รายละเอียดกระทู้

นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ กกท. เป็นประธานในการแถลงข่าวความพร้อมการแข่งขันกีฬาฟุตซอลคนหูหนวกชิงแชมป์โลกครั้งที่ 4 พ.ศ. 2558 โดยมี มร.คริสตอฟ นิคเคลาส์ ประธานฝ่ายเทคนิค สหพันธ์ฟุตซอลคนหูหนวกนานาชาติ, พลตรีโอสถ ภาวิไล นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย (ประธานฝ่ายเทคนิคกีฬา) และนายอนุสรณ์ พิมงา ประธานกรรมการสาขาสนามแข่งขันและสนามซ้อม ฝ่ายเทคนิคกีฬา ร่วมแถลง ที่ห้องประชุม ชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา กกท. เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2558 นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ กกท. นายสกล กล่าวว่า เรามีความพร้อมและมั่นใจว่าการจัดการแข่งขันครั้งนี้ จะออกมายิ่งใหญ่ และสร้างความภาคภูมิให้สมกับที่สหพันธ์คนหูหนวกโลกไว้วางใจให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ได้รับเกียรติในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ภายใต้งบประมาณ 72 ล้านบาท คณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันฯ ได้เตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้านตั้งแต่สนามการแข่งขันทั้ง 4 สนาม ได้แก่ อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ, อาคารกีฬาเวสน์ 1 และ 2 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง และอินดอร์สเตเดี้ยม กกท. หัวหมาก ซึ่ง กกท. ได้ทำการปรับปรุงสถานที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทัพนักกีฬาคนพิการตามมาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็น อาคารสนามแข่งขัน พื้นสนาม ห้องน้ำ ลิฟท์ ห้องทำงาน อาหาร-ที่พัก การเดินทางของนักกีฬาและอุปกรณ์การแข่งขันเป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้จัดเตรียมล่ามเพื่อการประสานงานให้การแข่งขันเป็นไปอย่างราบรื่น เช่นเดียวกับการประชาสัมพันธ์ที่เราจัดทำควบคู่ไปทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมทั้งมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันทุกแมตช์เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้รับชม มีส่วนร่วมและร่วมส่งแรงใจเชียร์นักกีฬาไทยได้อย่างทั่วถึง โดยได้รับความสนับสนุนจากภาคเอกชนหลักถึง 9 องค์กร ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 19-28 พฤศจิกายนนี้ พล.ต.โอสถ ภาวิไล นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย (ประธานฝ่ายเทคนิคกีฬา) กล่าวว่า สำหรับคนในแวดวงกีฬาจะเห็นว่ากีฬาฟุตซอลคนหูหนวกได้พัฒนาการอย่างต่อเนื่องผสมผสานไปกับการเตรียมความพร้อมเพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพผ่านเว็บไซต์ทางการของเราคือ http://www.2015worlddeaffutsal.com และเป็นที่น่ายินดีมากว่า ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างสนับสนุนร่วมแรงผลักดันให้คนพิการเข้าถึงกีฬา เพื่อช่วยเสริมสร้างสังคมให้เข้มแข็ง ที่ผ่านมาทีมฟุตซอลคนหูหนวกของเราได้แสดงศักยภาพด้วยการคว้าแชมป์มาแล้ว แม้ทางสรีระเราจะด้อยกว่าชาติทางยุโรป แต่คนไทยเราได้เปรียบตรงความคล่องตัวสูง ประสบการณ์นักกีฬาฟุตซอลคนหูหนวกไทย ก็มีพอตัวแล้วก็ได้แสดงให้ชาวโลกเห็นแล้วว่าคนพิการก็มีทักษะทางกีฬาเป็นเลิศ การที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ เรื่องเกมการแข่งขัน เราเตรียมพร้อมอย่างดีทั้งทีมชายและทีมหญิง เพื่อทำผลงานให้ออกมาดีที่สุด ผมมั่นใจว่าทีมของเราจะสร้างผลงานออกมาดี โดยเราต้องการพิสูจน์ให้ทั่วโลกเห็นว่าคนพิการไทยก็มีความสามารถ อีกประการหนึ่งที่มุ่งเน้นมาตลอดไม่ว่าจะเป็นการแข่งในหรือนอกประเทศ นั่นคือการนำความงดงามของวัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่ ไม่ว่าจะเป็นความนอบน้อมถ่อมตน กิริยามารยาทและการไหว้ ดังนั้น ครั้งนี้ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ เราจัดเต็มทั้งกีฬาและวัฒนธรรม รวมถึงเป็นโอกาสอันดีที่เราในนามประเทศไทยจะแสดงให้เห็นว่า เราทำได้และทำได้ดี สอดคล้องกับมาตรฐานสากลเพื่อยกระดับมาตรฐานกีฬาไทยเปิดเส้นทางสู่เวทีโลกอย่างเต็มภาคภูมิ นายอนุสรณ์ พิมงา ประธานกรรมการสาขาสนามแข่งขันและสนามซ้อม ฝ่ายเทคนิคกีฬา กล่าวว่า สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลทางด้านเทคนิคกีฬา และการเตรียมความพร้อมของทีม ได้จัดการแข่งขันทดสอบระบบฯ ขึ้น เมื่อวันที่ 29-31 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา เพื่อทำการทดสอบความพร้อมของการจัดการแข่งขันในด้านต่างๆ อาทิ ด้านอาหารและที่พัก, ด้านการเดินทางของนักกีฬา, ด้านความพร้อมของสนามแข่งขัน และด้านการจัดการแข่งขัน โดยมีทีมเข้าร่วม 4 ทีมประกอบด้วย ทีมชาติไทย (ทีมชาย), ทีมสมุทรปราการ, ทีมนครปฐม และทีมทูเซเว่น สปอร์ต แข่งขันที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก ซึ่งทุกอย่างนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น ส่วนปัญหาที่พบก็ได้มีการปรับปรุงแก้ไขให้แล้วเสร็จ พร้อมแล้วกับบทบาทเจ้าภาพในการแข่งขันระดับโลก ที่ผ่านมาทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้หารืออย่างจริงจัง พร้อมลงพื้นที่จริง จัดหางบประมาณ ปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้สนามและเทคนิคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการแข่งขันมีความพร้อมเป็นไปตามมาตรฐานสากลมากที่สุดเพราะการจัดเตรียมสนามในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่การจัดฟุตซอล ชิงแชมป์โลกเท่านั้น เรายังมองไปถึงการได้สิทธิเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันในครั้งต่อๆ ไปด้วย ดังนั้นในครั้งนี้จึงยินดีที่จะเรียนว่า เรามีศักยภาพความพร้อมที่จะแสดงให้ชาติอื่นๆ เห็น ทั้งในทุกๆ ด้านทางกีฬาและใส่ใจในทุกๆ รายละเอียดที่ผู้มาเยือนจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน ขอบคุณ... http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1447668455