จักษุแพทย์ มธ.สร้างแอปฯ ตรวจ “จอตาเสื่อม-เบาหวานขึ้นตา” ป้องกันตาบอด คว้ารางวัลระดับโลก
จักษุแพทย์ มธ. ร่วมทีมวิศวกร สร้างแอปพลิเคชัน “DeepEye” ช่วยตรวจคัดกรอง “จอตาเสื่อม” ผู้สูงอายุ และ “เบาหวานขึ้นจอตา” เผยดึงภาพจอตามาอ่านผลด้วยโปรแกรม แม่นยำใกล้เคียงจักษุแพทย์เชี่ยวชาญจอตาช่วยพบรอยโรคไวลดโอกาสตาบอดคว้ารางวัลชนะเลิศสิ่งประดิษฐ์ระดับโลก
รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ หัวหน้าศูนย์ตาธรรมศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า ทีมจักษุแพทย์ มธ. ได้เข้าร่วมส่งผลงานสิ่งประดิษฐ์ระดับโลกในงาน 45th International Exhibition of Inventions ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มี.ค.- 2 เม.ย. 2560 โดยมีนักประดิษฐ์จากหลากหลายประเทศทั่วโลกส่งผลงานเข้าร่วมประกวด โดยทีมจักษุแพทย์ มธ. ได้ส่งผลงานแอปพลิชัน “DeeEye Application” ซึ่งเป็นโปรแกรมการตรวจป้องกันตาบอดในผู้สูงอายุและจากโรคเบาหวานขึ้นตาด้วยโปรแกรมในมือถือ โดยได้รับรางวัลชนะเลิศถ้วยเกียรติยศอันดับ 1 โดย DeepEye Application เป็นผลงานของทีมจักษุแพทย์ มธ. ร่วมกับทีมวิศวกรของ มธ. ร่วมกันประดิษฐ์นวัตกรรมที่จะเปลี่ยนรูปแบบการตรวจโรคจอตาให้มีความแม่นยำสูงกว่าในปัจจุบันอย่างมาก
“โรคจอตาเสื่อมในผู้สูงอายุและโรคเบาหวานขึ้นตา เป็นสาเหตุตาบอดอันดับต้นๆ ของคนไทยและประชากรทั่วโลก ในสังคมผู้สูงอายุที่มีผู้ป่วยเบาหวานถึง 1 ใน 10 ของประชากร ซึ่งทุกคนต้องการการตรวจจอตาทุก 6 เดือนถึง 1 ปี เพื่อพบรอยโรคระยะเริ่มต้นที่สามารถรักษาไม่ให้ตาบอดได้ ในขณะที่มีจักษุแพทย์มีเพียง 1 คนต่อประชากรเกือบหมื่นคน หรือแสนคนในบางประเทศ ทำให้ผู้ป่วยเหล่านี้มาพบแพทย์เมื่อสายเกินไป ปัจจุบันการตรวจคัดกรองใช้การถ่ายภาพจอตาแล้วอ่านผลโดยพยาบาลหรือจักษุแพทย์ทั่วไป ซึ่งมีโอกาสเกิดความผิดพลาดได้สูง แต่นวัตกรรม DeepEye จะดึงภาพจอตาของคนกลุ่มเสี่ยงมาให้โปรแกรมแปลผลว่าปกติ หรือเริ่มเป็นโรคที่ต้องส่งพบจักษุแพทย์ได้แม่นยำ ใกล้เคียงกับจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจอตา ซึ่งจะทำให้สามารถป้องกันตาบอดจากโรคจอตาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง”รศ.นพ.ศักดิ์ชัยกล่าว
รศ.นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า นวัตกรรมนี้จะมีการนำมาใช้ในประเทศไทยในกลางปี 2560 นี้ คาดว่า จะช่วยขจัดภาวะตาบอดในผู้สูงอายุและผู้ป่วยเบาหวานของประเทศไทยได้ ซึ่งนอกจากช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัวแล้วยังช่วยลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคมจากความพิการได้อย่างมหาศาล
ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9600000033886 (ขนาดไฟล์: 164)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
จักษุแพทย์ มธ. ร่วมทีมวิศวกร สร้างแอปพลิเคชัน “DeepEye” ช่วยตรวจคัดกรอง “จอตาเสื่อม” ผู้สูงอายุ และ “เบาหวานขึ้นจอตา” จักษุแพทย์ มธ. ร่วมทีมวิศวกร สร้างแอปพลิเคชัน “DeepEye” ช่วยตรวจคัดกรอง “จอตาเสื่อม” ผู้สูงอายุ และ “เบาหวานขึ้นจอตา” เผยดึงภาพจอตามาอ่านผลด้วยโปรแกรม แม่นยำใกล้เคียงจักษุแพทย์เชี่ยวชาญจอตาช่วยพบรอยโรคไวลดโอกาสตาบอดคว้ารางวัลชนะเลิศสิ่งประดิษฐ์ระดับโลก รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ หัวหน้าศูนย์ตาธรรมศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า ทีมจักษุแพทย์ มธ. ได้เข้าร่วมส่งผลงานสิ่งประดิษฐ์ระดับโลกในงาน 45th International Exhibition of Inventions ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มี.ค.- 2 เม.ย. 2560 โดยมีนักประดิษฐ์จากหลากหลายประเทศทั่วโลกส่งผลงานเข้าร่วมประกวด โดยทีมจักษุแพทย์ มธ. ได้ส่งผลงานแอปพลิชัน “DeeEye Application” ซึ่งเป็นโปรแกรมการตรวจป้องกันตาบอดในผู้สูงอายุและจากโรคเบาหวานขึ้นตาด้วยโปรแกรมในมือถือ โดยได้รับรางวัลชนะเลิศถ้วยเกียรติยศอันดับ 1 โดย DeepEye Application เป็นผลงานของทีมจักษุแพทย์ มธ. ร่วมกับทีมวิศวกรของ มธ. ร่วมกันประดิษฐ์นวัตกรรมที่จะเปลี่ยนรูปแบบการตรวจโรคจอตาให้มีความแม่นยำสูงกว่าในปัจจุบันอย่างมาก จักษุแพทย์ ตรวจสายตา “โรคจอตาเสื่อมในผู้สูงอายุและโรคเบาหวานขึ้นตา เป็นสาเหตุตาบอดอันดับต้นๆ ของคนไทยและประชากรทั่วโลก ในสังคมผู้สูงอายุที่มีผู้ป่วยเบาหวานถึง 1 ใน 10 ของประชากร ซึ่งทุกคนต้องการการตรวจจอตาทุก 6 เดือนถึง 1 ปี เพื่อพบรอยโรคระยะเริ่มต้นที่สามารถรักษาไม่ให้ตาบอดได้ ในขณะที่มีจักษุแพทย์มีเพียง 1 คนต่อประชากรเกือบหมื่นคน หรือแสนคนในบางประเทศ ทำให้ผู้ป่วยเหล่านี้มาพบแพทย์เมื่อสายเกินไป ปัจจุบันการตรวจคัดกรองใช้การถ่ายภาพจอตาแล้วอ่านผลโดยพยาบาลหรือจักษุแพทย์ทั่วไป ซึ่งมีโอกาสเกิดความผิดพลาดได้สูง แต่นวัตกรรม DeepEye จะดึงภาพจอตาของคนกลุ่มเสี่ยงมาให้โปรแกรมแปลผลว่าปกติ หรือเริ่มเป็นโรคที่ต้องส่งพบจักษุแพทย์ได้แม่นยำ ใกล้เคียงกับจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจอตา ซึ่งจะทำให้สามารถป้องกันตาบอดจากโรคจอตาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง”รศ.นพ.ศักดิ์ชัยกล่าว รศ.นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า นวัตกรรมนี้จะมีการนำมาใช้ในประเทศไทยในกลางปี 2560 นี้ คาดว่า จะช่วยขจัดภาวะตาบอดในผู้สูงอายุและผู้ป่วยเบาหวานของประเทศไทยได้ ซึ่งนอกจากช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัวแล้วยังช่วยลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคมจากความพิการได้อย่างมหาศาล ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9600000033886
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)