กีฬาคนพิการแห่งอาเซียน พร้อมด้วยผู้บริหารของแต่ละสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย นำคณะนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่เข้าร่วม
ผลงานของนักกีฬาทีมชาติไทย ในกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ทำได้ 12 เหรียญทอง 14 เหรียญเงิน 32 เหรียญทองแดง จบอันดับ 8 ของตารางรวมเหรียญรางวัล ส่วน เอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 ทำได้ 27 เหรียญทอง 26 เหรียญเงิน 55 เหรียญทองแดง จบเป็นอันดับที่ 7 ของตารางรวมเหรียญรางวัล
รัฐบาลประกาศเดินหน้าสนับสนุนวงการกีฬาทุกมิติ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวในงานว่า ผลงานของนักกีฬาไทยเอเชียนเกมส์ และเอเชียนพาราเกมส์ ถือว่าประสบความสำเร็จ บางกีฬาอาจผิดหวังบ้าง บางกีฬาทำได้เกินคาด ผลงานอันดับ 8 ในเอเชียนเกมส์ ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับประชากรไทย และสูงเกินความคาดหมาย รัฐบาลพร้อมหาแหล่งเงินทุนเพื่อสนับสนุนให้กับวงการกีฬาที่ไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ซึ่งจะต้องพัฒนาเชิงพื้นฐานอีกมาก ปัจจัยที่ขาดไม่ได้คือแหล่งเงินทุน ความเอาใจใส่จากภาครัฐในการดูแลที่เหมาะสม และเสมอภาค รวมทั้งเรื่องผู้ฝึกสอน ยืนยันว่ารัฐบาลจะหาแหล่งเงินทุนเป็นขวัญกำลังใจให้กับนักกีฬา ได้จัดทำโครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจพลัส รวมทั้งแต่งตั้งที่ปรึกษาด้านกีฬา เพื่อพัฒนาวงการกีฬา โดยตั้งใจว่าเงินที่นักกีฬาจะได้รับจะสูงขึ้นแน่นอน เช่นเดียวกับนักฬาคนพิการที่จะยกระดับค่าตอบแทนให้สูงขึ้น ทั้งกลไกการจ้างงาน และสิทธิประโยชน์ด้านภาษี
"พูดในฐานะคนไทย ที่ชื่นชอบเรื่องกีฬามาโดยตลอด อันดับ 8 ในเอเชียนเกมส์ เป็นอันดับที่สูงเกินความคาดหมายของคนไทย วันนี้มาเป็นนายกรัฐมนตรีหน้าที่ของผม คือหาแหล่งเงินทุนมาเพื่อที่จะนำมาให้ กับนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ที่ไปทำชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในทุกโอกาสทุกการแข่งขันที่ผ่านมา แต่เหนือสิ่งอื่นใดผมเชื่อว่า การพัฒนาวงการกีฬาของเราจะต้องมีการพัฒนาในเชิงพื้นฐานอยู่มาก ซึ่งปัจจัยที่ขาดไม่ได้เลยในการพัฒนากีฬาคือการให้ความเอาใจใส่จากภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์การกีฬาให้สมาคมกำกับดูแลเพื่อความเหมาะสมเสมอภาค เท่าเทียม จัดหาผู้ฝึกสอนที่มีคุณภาพมาพัฒนานักกีฬาของเราไปสู่ลำดับโลกให้ได้ และหน้าที่ของรัฐบาลอีกอย่างคือการหาแหล่งเงินทุนเพื่อเป็นขวัญและแรงจูงใจ ให้ทัพนักกีฬาได้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ นักกีฬาที่เป็นตัวแทน ได้ผลตอบแทนที่เหมาะสมสามารถมีทุนทรัพย์ไปพัฒนาขีดความสามารถของตนเองให้ได้มากขึ้น รวมถึงตั้งตัวประกอบอาชีพต่อไปในอนาคตได้"
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลนี้มีนโยบาย 1 รัฐวิสาหกิจ 1 ประเภทกีฬาขึ้นมา อีกครั้ง หลังจากที่รัฐบาลไทยรักไทยเคยทำมาแล้ว และวันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการเพื่อที่จะจัดการแต่งตั้งเรื่องนี้ขึ้นมาให้เป็นกิจจะลักษณะ รัฐบาลมั่นใจว่าขวัญและแรงใจที่นักกีฬาจะได้รับจะต้องสูงขึ้นอย่างแน่นอน รัฐบาลนี้มีการแต่งตั้ง ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลของวงการกีฬา สำหรับพาราลิมปิก นักกีฬาผู้พิการ พยายามที่จะยกระดับผลตอบแทนให้สูงขึ้น นอกจากนี้ได้สั่งการคณะกรรมการ สั่งการดูแลรัฐวิสาหกิจด้านการกีฬาหาทุนทรัพย์ มาดูแลกีฬาของคนพิการอีกด้วย
มอบเงินสนับสนุนตอบแทนการทำผลงานสุทธิ 353 ล้านบาท
สำหรับนักกีฬาทีมชาติไทย และนักกีฬาคนพิการไทย ได้รับเงินรางวัลจากการแข่งขันรวมทั้งหมด 353,925,000 บาท ( สามร้อยห้าสิบสามล้านบาทเก้าแสนสองหมื่นห้าพันบาท ) ประกอบด้วย ผลงานในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ได้ 12 เหรียญทอง 14 เหรียญเงิน 32 เหรียญทองแดง โดยตามหลักเกณฑ์ของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จะได้รับเงินรางวัล เหรียญทองละ 2 ล้านบาท, เหรียญเงินละ 1 ล้านบาท และเหรียญทองแดงละ 500,000 บาท สรุปเหรียญรางวัลของนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬา ได้รับเงินรางวัลรวมทั้งสิ้น 244,200,000 บาท แบ่งแยกตามแต่ละสมาคมกีฬา ดังนี้
1.สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 10,500,000 บาท
2.สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 18,000,000 บาท
3.สมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 8,250,000 บาท
4.สมาคมกีฬาคาราเต้แห่งประเทศไทย 1,500,000 บาท
5.สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 2,250,000 บาท
6.สมาคมกีฬาคูราชแห่งประเทศไทย 1,500,000 บาท
7.สมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย 4,500,000 บาท
8.สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย 86,800,000 บาท
9.สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย 7,500,000 บาท
10.สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 1,500,000 บาท
11.สมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย 3,750,000 บาท
12.สมาคมกีฬาบริดจ์แห่งประเทศไทย 4,500,000 บาท
13.สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 6,300,000 บาท
14.สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย 7,500,000 บาท
15.สมาคมกีฬายิงเป้าบินแห่งประเทศไทย 2,250,000 บาท
16.สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย 3,750,000 บาท
17.สมาคมกีฬายูยิตสูแห่งประเทศไทย 1,500,000 บาท
18.สมาคมกีฬาเรือพายแห่งประเทศไทย 44,450,000 บาท
19.สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย 8,400,000 บาท
20.สมาคมกีฬาวินด์เซิร์ฟแห่งประเทศไทย 5,250,000 บาท
21.สมาคมกีฬาเอ็กซ์ตรีมแห่งประเทศไทย 1,500,000 บาท
22.สมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย 12,750,000 บาท
ขณะที่นักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ทำผลงานในกีฬาเอเชี่ยนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 ได้ 27 เหรียญทอง 26 เหรียญเงิน 55 เหรียญทองแดง โดยตามหลักเกณฑ์ของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จะได้รับเงินรางวัล เหรียญทองละ 1 ล้านบาท, เหรียญเงินละ 500,000 บาท และเหรียญทองแดงละ 250,000 บาท สรุปเหรียญรางวัลของนักกีฬาคนพิการ ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬา ได้รับเงินรางวัลรวมทั้งสิ้น 109,725,000 บาท แบ่งแยกตามแต่ละสมาคมกีฬา ดังนี้
1.สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยฯ 86,400,000 บาท
2.สมาคมกีฬาคนพิการทางสมองแห่งประเทศไทย 10,875,000 บาท
3.สมาคมกีฬาคนพิการทางปัญญาแห่งประเทศไทย 3,000,000 บาท
4.สมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย 9,450,000 บาท
ที่มา: komchadluek.net/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 8 พ.ย.66
วันที่โพสต์: 8/11/2566 เวลา 11:24:50 
