พม. จับมือภาคีเครือข่ายสร้างอนาคตให้คนพิการ มุ่งส่งเสริมอาชีพด้าน AI สร้างรายได้ดูแลตนเองและครอบครัว
นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมและพัฒนาศักยภาพคนพิการ เพื่อส่งเสริมอาชีพและการมีงานทำด้านการจัดเตรียมข้อมูลสำหรับพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) FUTURE OF WORK : อนาคต และโอกาสในการทำงานของคนพิการไทยในทศวรรษหน้า โดยมี นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กล่าวรายงาน พร้อมทั้งรับชมวีดิทัศน์ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงอนาคตและโอกาสในการทำงานของคนพิการไทยในทศวรรษหน้า นอกจากนี้ นางสาวเมธาวี ทัศนาเสถียรกิจ CEO บริษัท วัลแคนโคอะลิชั่น จำกัด กล่าวถึงอนาคตของงานในทศวรรษหน้าที่คนพิการไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และความร่วมมือในการเตรียมความพร้อมและพัฒนาศักยภาพของคนพิการ เพื่อส่งเสริมอาชีพและการมีงานทำด้านการจัดเตรียมข้อมูลสำหรับพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) และผู้แทนคนพิการกล่าวถึงประสบการณ์การทำงาน ความภาคภูมิใจ และเห็นคุณค่าในตนเอง และความสุขที่ได้จากการทำงาน
นางพัชรี กล่าวว่า โครงการเตรียมความพร้อมและพัฒนาศักยภาพคนพิการ เพื่อส่งเสริมอาชีพและการมีงานทำด้านการจัดเตรียมข้อมูลสำหรับพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) FUTURE OF WORK : อนาคต และโอกาสในการทำงานของคนพิการไทยในทศวรรษหน้า เกิดจากความร่วมมือระหว่างกระทรวง พม. โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) สำนักงานบริหารนโยบาย สำนักนายกรัฐมนตรี และบริษัท วัลแคนโคอะลิชั่น จำกัด นับว่าเป็นปรากฎการณ์ที่สำคัญยิ่ง เพราะว่าปัญหาอุปสรรคของคนพิการมีมากกว่าคนทั่วไปอย่างมาก และนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่เราให้คนพิการอย่างแท้จริง เพราะคนพิการมีศักยภาพเหมือนคนปกติทั่วไป โดยเราได้นำศักยภาพของคนพิการมาใช้อย่างแท้จริง ทำให้มีงานทำ และรู้สึกว่าตัวเขาเองมีคุณค่า โดยจะต่อยอดขยายเพิ่มขึ้นให้คนพิการมีงานทำมากขึ้น ถ้ามีอีกหลายๆ บริษัทได้เห็นศักยภาพที่แท้จริงและเปิดโอกาสให้คนพิการได้แสดงศักยภาพการทำงาน
นางพัชรี กล่าวต่อไปว่า กระทรวง พม. ในฐานะที่รับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งให้ความสำคัญกับงานด้านคนพิการอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์โควิด – 19 ซึ่งเราทุกคนจำเป็นต้องทำงานที่บ้าน คนพิการเอง ถ้าได้แสดงศักยภาพจากการทำงานที่บ้านเพื่อหารายได้ เลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ ถือว่านี่คือที่สุดของการที่จะให้คนมีงานทำ วันนี้ กระทรวง พม. ไม่ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของคนพิการเท่านั้น แต่ยังมีกลุ่มเปราะบางที่อยู่ในการดูแลของกระทรวง พม. อีกจำนวนมาก อาทิ ผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำมาต่อยอดเช่นกัน เพื่อให้ผู้สูงอายุมีงานทำ รวมทั้งกลุ่มคนเร่ร่อน ไร้บ้าน หรือแม้แต่เด็ก และเยาวชน เป็นต้น ซึ่งวันนี้ ตนรู้สึกยินดี และขอขอบคุณแทนประชาชนทุกคน รวมถึงสถานประกอบการต่างๆ ที่มีมากกว่า 50 สถานประกอบการ ที่รองรับดูแลคนพิการ รวมทั้งกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ที่ได้เริ่มต้นโครงการดีๆ และเห็นความสำคัญในการพัฒนาด้านอาชีพของคนพิการในรูปแบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการทำงาน ซึ่งจะทำให้คนพิการได้มีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคง สามารถดูแลตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน และหวังว่าคนพิการจะได้รับการส่งเสริมอาชีพและโอกาสในการทำงานด้าน AI สู่สถานประกอบการเพิ่มมากขึ้นต่อไป