"ปุ๋ย-วิจิตรา"ตบชนะเยอรมันคว้าแชมป์โลกปิงปองพารา
"ปุ๋ย" วิจิตรา ใจอ่อน ตบลูกเด้งสาวไทยชนะ ซานดร้า มิโคลาสเชค คู่แข่งจากเยอรมนีไปอย่างฉิวเฉียด 3-2 เกม (11-9, 11-9, 11-13, 8-11, 12-10) ผงาดคว้าแชมป์โลกไปครอง ในประเภทหญิงเดี่ยวคลาส ทีที4 ศึกอันดาลูเซีย เวิลด์ พารา เทเบิลเทนนิส แชมเปียนชิพส์ 2022 ที่เมืองอันดาลูเซีย ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 6-10 พ.ย.65 และเป็นเหรียญทองเหรียญเดียวของทัพปิงปองพาราไทยในรายการนี้ด้วย
ความเคลื่อนไหวการแข่งขันเทเบิลเทนนิสคนพิการชิงแชมป์โลก 2022 "อันดาลูเซีย เวิลด์ พารา เทเบิลเทนนิส แชมเปียนชิพส์ 2022" ที่เมืองอันดาลูเซีย ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 6-10 พ.ย.65 โดยรายการนี้มีนักกีฬาไทยที่ผ่านการควอลิฟายเดินทางไปเข้าร่วมชิงชัยได้ทั้งหมด 15 คน ซึ่งถือเป็นจำนวนที่เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์เทเบิลเทนนิสคนพิการไทย
ผลการแข่งขันปรากฎว่าทัพปิงปองพาราไทยสามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในประเภทหญิงเดี่ยวคลาส ทีที4 เมื่อ "ปุ๋ย" วิจิตรา ใจอ่อน ปิงปองสาวมากประสบการณ์ ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ ซานดร้า มิโคลาสเชค คู่แข่งจากเยอรมัน และเป็นทางด้าน วิจิตรา ที่แข็งแกร่งกว่า ตบชนะสาวอินทรีเหล็กไปได้อย่างสนุก 3-2 เกม (11-9, 11-9, 11-13, 8-11, 12-10) ผงาดคว้าแชมป์โลกไปครอง และเป็นเหรียญทองเหรียญเดียวของทัพปิงปองพาราไทยในศึกชิงแชมป์โลกปีนี้ด้วย
นอกจากนี้ทัพลูกเด้งไทยยังกวาดมาได้อีก 6 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดง ดังนี้ 6 เหรียญเงินได้จาก รุ่งโรจน์ ไทยนิยม ประเภทชายเดี่ยว คลาส ทีที6, ปานวาด ศรีงาม ประเภทหญิงเดี่ยว คลาส ทีที5, วันชัย ชัยวุฒิ กับ ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น ประเภทชายคู่ คลาส เอ็มดี7, รุ่งโรจน์ ไทยนิยม กับ พิสิษฐ์ หวังผลพัฒนศิริ ประเภทชายคู่ คลาส เอ็มดี14, วันชัย ชัยวุฒิ กับ วิจิตรา ใจอ่อน ประเภทคู่ผสม คลาส เอ็กซ์ดี8, ดารารัตน์ อาสายุทธ์ กับ ชิลชิตพยัค บุตรวรรณสิรินา ประเภทหญิงคู่ คลาส ดับเบิลยูดี5,
4 เหรียญทองแดงได้จาก ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น ประเภทชายเดี่ยว คลาส ทีที3, ถิรายุ เชื้อวงษ์ กับ ชิลชิตพยัค บุตรวรรณสิรินา ประเภทคู่ผสม คลาส เอ็กซ์ดี4, รุ่งโรจน์ ไทยนิยม กับ กัลยา ชัยวุฒิ ประเภทคู่ผสม คลาส เอ็กซ์ดี14 และ
วิจิตรา ใจอ่อน กับ วาสนา ศรีงาม ประเภทหญิงคู่ คลาส ดับเบิลยูดี10
นายไมตรี คงเรือง เลขาธิการสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมฯ ต้องขอแสดงความยินดีมา ณ โอกาสนี้ สำหรับความสำเร็จที่ทำได้ถึง 1 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง ถือเป็นการพัฒนาทิศทางที่ดีมากอีกกีฬาหนึ่ง เพราะเมื่อชิงแชมป์โลกครั้งที่ผ่านมา เรามีนักกีฬาผ่านควอลิฟายน์ได้เพียง 8 คน แต่ครั้งนี้มากถึง 15 คน และได้มา 1 เหรียญทอง ส่วนในจำนวน 6 เหรียญเงินที่ได้ก็มีความใกล้เคียงและสูสีในการแข่งขัน และมีโอกาสที่จะพัฒนาสู่ชัยชนะในอนาคตได้ และที่สำคัญเป็นอีเวนต์ที่จะมีแข่งขันในพาราลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 ประเทศฝรั่งเศส ดังนั้นเมื่อกลับมาเมืองไทยต้องมีการออกแบบการฝึกซ้อมที่เข้มข้นตามแผนฝึกซ้อมที่วางไว้ ทั้งเป็นแผนการฝึกซ้อมรายบุคคลที่มีเป้าหมายในการปรับปรุงแก้ไขชัดเจน เพื่อก้าวสู่โอกาสเหรียญทองในพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งต่อไป
พ่อบ้านสมาคมกีฬาคนพิการฯ ยังกล่าวต่ออีกว่า สำหรับทีมเทเบิลเทนนิสคนพิการทีมชาติไทยสร้างผลงานได้ดีมาอย่างต่อเนื่องจากกลางปีที่ผ่านมา สามารถคว้าได้ 21 เหรียญทอง 24 เหรียญเงิน 14 เหรียญทองแดง ในการแข่งขันมหกรรมกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ เมืองโซโล ประเทศอินโดนีเซีย และในกลางปีหน้าทีมเทเบิลเทนนิสคนพิการทีมชาติไทย นอกจากจะเตรียมทีมสำหรับควอลิฟายน์แข่งขันเก็บคะแนนสะสมโลกเพื่อให้ได้สิทธิพาราลิมปิกเกมส์แล้ว ยังมี 2 ภารกิจหลัก คือรายการอาเซียนพาราเกมส์ ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 3-9 มิถุนายน 2566 และรายการ เอเชียนพาราเกมส์ ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 22-29 ตุลาคม 2566 ถือเป็นบททดสอบที่สำคัญ สำหรับทีมกีฬาเทเบิลเทนนิสคนพิการทีมชาติไทยชุดนี้ โดยทีมเทเบิลเทนนิสคนพิการทีมชาติไทย นักกีฬาที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน มีนักกีฬาหน้าใหม่ ที่อายุไม่ถึง 25 ปี ร้อยละ 40 ของทีม ทำให้นักกีฬาทีมนี้ มีโอกาสประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ในอนาคตสำหรับประเทศไทย
นายไมตรี กล่าวทิ้งท้ายว่า ในการเตรียมทีมที่ต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลา 5-6 ปี ทุกกีฬาได้รับการสนับสนุนจาก ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติฯ คุณจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี อดีตประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทยผู้ล่วงลับ พร้อมด้วยสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยฯ ภายใต้การนำของนายชูเกียรติ สิงห์สูง นายกสมาคม ได้พยายามผลักดันให้มีการเก็บตัวต่อเนื่อง ระยะเวลามากกว่า 10 เดือนต่อปี และมีศูนย์ฝึกซ้อม และอุปกรณ์กีฬา ที่มีความเหมาะสม ทันสมัย จนนำมาซึ่งความสำเร็จตามที่ปรากฎ
"สำหรับเป้าหมายหลักของสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยฯ โครงการที่สำคัญในการวางเป้าหมายคือพาราลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 ประเทศฝรั่งเศส ตั้ง 3 ภารกิจไว้คือ ระยะที่ 1 ทำอย่างไรให้ผ่านนักกีฬาควอลิฟายน์ได้สิทธิเข้าร่วมพาราลิมปิกเกมส์, ระยะที่ 2 ทำอย่างไร เมื่อได้ไปพาราลิมปิกแล้วมีโอกาสคว้าเหรียญทอง และระยะที่ 3 ทำอย่างไรให้นักกีฬาพาราลิมปิกทีมชาติไทยที่ได้เหรียญทอง กลับมาเป็นฮีโร่สร้างแรงผลักดันให้สังคมไทยเป็นสังคมที่น่าอยู่ สังคมแห่งการแบ่งปัน สังคมแห่งความสุขต่อไปได้" นายไมตรี กล่าว
ขอบคุณ... https://www.siamsport.co.th/other-sports/sports-world/6606/