Vulcan Coalition ระบบ AI จ้างงานคนพิการ ตัวแรกโลกร่วมพัฒนาโดยคนตาบอด คว้ารางวัลระดับอาเซียน
“วัลแคน โคอะลิชั่น” (Vulcan Coalition) สตาร์ทอัป ผู้ให้บริการ ด้าน AI Technology Driven by Disabilties เป็นการขับเคลื่อนเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ โดยผู้พิการ ทั้งในด้านอุตสาหกรรมและงานวิจัย เพื่อส่งเสริมทักษะด้านดิจิทัล ยกระดับการจ้างงานให้กับกลุ่มคนพิการ และยังเป็น AI ตัวแรกของโลกที่คนพิการทางการมองเห็นมีส่วนร่วมในการพัฒนา
ยกระดับการจ้างงานคนพิการ ด้วยเทคโนโลยี AI
นางสาวเมธาวี ทัศนาเสถียรกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัทวัลแคน โคอะลิชั่น จำกัด เล่าว่า จุดเริ่มต้นของ Vulcan เริ่มขึ้นมาจากเมื่อครั้งตนเองเรียนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีเพื่อนซึ่งเป็นผู้พิการทางการมองเห็น และรู้สึกว่า การเรียนของเพื่อนลำบากมาก ตอนนั้น มีความคิดว่าจะช่วยเพื่อนได้อย่างไร เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาระบบ AI เพื่อผู้พิการขึ้นมาช่วยเพื่อนสามารถเรียนได้ง่ายขึ้นและจบพร้อมกับเรา เป็นจุดเริ่มต้น หลังจากเรียนจบได้ไปทำงานประจำอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนที่จะกลับมาร่วมกับเพื่อน พัฒนาระบบ AI มาใช้กับการให้บริการ Vulcan
สำหรับการเข้ามาเปิดให้บริการ Vulcan ครั้งนี้ เป้าหมายสำคัญ คือ ต้องการที่ยกระดับการจ้างานกลุ่มคนพิการให้มีอาชีพมีรายได้ เพราะประเทศไทยมีคนพิการในวัยทำงานทั้งหมด 819,000 คน แต่มีคนพิการเพียง 33.18% ที่ได้รับโอกาสจ้างงานในขณะที่ คนพิการวัยทำงานกว่า 300,000 คน ไม่มีอาชีพ ต้องพึ่งพาเงินสนับสนุน จากกองทุนส่งเสริมพัฒนาคุณภาชีวิตคนพิการเท่านั้น ซึ่งเป็นเงินเพียงไม่กี่บาท ถ้าเทียบกับค่าครองชีพในปัจจุบันไม่เพียงพอ การพัฒนาทำระบบ AI ขึ้นมาเป้าหมายเพื่อจะมาช่วยยกระดับการจ้างให้กับกลุ่มคนพิการให้มีรายได้เลี้ยงดูตัวเองได้ไม่ต้องพึ่งพาหน่วยงานองค์กรภาครัฐเพียงอย่างเดียว
บริการจัดเรียง จัดเตรียมข้อมูล BIG DATA
ทั้งนี้ การให้บริการของวัลแคน เป็นระบบการให้บริการจัดเรียง จัดเตรียมข้อมูล หรือ BIG DATA ซึ่งลูกค้าของทางบริษัท เช่น บริษัทประกันภัย เครมประกันรถยนต์ ซึ่งบริษัทเหล่านี้ มีข้อมูลที่ต้องทำการจัดเตรียม หรือจัดเรียงที่เยอะมาก เป็นต้น ซึ่งการขาดแคลนข้อมูลเป็นอุปสรรคสำคัญ ในการพัฒนา AI เนื่องจากการจัดเตรียมข้อมูลสำหรับการพัฒนาระบบ AI มีต้นทุนสูง และใช้แรงงานจำนวนมาก ซึ่งแม้แต่บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกเอง ก็ยังต้องเลือกใช้บริการจากบริษัทจัดเตรียมข้อมูล เป็นเหตุผลที่ บริษัทเลือกเข้ามาในธุรกิจนี้
โดยการทำงานของเรา เริ่มมาจากได้ร่วมพัฒนาระบบ AI เข้ามาช่วยคนพิการสามารถทำงานจัดเรียงหรือ จัดเตรียมข้อมูลตรงตามความสามารถของผู้พิการในแต่ละด้าน โดยแบ่งคนพิการออกเป็น 2 กลุ่ม คนที่มองไม่เห็น และ กลุ่มคนที่มองเห็นแต่ไม่สามารถพูดสื่อสารได้ และกลุ่มคนพิการทางการเคลื่อนไหว เพื่อให้ ระบบ AI สามารถเข้าไปช่วยให้ทำงานได้ตรงกับทักษะความสามารถที่คนพิการแต่ละด้านสามารถทำได้ ปัจจุบันบริษัทสามารถจ้างงานคนพิการได้มากถึง 600 คน มีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ 53 องค์กร
ทั้งนี้ ผู้พิการมีรายได้เดือนละ 9,520 บาท กับการทำงานวันละ 4 ชั่วโมง เป็นอัตราค่าจ้าง ที่บริษัทเอกชนทั่วไปจะ ต้องจ่ายเข้ากองทุนส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อยู่แล้วตามกฎหมายมาตรา 35 กรณีที่ไม่ได้จ้างผู้พิการทำงานที่บริษัทของตนเอง ตามกฎหมายกำหนด แต่ถ้าเขามาใช้บริการวัลแคน เท่ากับ จ้างงานผู้พิการ ทำให้ไม่ต้องส่งเงินเข้ากองทุนฯ แต่มาจ่ายให้กับผู้พิการที่ทำงานกับวัลแคนแทนได้ ซึ่งในอนาคต ถ้ามีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการกับ วัลแคน มากขึ้น การจ้างงานคนพิการจะเพิ่มมากขึ้นด้วย
ทักษะพิเศษของผู้พิการ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
ในส่วนประสิทธิภาพการทำงานของคนพิการ “เมธาวี” บอกว่า การใช้พนักงาน ซึ่งเป็นกลุ่มคนพิการเหล่านี้ ไม่ได้มีอุปสรรคต่อการทำงาน แต่ในทางตรงกันข้าม คนพิการเหล่านี้ มีทักษะการทำงานบางอย่างได้ดีกว่าคนปกติ เช่น การได้ยินของคนตาบอด ก็จะเร็วกว่าคนปกติ 2.5 เท่า เป็นต้น อย่างไรก็ดี เพื่อให้ประสิทธิภาพการทำงานของวัลแคนดีขึ้น รองรับการขยายบริการในรูปแบบอื่นๆ ทางบริษัท ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านเทคโนโลยี AI ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ล่าสุด บริษัท ได้พัฒนาระบบ AI ช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีอาการโรคซึมเศร้า โดยเตรียมเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ โดยผู้ป่วยที่มีอาการซึมเศร้า และต้องการคำปรึกษา หรือ ต้องการ การช่วยเหลือเบื้องต้น ก่อนจะเข้าไปใช้บริการทางการแพทย์ สามารถเข้ามาใช้บริการของวัลแคนได้ ที่บริษัทเลือกจะเข้ามาให้บริการช่วยเหลือผู้ป่วยในกลุ่มนี้ มาจากสาเหตุการฆ่าตัวตายที่มาจากภาวะอาการซึมเศร้าเพิ่มมากขึ้นในสังคมไทยปัจจุบัน และวัลแคน เป็นกิจการสตาร์ทอัปที่ให้บริการด้านสังคม เราก็เลยอยากทำตรงจุดนี้เพิ่มขึ้นมา และประกอบกับ ผู้ป่วยในกลุ่มนี้ ยังต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งบริการทางการแพทย์ หรือสาธารณสุข อาจจะยังเข้าไปให้บริการไม่ทั่วถึง เราก็เลยขออาสาเข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้นเพื่อให้ทุกคนปลอดภัยจากภาวะอาการดังกล่าว ศักยภาพพัฒนา AI สตาร์ทอัปไทย การันตีรางวัลระดับอาเซียน
“เมธาวี”
เล่าถึงการทำงานของวัลแคน ตลอด 3 ปี ทำงานเพื่อสังคม ทำให้ได้รับรางวัลต่างๆ หลายรางวัล รวมถึง การได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมใน ปี 2564 ที่ผ่านมา ด้วย ซึ่งรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติเป็นอีกหนึ่งรางวัลด้านนวัตกรรมที่ทรงเกียรติ และผู้ที่ได้รับรางวัล ยังได้รับการยกย่องให้เป็นสุดยอดนวัตกร เป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของคนทำงานด้านนวัตกรรม ในปี 2565 จึงอยากจะเชิญชวนให้ผู้ประกอบการด้านนวัตกรรมเข้าร่วมส่งผลงานเข้าประกวดในครั้งนี้ เพื่อบอกให้คนทั่วโลกได้รู้ว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ประเทศนวัตกรรม โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึง 31 พฤษภาคม นี้ ผ่าน www.award.nia.or.th
นอกจากรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ วัลแคน Vulcan ยังได้มีโอกาสไปคว้า รางวัลระดับโลก บนเวทีการประกวด AI For Accessibility ที่จัดโดย บริษัทไมโครซอฟต์ จำกัด โดย Vulcan ได้รับรางวัลชนะเลิศการพัฒนา AI เพื่อคนพิการในระดับอาเซียน และจากความสำเร็จดังกล่าว ส่งผลให้การเปิดระดมทุน Vulcan มีนักลงทุนVenture Capital จากทั้งในประเทศ และต่างประเทศ สนใจเข้าระดมทุน ซึ่งการเปิดระดมทุนครั้งแรก บริษัทสามารถระดมทุนได้กว่า 30 ล้านบาท และคาดว่าการะดมทุนครั้งหน้า จะสามารถระดมทุนได้กว่า 100 ล้านบาท
ในส่วนของผลประกอบการของ วัลแคน ในปีแรก มีรายได้กว่า 10 ล้านบาท และจากการขยายงานในช่วง 1-2 ปี คาดว่าผลประกอบการเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เพราะการเก็บข้อมูล Big Data เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำธุรกิจออนไลน์ในปัจจุบัน ที่มีการแข่งขันรุนแรง หลายกิจการจำเป็นจะต้องมีข้อมูลเรื่องของ Big Data เพื่อรองรับการแข่งขันที่รุนแรงเพิ่มขึ้นในอนาคต บนโลกดิจิทัล
“การทำงานของ วัลแคน ต้องการจะขับเคลื่อนสังคม 3 ด้าน ผ่านโควต้าของผู้พิการ สร้างนวัตกรรม การสร้างอาชีพ และสร้างความยั่งยืน เพราะเราเชื่อในศักยภาพของคนพิการ เมื่อบางส่วนขาดจะถูกเติมเต็มด้วยส่วนอื่นๆที่พิเศษ ส่งผลให้คนพิการแต่ละประเภทมีศักยภาพเฉพาะที่โดดเด่นกว่าคนไม่พิการ” เมธาวี กล่าว