ครูเมืองช้างเจ๋ง! คิดวิธีเลียนเสียงฝนตกฟ้าคะนอง หลอก “กบ” ผสมพันธุ์ได้ทุกฤดู

แสดงความคิดเห็น

สุรินทร์ - ครู ร.ร.โสตศึกษาเมืองช้างไอเดียเจ๋ง! ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ผสานความรู้จากธรรมชาติคิดค้นประดิษฐ์นวัตกรรมเลียนเสียงฝนตกฟ้าคะนอง ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า พร้อมเสียงกบร้องได้เสมือนจริง หลอกให้กบผสมพันธุ์ได้ทุกฤดูตามต้องการผลิตลูกอ๊อดได้ครั้งละหลายหมื่นตัว ใช้อุปกรณ์เพียงโน้ตบุ๊ก เครื่องเสียง และกล้องถ่ายภาพมีแฟลช

นายประยูร โสนาพูน ครูผู้สอนวิชาเกษตรให้แก่เด็กนักเรียนหูหนวก กำลังพาเด็กนักเรียนเตรียมสถานที่เพื่อหลอกให้กบผสมพันธุ์นอกฤดู

วันที่ (5 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายบุญรักษ์ คลองมิ่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ ถนนสุรินทร์-ปราสาท ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนเด็กพิการทางหูว่า มีครูสอนวิชาเกษตร ชื่อ นายประยูร โสนาพูน ได้ศึกษาและคิดค้นเทคโนโลยีสมัยใหม่ผสมผสานความรู้จากธรรมชาติ ประดิษฐ์นวัตกรรมดัดแปลงเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ฝนตกให้เสมือนจริง เพื่อหลอกให้กบผสมพันธุ์นอกฤดูได้ โดยใช้เพียงโน้ตบุ๊กเครื่องเสียงและกล้องถ่ายรูปเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พบ นายประยูร โสนาพูน ตำแหน่งพนักงานราชการ ครูผู้สอนวิชาเกษตรให้แก่เด็กนักเรียนหูหนวก กำลังพาเด็กนักเรียนเตรียมสถานที่เพื่อหลอกให้กบผสมพันธุ์นอกฤดู โดยนำโต๊ะมาวาง ติดตั้งโน้ตบุ๊ก ต่อสายสัญญาณเข้ากับเครื่องขยายเสียง และเตรียมกล้องดิจิตอลพร้อมแฟลชมารอยืนถ่ายเสมือนฟ้าผ่าอยู่ข้างบ่อที่เตรียมไว้สำหรับกบผสมพันธุ์ โดยเปิดไฟล์เสียงจากโน้ตบุ๊กที่เตรียมไว้เป็นเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ซึ่งเป็นเสียงจริงที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือแล้วนำมาตัดต่อผสมผสานกับเสียงกบร้องให้เสมือนจริง และนำแผ่นสังกะสีมาวางไว้บนบ่อซีเมนต์ พร้อมเปิดน้ำพุ่งตกกระทบสังกะสีใส่คล้ายฝนตก

ก่อนนำกบตัวเมียลงปล่อยในบ่อแล้วนำกบพ่อพันธุ์ตามลงไปเพื่อให้ผสมพันธุ์กัน ท่ามกลางการเลียนแบบและเสียงธรรมชาติเสมือนหน้าฝนจริง ซึ่งมีทั้งฝนตก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ทำให้กบผสมพันธุ์และวางไข่ได้ทุกเดือนทุกฤดูไม่ต้องรอหน้าฝนหรือฤดูกาลผสมพันธุ์ตามธรรมชาติของกบอีกต่อไป

โต๊ะวางอุปกรณ์เพื่อหลอกให้กบผสมพันธุ์นอกฤดู

นายประยูร โสนาพูน ครูผู้คิดค้นวิธีหลอกกบผสมพันธุ์ กล่าวว่า นวัตกรรมการหลอกกบผสมพันธุ์ใช้อุปกรณ์เพียง 3 ชิ้นเท่านั้น ประกอบด้วย โน้ตบุ๊ก เครื่องขยายเสียงที่มีลำโพงพร้อม และกล้องถ่ายรูปดิจิตอลที่มีแฟลช ส่วนไฟล์เสียงที่นำมาเปิดเป็นเสียงที่บันทึกเสียงฟ้าผ่า ฟ้าร้อง จากโทรศัพท์มือถือแล้วนำมาตัดต่อ ซึ่งเป็นการบันทึกเสียงจากสถานที่จริง โดยใช้ 3 เสียง คือ เสียงฝน เสียงฟ้าผ่า เสียงกบร้อง มาตัดต่อรวมกันเป็น 1 ไฟล์

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนได้พยายามคิดค้นมาหลายวิธีแต่ไม่สามารถทำให้กบผสมพันธุ์กัน ซึ่งเคยได้ยินผู้สูงอายุบอกเล่ากันมาว่าหากจะให้กบจับคู่ผสมพันธุ์กันต้องมีฝนตก จึงทำฝนเทียมโดยใช้สังกะสีแล้วเปิดสปริงเกอร์ให้ตกกระทบ แต่เสียงฝนตกไม่ดังพอ จึงใช้น้ำฉีดขึ้นให้สูงที่สุดแล้วให้ตกลงมากระทบแผ่นสังกะสี และเปิดเสียงเลียนแบบธรรมชาติประมาณ 20 นาที กบก็จะออกมาจับคู่ผสมพันธุ์กันทุกคู่ แต่ถือเป็นกรณีพิเศษต้องใช้ตัวผู้มากกว่าตัวเมียเพราะตัวผู้บางตัวไม่แข็งแรงพอ

นายประยูรกล่าวต่อว่า การใช้นวัตกรรมนี้ไม่ต้องรอฝนฟ้าและไม่ต้องง้อธรรมชาติ ถึงฝนจะไม่ตกหรือประสบภัยแล้ง เพียงผสมผสานเทคโนโลยีตัวนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ก็สามารถผสมพันธุ์กบได้โดยไม่ต้องรอฝนตก เอื้อประโยชน์ให้นักเรียนได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ ซึ่งโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์เป็นโรงเรียนประจำของเด็กนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน เมื่อเขาเรียนจบจากโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์แล้วหากไม่ได้เรียนสายอาชีพ หรือไม่ได้เรียนต่อในระดับอุดมศึกษาก็สามารถนำวิชาชีพเพาะพันธุ์กบไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวที่บ้านเกิดได้โดยไม่ต้องเป็นภาระครอบครัวและสังคม

กบ ที่นักเรียนหูหนวก เลี้ยงไว้

นายบุญรักษ์ คลองมิ่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า นวัตกรรมที่ครูประยูร โสนาพูน ได้คิดค้นขึ้นมาถือว่าเป็นความสุดยอด ซึ่งตนเองเคยเรียนรู้วิธีการเพาะพันธุ์กบโดยวิธีการตามธรรมชาติแต่ไม่ได้ผลเท่าที่ควร แต่เมื่อครูประยูรได้ทำนวัตกรรมตัวนี้ขึ้นมา ตอนแรกยังงงๆ อยู่เหมือนกันว่าเขาทำอย่างไร โดยการเพาะพันธุ์กบแต่ละครั้งนั้น ในวันรุ่งขึ้นต้องรีบจับพ่อ-แม่กบ ออกจากบ่อ เมื่อผ่านไป 1 คืนจะมีไข่ลอยขึ้นมา และมีการฟักตัวเป็นลูกอ๊อดภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งจากผลสำเร็จของงานในแต่ละรอบสามารถเพาะพันธุ์กบได้นับหมื่นๆ ตัว

“ถือว่าเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของครูประยูร โสนาพูน ในการคิดค้นนวัตกรรมให้กบผสมพันธุ์นอกฤดูมาฝึกสอนให้นักเรียนหูหนวกได้นำไปใช้ ขณะนี้มีผู้ปกครองนักเรียนหลายคนได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ ซึ่งทางโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์มีความยินดีที่จะถ่ายทอดความรู้ให้แก่ทุกคนที่สนใจต่อไป” นายบุญรักษ์กล่าวในตอนท้าย

ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000088339 (ขนาดไฟล์: 166)

ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 5 ส.ค.58
วันที่โพสต์: 6/08/2558 เวลา 11:56:08 ดูภาพสไลด์โชว์ ครูเมืองช้างเจ๋ง! คิดวิธีเลียนเสียงฝนตกฟ้าคะนอง หลอก “กบ” ผสมพันธุ์ได้ทุกฤดู

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

สุรินทร์ - ครู ร.ร.โสตศึกษาเมืองช้างไอเดียเจ๋ง! ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ผสานความรู้จากธรรมชาติคิดค้นประดิษฐ์นวัตกรรมเลียนเสียงฝนตกฟ้าคะนอง ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า พร้อมเสียงกบร้องได้เสมือนจริง หลอกให้กบผสมพันธุ์ได้ทุกฤดูตามต้องการผลิตลูกอ๊อดได้ครั้งละหลายหมื่นตัว ใช้อุปกรณ์เพียงโน้ตบุ๊ก เครื่องเสียง และกล้องถ่ายภาพมีแฟลช นายประยูร โสนาพูน ครูผู้สอนวิชาเกษตรให้แก่เด็กนักเรียนหูหนวก กำลังพาเด็กนักเรียนเตรียมสถานที่เพื่อหลอกให้กบผสมพันธุ์นอกฤดู วันที่ (5 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายบุญรักษ์ คลองมิ่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ ถนนสุรินทร์-ปราสาท ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนเด็กพิการทางหูว่า มีครูสอนวิชาเกษตร ชื่อ นายประยูร โสนาพูน ได้ศึกษาและคิดค้นเทคโนโลยีสมัยใหม่ผสมผสานความรู้จากธรรมชาติ ประดิษฐ์นวัตกรรมดัดแปลงเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ฝนตกให้เสมือนจริง เพื่อหลอกให้กบผสมพันธุ์นอกฤดูได้ โดยใช้เพียงโน้ตบุ๊กเครื่องเสียงและกล้องถ่ายรูปเท่านั้น ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พบ นายประยูร โสนาพูน ตำแหน่งพนักงานราชการ ครูผู้สอนวิชาเกษตรให้แก่เด็กนักเรียนหูหนวก กำลังพาเด็กนักเรียนเตรียมสถานที่เพื่อหลอกให้กบผสมพันธุ์นอกฤดู โดยนำโต๊ะมาวาง ติดตั้งโน้ตบุ๊ก ต่อสายสัญญาณเข้ากับเครื่องขยายเสียง และเตรียมกล้องดิจิตอลพร้อมแฟลชมารอยืนถ่ายเสมือนฟ้าผ่าอยู่ข้างบ่อที่เตรียมไว้สำหรับกบผสมพันธุ์ โดยเปิดไฟล์เสียงจากโน้ตบุ๊กที่เตรียมไว้เป็นเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ซึ่งเป็นเสียงจริงที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือแล้วนำมาตัดต่อผสมผสานกับเสียงกบร้องให้เสมือนจริง และนำแผ่นสังกะสีมาวางไว้บนบ่อซีเมนต์ พร้อมเปิดน้ำพุ่งตกกระทบสังกะสีใส่คล้ายฝนตก ก่อนนำกบตัวเมียลงปล่อยในบ่อแล้วนำกบพ่อพันธุ์ตามลงไปเพื่อให้ผสมพันธุ์กัน ท่ามกลางการเลียนแบบและเสียงธรรมชาติเสมือนหน้าฝนจริง ซึ่งมีทั้งฝนตก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ทำให้กบผสมพันธุ์และวางไข่ได้ทุกเดือนทุกฤดูไม่ต้องรอหน้าฝนหรือฤดูกาลผสมพันธุ์ตามธรรมชาติของกบอีกต่อไป โต๊ะวางอุปกรณ์เพื่อหลอกให้กบผสมพันธุ์นอกฤดู นายประยูร โสนาพูน ครูผู้คิดค้นวิธีหลอกกบผสมพันธุ์ กล่าวว่า นวัตกรรมการหลอกกบผสมพันธุ์ใช้อุปกรณ์เพียง 3 ชิ้นเท่านั้น ประกอบด้วย โน้ตบุ๊ก เครื่องขยายเสียงที่มีลำโพงพร้อม และกล้องถ่ายรูปดิจิตอลที่มีแฟลช ส่วนไฟล์เสียงที่นำมาเปิดเป็นเสียงที่บันทึกเสียงฟ้าผ่า ฟ้าร้อง จากโทรศัพท์มือถือแล้วนำมาตัดต่อ ซึ่งเป็นการบันทึกเสียงจากสถานที่จริง โดยใช้ 3 เสียง คือ เสียงฝน เสียงฟ้าผ่า เสียงกบร้อง มาตัดต่อรวมกันเป็น 1 ไฟล์ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนได้พยายามคิดค้นมาหลายวิธีแต่ไม่สามารถทำให้กบผสมพันธุ์กัน ซึ่งเคยได้ยินผู้สูงอายุบอกเล่ากันมาว่าหากจะให้กบจับคู่ผสมพันธุ์กันต้องมีฝนตก จึงทำฝนเทียมโดยใช้สังกะสีแล้วเปิดสปริงเกอร์ให้ตกกระทบ แต่เสียงฝนตกไม่ดังพอ จึงใช้น้ำฉีดขึ้นให้สูงที่สุดแล้วให้ตกลงมากระทบแผ่นสังกะสี และเปิดเสียงเลียนแบบธรรมชาติประมาณ 20 นาที กบก็จะออกมาจับคู่ผสมพันธุ์กันทุกคู่ แต่ถือเป็นกรณีพิเศษต้องใช้ตัวผู้มากกว่าตัวเมียเพราะตัวผู้บางตัวไม่แข็งแรงพอ นายประยูรกล่าวต่อว่า การใช้นวัตกรรมนี้ไม่ต้องรอฝนฟ้าและไม่ต้องง้อธรรมชาติ ถึงฝนจะไม่ตกหรือประสบภัยแล้ง เพียงผสมผสานเทคโนโลยีตัวนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ก็สามารถผสมพันธุ์กบได้โดยไม่ต้องรอฝนตก เอื้อประโยชน์ให้นักเรียนได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ ซึ่งโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์เป็นโรงเรียนประจำของเด็กนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน เมื่อเขาเรียนจบจากโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์แล้วหากไม่ได้เรียนสายอาชีพ หรือไม่ได้เรียนต่อในระดับอุดมศึกษาก็สามารถนำวิชาชีพเพาะพันธุ์กบไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวที่บ้านเกิดได้โดยไม่ต้องเป็นภาระครอบครัวและสังคม กบ ที่นักเรียนหูหนวก เลี้ยงไว้ นายบุญรักษ์ คลองมิ่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า นวัตกรรมที่ครูประยูร โสนาพูน ได้คิดค้นขึ้นมาถือว่าเป็นความสุดยอด ซึ่งตนเองเคยเรียนรู้วิธีการเพาะพันธุ์กบโดยวิธีการตามธรรมชาติแต่ไม่ได้ผลเท่าที่ควร แต่เมื่อครูประยูรได้ทำนวัตกรรมตัวนี้ขึ้นมา ตอนแรกยังงงๆ อยู่เหมือนกันว่าเขาทำอย่างไร โดยการเพาะพันธุ์กบแต่ละครั้งนั้น ในวันรุ่งขึ้นต้องรีบจับพ่อ-แม่กบ ออกจากบ่อ เมื่อผ่านไป 1 คืนจะมีไข่ลอยขึ้นมา และมีการฟักตัวเป็นลูกอ๊อดภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งจากผลสำเร็จของงานในแต่ละรอบสามารถเพาะพันธุ์กบได้นับหมื่นๆ ตัว “ถือว่าเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของครูประยูร โสนาพูน ในการคิดค้นนวัตกรรมให้กบผสมพันธุ์นอกฤดูมาฝึกสอนให้นักเรียนหูหนวกได้นำไปใช้ ขณะนี้มีผู้ปกครองนักเรียนหลายคนได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ ซึ่งทางโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์มีความยินดีที่จะถ่ายทอดความรู้ให้แก่ทุกคนที่สนใจต่อไป” นายบุญรักษ์กล่าวในตอนท้าย ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000088339

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...