รายละเอียดกระทู้

นายนเรศ บุญเปี่ยมรักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ตรวจสภาพรถเมล์ นายนเรศ บุญเปี่ยมรักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)ในฐานะประธานคณะกรรมการร่างทีโออาร์โครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 3,183 คันวงเงิน 13,162.2 ล้านบาท เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาขสมก.ได้ประกาศร่างทีโออาร์ครั้งที่ 8 ผ่านเว็บไซต์กรมบัญชีกลาง และเว็บไซต์ของขสมก.แล้ว ซึ่งสาระสำคัญต่างๆ ยังเหมือนกับร่างที่โออาร์ครั้งที่ 7ซึ่งไม่ได้มีการแก้ไขอะไรใหม่ซึ่งเป็นการยืนยันร่างทีโออาร์ที่จะมีรายละเอียดตามที่เคยประกาศไปแล้วโดยราคากลางยังยืนยันตามเดิม คือรถธรรมดาคันละ 3.8ล้านบาท และรถปรับอากาศคันละ 4.5 ล้านบาททั้งนี้ตนได้ทำหนังสือสอบถามราคารถโดยแยกเป็นราคาอะไหล่ไปตามผู้ประกอบการต่างๆตามที่คณะอนุกรรมการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ชุดเฝ้าระวังและติดตามโครงการรถเมล์เอ็นจีวีของ ขสมก. เสนอแนะมาซึ่งมีเอกชนตอบมาเพียง 2 รายเท่านั้น และราคาก็ยังสูงกว่าราคากลางที่ขสมก.ตั้งไว้ จึงยืนยันราคากลางตามเดิม หลังจากนี้ต้องรอดูข้อเสนอแนะต่างๆที่จะมีเข้ามาก่อนแต่ถึงจะไม่มีข้อเสนอแนะที่แตกต่างจากเดิมก็คงยังเปิดขายซองประกวดราคาไม่ได้ภายในเร็วๆนี้เนื่องจากต้องรอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาความเห็นของ ป.ป.ช.ที่มีหนังสือลงนามโดยนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. แสดงความเห็นเกี่ยวกับการซื้อรถเมล์ของขสมก.ที่ส่งไปถึงนายกรัฐมนตรีเสียก่อน นายนเรศกล่าวต่อว่า สำหรับความเห็นที่ ป.ป.ช.มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี มีประเด็นสำคัญ 3เรื่อง คือ 1.ไม่จำเป็นที่จะต้องกำหนดให้มีการประกอบรถภายในประเทศเท่านั้นควรเปิดให้ประกอบจากที่อื่นแล้วนำเข้ามาก็ได้ 2.ทำไมขสมก.ต้องซื้อแต่รถเมล์ที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิง ทำไมไม่ซื้อรถแบบอื่นด้วยและ 3.ราคากลางของรถเมล์ควรมีการสอบถามจากหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องให้มีความกว้างขวางกว่านี้ ซึ่งคำถามเหล่านี้ ขสมก.สามารถตอบได้ แต่ป.ป.ช.มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี จึงต้องรอคำตอบก่อนซึ่งไม่รู้ว่าจะได้คำตอบเมื่อใด ขอบคุณ httphttp://www.dailynews.co.th/Content/bangkok/223303 (เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 17