ทัพไทยซ้อมเข้มเตรียมพาราลิมปิก 2024 – ส่งเยาวชนบุกบาห์เรนล่าทองเอเชี่ยนยูธ
ความเคลื่อนไหวทัพนักกีฬาพาราไทย หลังจากทัพนักกีฬาพาราลิมปิกไทยประสบความสำเร็จอย่างสูงคว้า 5 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดงจากมหกรรมกีฬาพาราลิมปิก โตเกียว 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อเป็นการสานต่อความสำเร็จของทัพนักกีฬาพาราลิมปิกไทยที่จะต่อยอดไปสู่พาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยขณะนี้ได้เตรียมทีมนักกีฬาพาราลิมปิกเยาวชนเข้าแคมป์เตรียมสู้ศึกกีฬาเยาวชนชิงแชมป์แห่งทวีปเอเชีย “เอเชี่ยน ยูธ พาราเกมส์ 2021” ที่กำลังจะจัดแข่งขันระหว่างวันที่ 2-6 ธันวาคม ที่ประเทศบาห์เรน จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราไทย หวังเป็นเวทีสร้างนักกีฬาหน้าใหม่
นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นักกีฬาพาราไทยทุกคนตั้งใจจะทำผลงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม แน่นอนว่าทุกคนภูมิใจกับผลงานที่ผ่านมา แต่เราเป็นนักกีฬา ต้องทำให้ดีกว่าเดิม เพราะในอีก 3 ปีข้างหน้านักกีฬาพาราจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกจะพัฒนาไปไกลมากเพื่อไปชิงชัยความสำเร็จกันที่พาราลิมปิก ปารีส 2024 ดังนั้นเราต้องตามให้ทันและพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น เรายังมีเวลาอีก 3 ปีที่จะเตรียมทีม และพัฒนาผลงานนักกีฬาหน้าใหม่ ขอขอบคุณกำลังใจจากพี่น้องประชาชนคนไทยที่ช่วยส่งมาให้นักกีฬาพาราทีมชาติไทยที่ได้ช่วยกันสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติมาอย่างต่อเนื่อง ขอขอบคุณความพยายามของนักกีฬาทุกคน ซึ่งในพาราลิมปิก โตเกียว 2020 นักกีฬาพาราไทยได้สร้างสถิติใหม่ขึ้นมาในหลายชนิดกีฬา แต่ที่มากไปกว่านั้นคือ ความต่อเนื่องในการสร้างนักกีฬาคลื่นลูกใหม่ให้ก้าวขึ้นมาสานต่อความสำเร็จจากที่นักกีฬารุ่นพี่ได้สร้างผลงานไว้ นับเป็นความภาคภูมิใจที่สุด และในพาราลิมปิกอีก 3 ปีข้างหน้า คณะกรรมพาราลิมปิกฯ ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดทั้งกับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และ 5 สมาคมคือ สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยฯ, สมาคมกีฬาพิการทางปัญญาแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาคนพิการทางสมองแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาคนหูหนวกแห่งประเทศไทย ในพาราลิมปิก โตเกียว 2020 ที่ผ่านมา เราได้เห็นชัดเจนแล้วว่าวิวัฒนาการของการแข่งขันกีฬาคนพิการดุเดือดมากขึ้น กติกาการแข่งขันมีการปรับเพิ่ม และเปลี่ยนแปลง ดังนั้นจะฝึกซ้อมอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องหมั่นตรวจสอบกฎ กติกาด้วย รวมไปถึงการนำเอาวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้อย่างจริงจัง เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะนักกีฬาให้มีความสมบูรณ์ที่สุดใน “พาราลิมปิก ปารีส 2024”
นายจุตินันทน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับการแข่งขัน “เอเชี่ยน ยูธ พาราเกมส์ 2021” นักกีฬาพาราเยาวชนไทยจะนำโดยนักกีฬาฝีมือดีๆ อาทิ “ฟิว” อธิวัฒน์ แพงเหนือ เจ้าของเหรียญทองวีลแชร์เรซซิ่ง 100 เมตรชาย คลาส T 54 ศึกพาราลิมปิก โตเกียว 2020 และอีกหลายๆ คน จึงมั่นใจสูงว่าเราจะมีเหรียญอย่างแน่นอน ส่วนกีฬาชนิดอื่นๆ เป็นนักกีฬาหน้าใหม่ซึ่งได้มีการเก็บตัวฝึกซ้อมมาตลอด โดยเฉพาะบอคเซียที่ได้ซ้อมกับทีมชาติชุดใหญ่ทำให้เชื่อมั่นว่าจะทำผลงานออกมาได้ดีตามที่วางเป้าไว้
ด้าน นายชูเกียรติ สิงห์สูง นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย เผยว่า สำหรับนักกีฬาคนพิการในส่วนของสมาคมฯ คือ เทเบิลเทนนิส จำนวน 11 คน กรีฑาแขน-ขา จำนวน 6 คน วีลแชร์เรซซิ่ง จำนวน 4 คน แบดมินตัน จำนวน 3 คน ว่ายน้ำ จำนวน 12 คน เทควันโด 4 คน ยกน้ำหนัก 2 คน และวีลแชร์บาสเกตบอล จำนวน 12 คน ซึ่งทุกคนผ่านการฝึกซ้อมมาอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าจะทำผลงานได้ดีแน่นอน “จากที่ได้ประเมินความหวังเฉพาะกีฬาที่อยู่ในความดูแลของสมาคมฯ นั้น คาดว่าจะได้ 16 เหรียญทอง คือ เทเบิลเทนนิส 9 เหรียญทอง ว่ายน้ำ 3 เหรียญทอง แบดมินตัน 2 เหรียญทอง วีลแชร์เรซซิ่ง 1 เหรียญทอง และเทควันโด 1 เหรียญทอง” นายกสมาคมกีฬาคนพิการกล่าว
ขณะที่ “น้องขวัญ” ขวัญสุดา พวงกิจจา เจ้าของเหรียญทองแดงพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว กล่าวว่าเอเชียน ยูส พาราเกมส์ ครั้งนี้กีฬาเทควันโดคนพิการเข้าร่วมการแข่งขันเป็นครั้งแรก ก็อยากจะพยายามทำให้เต็มที่สุดเพื่อสร้างประวัติศาสตร์ ให้กับตัวเองและเทควันโดคนพิการไทยอีกครั้ง ตอนนี้สภาพความฟิตประมาณ 80 เปอร์เช็น เพราะต้องควบคุมน้ำหนักให้คงที่ ซึ่งยังมีเวลาฟิตซ้อมร่างกายตามแผนที่โค้ชวางไว้ และเมื่อถึงวันเดินทางก็จะสมบูรณ์เต็มที่
สำหรับการแข่งขัน กีฬาเยาวชนชิงแชมป์แห่งทวีปเอเชีย “เอเชี่ยน ยูธ พาราเกมส์ 2021” จัดแข่งขันระหว่างวันที่ 2-6 ธันวาคมนี้ ที่ประเทศบาห์เรน ซึ่งเป็นการจัดครั้งที่ 4 โดยนักกีฬาไทยได้โควต้าเข้าไปร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 107 คน จาก 9 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กรีฑา, ว่ายน้ำ, แบดมินตัน, เทเบิลเทนนิส, ยกน้ำหนัก, เทควันโด, วีล