พิการกายได้แต่อย่าพิการใจ! คุยกับหนุ่มหัวใจแกร่ง ขาเดียวล่าฝันพิชิตฮาล์ฟมาราธอน
หนุ่มพิการ หัวใจแกร่ง "นพดล" วัย 48 ปี ใช้ขาเดียว กับไม้พยุง วิ่งจบ 21 กม. "บุรีรัมย์ มาราธอน" สุดประทับใจ เข้าเส้นชัยเลยเวลาคัตออฟ เพราะแวะเล่น แวะเต้นตลอดทาง แต่ไม่ซีเรียส แค่เข้าเส้นชัยได้ก็ถือว่าทำตามฝันแล้ว เผย 2 นักวิ่งที่ช่วยตลอดทาง ไม่ใช่เพื่อนนัดกันมา แต่เพิ่งมาเจอครั้งแรกก่อนออกสตาร์ต แต่กลับเทคแคร์อย่างดี
จากงานวิ่งใหญ่ของไทย “บุรีรัมย์ มาราธอน 2023” เมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 21 ม.ค.66 มีนักวิ่งเข้าร่วมกว่า 27,000 คน นอกจากการชิงชัยที่เข้มข้น มีการทุบสถิติกระจุยกระจายแล้ว
อีกมุมหนึ่ง มีภาพที่สร้างความอิ่มใจ แรงบันดาลใจ นายนพดล สังข์พิชัย หนุ่มวัย 48 ปี ที่พิการขาขวาลีบ ลงวิ่งในประเภทฮาล์ฟมาราธอน ระยะ 21.1 กม. ใช้ขาซ้าย กับไม้พยุงตัว เข้าเส้นชัยได้สำเร็จ เวลา 4.10.31 ชั่วโมง แม้ไม่ทันเวลาคัตออฟ ที่กำหนด 4 ชั่วโมง แต่ได้เสื้อฟินิชเชอร์ และเหรียญรางวัล ซึ่งตลอดทาง มีนักวิ่งอีก 2 คน ที่ตามประกบคอยช่วยเหลือ เข้าเส้นชัยพร้อมกัน เป็นเรื่องน่าประทับใจ สร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งเฟซบุ๊กแฟนเพจ กีฬาเดลินิวส์ ได้นำเสนอไป
ล่าสุด “กีฬาเดลินิวส์” ได้พูดคุยกับหนุ่มหัวใจแกร่ง ใช้ใจบันดาลแรงของจริง “นพ” นพดล หนุ่มสระบุรี ที่ย้ายมาใช้ชีวิต ทำงานที่ จ.ชลบุรี ได้เกือบ 30 ปี แล้ว กล่าวว่า ตนขาลีบตั้งแต่เด็ก อายุ 3 ขวบ หมอฉีดยาเข้าเส้น แต่ก็ใช้ชีวิตเรื่อยมา ไม่น้อยใจโชคชะตา คุณพ่อสอนว่า “พิการกายได้ แต่อย่าพิการใจ” ส่วนเรื่องวิ่งนั้น วิ่งมาได้ 3 ปี จากการชักชวนของคนในโรงงาน ก่อนหน้านี้ลงระยะ 5 กม. กับ 10 กม. รวมทั้งวิ่งเวอร์ชวลรันมาเยอะ ตัดสินใจลงฮาล์ฟ ครั้งแรกที่ บุรีรัมย์ มาราธอน เพราะเวลาคัตออฟตั้งไว้ 4 ชั่วโมง มากกว่ารายการอื่นมักตั้งที่ 3.30 ชั่วโมง คำนวณจากการซ้อมของตัวเอง ถ้า 4 ชั่วโมง เชื่อว่าทัน เพราะตอนซ้อมก็เพซ 9-10 (1 กม. ใช้เวลา 9-10 นาที)
นายนพดล เล่าต่อไปว่า พอลงสนาม หากวิ่งไปตามปกติก็ทันคัตออฟ แต่ไปแวะเล่นกับเด็กๆ กองเชียร์ตลอดทาง เต้นตามเวที สนุกสนาน จึงเสียเวลาไป แต่ไม่เป็นไร ถือเป็นงานอบอุ่น สนุกดี เข้าเส้นชัย 4.10 ชั่วโมง พิชิตฮาล์ฟมาราธอน ถือว่าฝันเป็นจริงแล้ว ทางฝ่ายจัดก็ยังให้เสื้อฟินิชเชอร์ ให้เหรียญ เข้าใจว่าคนที่ไม่ทันคัตออฟก็ได้ เพื่อให้เกียรติที่เข้าเส้นชัยสำเร็จ เป็นสเน่ห์ของงาน ส่วนที่เป็นกระแสในโลกโซเชียล ก็ไม่คิดมาก่อน ไม่คิดว่าใครจะถ่ายรูป ไปนำเสนอ ที่ไปลงสนามแค่อยากทำฝันตัวเองให้เป็นจริง ปีหน้าจะมาแก้มือ เอาให้เข้าเส้นชัยทันคัตออฟ ส่วนระยะที่ไกลกว่าอย่างฟูลมาราธอนนั้น ยอมรับว่าเกินกำลัง
เมื่อถามถึงเพื่อน 2 คนที่เดินประกบตลอดทาง กลายเป็นว่า ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย โดย นายนพดล กล่าวว่า ตนมากับเพื่อนอีกคน แต่เพื่อนไปลงฟูลมาราธอน (42.195 กม.) ปล่อยตัวคนละเวลา เพื่อนก็เป็นห่วง แต่ต้องแยกกัน ส่วน 2 คนที่ไปด้วยกัน มาเจอก่อนสตาร์ต
“เพิ่งมาเจอกันก่อนออกสตาร์ตเลย คนหนึ่งชื่อวัฒนา เคยรู้จักแต่ในเฟซบุ๊ก ส่วนอีกคน พี่เขาให้เรียกว่าพี่ล้าน แต่ทั้ง 2 คน ก็เดินไปด้วยกันตลอด 21 กม. พี่ล้านนี่เห็นตำรวจทำความเคารพตลอดทาง ผมก็ไม่รู้เขาเป็นใคร แต่ทั้ง 2 คน เขาก็ช่วยผมตลอด เทคแคร์ดีมาก เป็นมิตรภาพดีๆ บนสนามวิ่ง ใครมาไม่รู้” นพดล สังข์พิชัย ชายหัวใจแกร่ง กล่าว