ติด "เซ็นเซอร์" ในบ้าน ช่วยดูแลผู้สูงอายุ

หนึ่งในเป้าหมายของการพัฒนาเทคโนโลยีทุกวันนี้ ก็เพื่อไว้สำหรับคอยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันของเรา แน่นอนว่ารวมไปถึงบรรดาผู้สูงอายุทั้งหลาย ที่ต้องการความดูแลอย่างใกล้ชิด บรรดานักวิจัยจึงศึกษา เพื่อพัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับการดูแลผู้สูงอายุที่อาจจะต้องอยู่คนเดียวที่บ้านเพื่อให้สามารถอยู่ได้อย่างปลอดภัยโดยที่สหรัฐอเมริกาได้เริ่ม มีการทดลองใช้เครื่องตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ติดตั้งไว้ตามกำแพง และเพื่อสังเกตพฤติกรรมของผู้สูงอายุที่อยู่ในบ้านในแต่ละวัน แล้วมีการส่งสัญญาณเตือนไปยังสมาชิกในครอบครัวหากเกิดความผิดปกติขึ้น

โดยตอนนี้มีหลายบริษัทในสหรัฐที่ให้บริการ"เฝ้าสังเกตการณ์" และติดตั้งอุปกรณ์เซ็นเซอร์ตรวจจับไว้ตามที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประตูหน้าบ้าน เก้าอี้ที่ผู้สูงอายุใช้อยู่เป็นประจำ หรือแม้แต่ที่ตู้เย็น เพื่อทำหน้าที่ส่งสัญญาณเตือนไปยังสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ หากมีการเคลื่อนไหวของสิ่งเหล่านี้น้อยผิดปกติในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

หรืออุปกรณ์อื่นๆ อย่างเช่น ขวดยาที่สั่นได้ เมื่อถึงเวลาที่ต้องทานยา ขวดยาก็จะสั่นขึ้นมา แต่หากไม่มีการหยิบขวดยาขึ้นมาเปิด ก็จะมีการส่งข้อความไปยังผู้ดูแล หรืออย่างเช่นการปิดเตาอบโดยอัตโนมัติหากมีการเปิดทิ้งไว้นานผิดปกติ

นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยมิสซูรีได้ทำวิจัยเพิ่มเติมให้ละเอียดลงไปอีกอย่างเช่น การตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดขึ้น เช่น การนอนบนเตียงอย่างกระสับกระส่าย หรือการเคลื่อนไหวในช่วงกลางวันที่น้อยลงผิดปกติ จะเป็นอาการที่เกิดขึ้น 10 วัน ถึง 2 สัปดาห์ ก่อนหน้าการล้มป่วย หรือการเดินทางไปพบแพทย์ซึ่งเป็นสิ่งที่นางพยาบาลเองก็บอกว่าไม่สามารถดูได้ตามปกติ

การทำงานของอุปกรณ์เหล่านี้ คือการตรวจสอบแรงดันที่เกิดขึ้นกับเตียงนอนและรูปแบบการหายใจ รวมไปถึงการดูจำนวนครั้งของการเข้าห้องน้ำประกอบกันด้วย นอกจากนี้ ก็จะดูท่าทีของการเดิน เช่น จังหวะของการเริ่มก้าวเดินหรือการเดินที่ช้าลง สามารถเป็นสัญญาณบ่งชี้ได้ถึงความเสี่ยงของการป่วยที่เพิ่มมากขึ้น ที่เครื่องตรวจจับสัญญาณธรรมดาจะไม่สามารถตรวจพบได้ จึงได้มีการพัฒนากล้องของเครื่อง "คีเน็คต์ 3-ดี" เครื่องเล่นวิดีโอเกมของไมโครซอฟท์มาใช้ในการตรวจวัดของการเดินที่จะละเอียดมากขึ้น และได้มีการทดลองนำชุดเซ็นเซอร์ติดตั้งไว้ภายในอพาร์ตเมนต์ภายในมหาวิทยาลัยและภายในบ้านพักคนชรา ที่เมืองซีดาร์ ฟอลส์ รัฐไอโอวา โดยนางพยาบาลจะได้รับอีเมล์อัตโนมัติหากเกิดความผิดปกติในการใช้ชีวิตประจำวันของคนในบ้าน

หลังจากการทดลองผ่านไป1 ปี กลุ่มคนที่ยินยอมให้มีการเฝ้าสังเกตการณ์โดยเครื่องตรวจจับสัญญาณ พบว่ามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ถูกเฝ้าสังเกตการณ์ เนื่องจากมีนางพยาบาลคอยเข้าไปช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีเมื่อเกิดปัญหาขึ้น

มาริลีน แรนท์ซ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพยาบาลซึ่งเป็นหัวหน้าทีมวิจัยครั้งนี้บอกว่า การติดตั้งเซ็นเซอร์ไว้ในบ้านถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะบรรดาผู้สูงอายุหลายคนมักจะลืมหรือไม่ก็ไม่อยากสวมใส่อุปกรณ์เตือนภัยไว้กับตัว ซึ่งรวมทั้งแม่ของเธอเองด้วย ที่สำคัญตอนนี้บรรดาเครื่องเซ็นเซอร์ทั้งหลายก็เริ่มถูกลงแล้ว แต่จะแพงหน่อย ก็น่าจะแลกได้กับความปลอดภัยของผู้หลักผู้ใหญ่ที่รักและเคารพ

ขอบคุณ... http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1373947890

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 16 ก.ค.56

ที่มา: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 16 ก.ค.56
วันที่โพสต์: 17/07/2556 เวลา 02:58:58