กกท.พร้อมผลักดันศึก 2 ล้อ คนพิการสู้ศึกอาเซียนพาราเกมส์
กกท. พร้อมผลักดันจักรยานคนพิการให้มีการแข่งขันภายใน เพื่อเตรียมส่งชิงชัยในรายการระดับนานาชาติ หลังพบว่าในกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ 2017 ที่มาเลเซีย เจ้าภาพมีบรรจุกีฬานี้ แต่ไทยเราไม่ได้ส่งไปแข่ง ทำให้เสียโอกาสไปพอสมควร นอกจากนี้ กกท.ยังพร้อมหนุนหลังเต็มที่ในการเตรียมนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทยเพื่อสู้ศึกเอเชียนพาราเกมส์2018ที่อินโดนีเซีย
ความเคลื่อนไหวของทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย หลังจากคว้าอันดับ 3 ไม่สามารถป้องกันเจ้าเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งอาเซียน ครั้งที่ 9 “อาเซียน พาราเกมส์ 2017” ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยทำผลงานคว้าได้ 68 เหรียญทอง 72 เหรียญเงิน 92 เหรียญทองแดง ขณะที่ตำแหน่งแชมป์เจ้าเหรียญทองเป็นของอินโดนีเซีย คว้าได้ 126 เหรียญทอง 75 เหรียญเงิน 50 เหรียญทองแดง ส่วนเจ้าภาพมาเลเซีย รั้งอันดับ 2 คว้า 90 เหรียญทอง85เหรียญเงิน84เหรียญทองแดงนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย พร้อมด้วยผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่ได้ออกเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG416 และ TG 418 เดินทางกลับมาถึงยังท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิเป็นที่เรียบร้อย
“บิ๊กเสือ” นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า การแข่งขันครั้งนี้ เรื่องการจัดคลาสและรวมคลาสไม่น่าจะส่งผลการแข่งขันแพ้ชนะของนักกีฬาไทยมากเท่าไร และแพ้เยอะขนาดนี้ เพราะทุกชาติต่างก็จะต้องเจอเช่นกัน ซึ่งส่วนตัวแล้วคาดผิดเหมือนกันว่าไทยและมาเลเซียน่าจะทำผลงานได้สูสีกันแต่กลับเป็นอินโดนีเซียที่ทำผลงานได้ดีเกินคาด
ผู้ว่าการ กกท.กล่าวต่อว่า สำหรับกีฬาจักรยานที่มีชิงชัย 26 เหรียญทอง ในอาเซียนพาราเกมส์ครั้งนี้ แต่ไทยไม่ได้ส่งนักกีฬามาเข้าร่วมชิงชัยนั้น จริงๆแล้วเรามีนักกีฬาจักรยาน และเคยมีการเสนอขอให้มีจักรยานบรรจุแข่งขันในกีฬาคนพิการแห่งชาติ ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้มีการพัฒนาอย่างเต็มที่ ดังนั้น ก็จะต้องกลับไปดูแลในส่วนของกีฬาจักรยานให้มีการพัฒนาอย่างจริงจัง พร้อมกับเปิดโอกาสให้ได้มีการฝึกซ้อม และส่งเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติต่อไป
“ส่วนการเตรียมทีมนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทยเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันเอเชียนพาราเกมส์ 2018 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ในปีหน้านั้น กกท.พร้อมสนับสนุนในเรื่องของการเก็บตัวฝึกซ้อมเตรียมนักกีฬาของแต่ละสมาคมกีฬาคนพิการ เรื่องนี้ไม่มี ปัญหา แต่อยากให้มีการสร้างนักกีฬาหน้าใหม่ขึ้นมาเพิ่มเติม และมีการประเมินนักกีฬาซึ่งจะส่วนสำคัญในการพัฒนาอย่างยั่งยืน”นายสกลกล่าว