ดร.ก้องศักด ปลื้มผลงานทัพไทย กวาด 33 ทอง ศึกเอเชี่ยนยูธพารา
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศ ขอแสดงความชื่นชมยินดี กับความสำเร็จของคณะนักกีฬาคนพิการเยาวชนไทย ในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนยูธพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 ที่จัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 2 – 6 ธันวาคม 2564
โดยประเทศไทยส่งคณะนักกีฬาคนพิการเยาวชนไทยและเจ้าหน้าที่กว่า 193 ชีวิตเข้าร่วมชิงชัยใน 9 ชนิดกีฬา โดยผลเหรียญรางวัลอย่างไม่เป็นทางการ นักกีฬาไทยสามารถสร้างผลงานคว้าเหรียญรางวัลได้ถึง 33 เหรียญทอง 24 เหรียญเงิน 19 เหรียญทองแดง รวมทั้งสิ้น 76 เหรียญ
ดร.ก้องศักด กล่าวว่า “ขอขอบคุณความตั้งใจของคณะนักกีฬาคนพิการเยาวชนไทยในการแข่งขันครั้งนี้ ที่เก็บตัวฝึกซ้อมภายใต้สถานการณ์โควิด-19 และมีความมุ่งมั่นในการเข้าแข่งขันอย่างเต็มความสามารถ จนสามารถสร้างผลงานในการแข่งขันครั้งนี้ได้อย่างดีกว่าการแข่งขันเอเชี่ยนยูธพาราเกมส์ครั้งก่อนที่ดูไบ ที่ทำได้ 19 เหรียญทอง 15 เหรียญเงิน 19 เหรียญทองแดง จะเห็นได้ว่า นอกจากผลงานรวมที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ผู้ที่เคยเข้าแข่งขันทำผลงานในพาราลิมปิกเกมส์ที่โตเกียวเมื่อกลางปี 2564 เช่น อธิวัฒน์ แพงเหนือ จากชนิดกีฬากรีฑา วีลแชร์เรสซิ่ง, ลดามณี กล้าหาญ จากชนิดกีฬาบอคเซีย ก็ยังคงรักษามาตรฐานได้อย่างยอดเยี่ยม
“เรายังมีนักกีฬาคนพิการดาวรุ่งที่มีผลงานโดดเด่นเกิดขึ้นในการแข่งขันครั้งนี้อีกมากมาย อาทิ “น้องฟา” ณัฏฐิดา สุชาติพงศ์ นักกีฬายกน้ำหนักพาวเวอร์ลิฟติ้ง รุ่น -50 กก. ที่สามารถคว้าเหรียญทองได้ในการแข่งขันครั้งแรก ทีมวีลแชร์บาสเกตบอล ที่สามารถเอาชนะทีมชั้นนำของเอเชียจนสามารถคว้าเหรียญทองแดงมาครองได้ในการแข่งขันครั้งแรกที่เข้าร่วมเช่นกัน ทีมนักกีฬากีฬาบอคเซียรุ่นเยาวชนที่คว้าเหรียญรางวัลได้มากมาย นักกีฬากรีฑาและว่ายน้ำรุ่นเยาวชนที่สามารถสร้างสถิติได้ในระดับเอเชีย และอีกหลายชนิดกีฬา ซึ่งนักกีฬาเหล่านี้จะเป็นกำลังหลักที่จะเติบโตขึ้นไปเสริมทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติชุดใหญ่ที่จะต่อยอดความสำเร็จไปสู่การแข่งขันเอเชียนพาราเกมส์ที่หางโจวในปีหน้า และมุ่งไปสู่พาราลิมปิกเกมส์ที่ปารีสในปี 2024 ต่อไป”
“การกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมที่จะสนับสนุนทั้งด้านการเก็บตัวฝึกซ้อม ส่งแข่งขัน และการสนับสนุนด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อส่งเสริมให้นักกีฬา เจ้าหน้าที่ ตลอดจนถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้พัฒนาขีดความสามารถของตนเองไปสู่เป้าหมายที่สูงยิ่งขึ้น เพื่อนำความสำเร็จและความสุขมาให้ประชาชนชาวไทยต่อไป”