รายละเอียดกระทู้

พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม แถลงข่าวชะลอการเปิดประกวราคาโครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาท โดยให้คณะกรรมการร่าง TOR ปรับปรุงคุณสมบัติขอรถโดยสารธรรมดาใหม่เพื่อให้คนพิการสามารถ พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในฐานะเป็น รมช.คมนาคมที่กำกับดูแลองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้มีนโยบายให้คณะกรรมการจัดทำร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) โครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.2 ล้านบาท ที่มีนายนเรศ บุญเปี่ยม รองผู้อำนวยการ ขสมก.เป็นประธาน ชะลอการเปิดประมูลจัดซื้อรถเมล์ NGV พร้อมทั้งให้แก้ไข TOR ในส่วนของรถโดยสารธรรมดา (รถร้อน) 1,659 คันให้เป็นไปตามข้อแนะนำของกลุ่มผู้พิการ ที่ต้องการเข้าถึงบริการได้ทั้งรถร้อนและรถปรับอากาศ ซึ่งคณะกรรมการร่าง TOR ได้รับนโยบายไปดำเนินการปรับปรุง TOR แล้ว โดยหลักๆ สเปกรถร้อนจะเหมือนรถปรับอากาศ แตกต่างกันที่มีแอร์กับไม่มีแอร์ ซึ่งเบื้องต้นจะปรับเปลี่ยนคุณสมบัติรถร้อนเป็นแบบแชสซีส์กึ่งชานต่ำ (Semi Low floor) เพื่อให้มีทางลาดสำหรับรถเข็น (wheel chairs) ใช้ได้ ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้กรรมการร่าง TOR ไปพิจารณาเพิ่มเติมให้เหมาะสม ทั้งนี้ คณะกรรมการร่าง TOR ได้รายงานผลสรุปการจัดทำ TOR ให้รับทราบเมื่อช่วงเช้า วันที่ 8 พฤศจิกายน แต่จากที่ได้รับฟังข้อคิดเห็นต่างๆ พบว่ายังมีประเด็นที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ 2 เรื่องหลัก คือ 1.การจัดซื้อรถต้องกำหนดแชสซีส์เป็นแชสซีส์รถโดยสาร ไม่ใช่แชสซีส์รถบรรทุก ซึ่งได้กำชับให้ตรวจสอบไม่ให้การใช้แชสซีส์รถบรรทุกดัดแปลงได้ และ 2. ต้องเป็นรถที่ทุกคนสามารถใช้บริการได้ โดยเฉพาะผู้พิการ ไม่ว่าจะพิการทางด้านไหน จึงกำหนดนโยบายให้ ขสมก.ปรับปรุง TOR ให้เหมาะสม เป็นการยืนยันว่าในการจัดซื้อรถเมล์ NGV 3,183 คันจะต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส ตรจจสอบได้ไม่มีอะไรปิดบังซ่อนเร้นอย่างเด็ดขาด พล.อ.พฤณท์กล่าวว่า ในส่วนความเห็นของคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชุดศึกษาเฝ้าระวัง โครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV3,183 คัน เรื่องทยอยประมูลทีละสัญญานั้น ยืนยันว่าไม่สามารถทำได้เพราะผิดระเบียบการประกวดราคาด้วยวิธีทาง อิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออกชัน) ดังนั้น คาดว่าประเด็นที่ปรับแก้ในเรื่องรถร้อนสำหรับคนพิการจะเป็นเรื่องสุดท้าย และจะมีการนำ TOR ที่ปรับปรุงชี้แจงผ่านเว็บไซต์กรมบัญชีกลางและเว็บไซต์ ขสมก.เพื่อรับฟังความคิดเห็นเป็นครั้งที่ 6 ได้ประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ หากไม่มีความเห็นเพิ่มเติมจะสรุปและนำลงเว็บไซต์ครั้งที่ 7 เป็นการยืนยัน คาดว่าจะเปิดขายซองประมูลได้ประมาณปลายเดือนธันวาคม ใช้เวลาประมาณ 30 วัน จากนั้นจะให้ผู้ยื่นเสนอนำรถมาวิ่งทดสอบประสิทธิภาพได้ประมาณปลายเดือน มกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2557 “ก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้ปรับแก้ TOR รถร้อนตามที่คนพิการเสนอแนะเพราะ ขสมก.มีข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณ และกายภาพของพื้นถนน กทม.ที่ไม่เรียบและมีสะพานข้ามคลองจำนวนมาก รถแบบชานต่ำที่สูง 40 ซม.จะวิ่งไม่ได้เพราะติดใต้ท้องรถ ซึ่งรถชานต่ำส่วนใหญ่ใช้วิ่งในสนามบินเพราะพื้นเรียบตลอด ไม่มีทางลาดชัน ดังนั้น จะเป็นได้แค่รถกึ่งชานต่ำที่มีระยะห่างจากพื้นถนนถึงพื้นห้องโดยสาร ไม่เกิน 60 ซม. โดยราคากลางรถร้อนที่คันละ 3.8 ล้านบาทเหมือนเดิม ส่วนกรณีที่ ขสมก.กังวลเรื่องน้ำท่วมใน กทม. 37 จุด จึงต้องกำหนดรถร้อนยกพื้นสูงนั้น ประเด็นนี้ให้ ขสมก.จัดเตรียมรถร้อนที่มีสภาพดีในปัจจุบันไว้จำนวน 290 คัน เพื่อไว้บริการในช่วงฤดูฝนที่สุ่มเสี่ยงว่าพื้นที่กทม.จะมีน้ำท่วมขัง” พล.อ.พฤณท์กล่าว ด้านนายนเรศ บุญเปี่ยม รองผู้อำนวยการ ขสมก. ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดทำ TOR รถเมล์ NGV 3,183 คัน กล่าวว่า คณะกรรมการร่าง TOR จะประชุมสัปดาห์หน้า โดยจะปรับปรุง TOR ในส่วนของรถร้อน จากเดิมที่กำหนดเป็นขนาดมาตรฐาน มาเป็น Semi Low floor โดยมีระยะห่างจากพื้นถนนถึงพื้นห้องโดยสารไม่เกิน 60 ซม. เพื่อทำให้มั่นใจว่าสามารถวิ่งผ่านสะพานที่มีทางลาดได้อย่างปลอดภัย และหลังจากนั้นจะนำร่าง TOR ประกาศลงเว็บไซต์ต่อไป ด้านนางสาวอาภาณี มิตรทอง ตัวแทนผู้พิการ ภาคีเครือข่ายรถเมล์เพื่อประชาชนทุกคนขึ้นได้ทุกคัน กล่าวว่า รู้สึกพอใจที่ รมช.คมนาคมลงมาแก้ปัญหาและมีการปรับเปลี่ยน TOR รถร้อนเพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงบริการได้ ซึ่งจะรวมถึงคนชรา เด็ก และผู้หญิงที่นุ่งสั้น ฯลฯ ก็จะใช้บริการได้สะดวกขึ้นด้วย และเห็นว่าหากคณะกรรมการร่าง TOR ต้องการความเห็นเพิ่มเติม คนพิการพร้อมที่จะร่วมให้ข้อมูล เนื่องจากข้อกำหนดยังขาดอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบถ้วนตามมาตรฐาน เช่น ตัววิ่ง สัญญาณเสียงในรถเพื่อบอกข้อมูลสำหรับผู้พิการทางหู เป็นต้น ซึ่ง พล.อ.พฤณท์ยืนยันว่าจะมีการติดตั้งเพิ่มเติมภายหลัง เพราะวงเงินที่ได้รับไม่เพียงพอ ส่วนระยะแรกจะจัดเจ้าหน้าที่ ขสมก.คอยดูแลไปก่อน อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลมาตรฐานการประกอบรถโดยสารนั้น รถโดยสารที่รถเข็นคนพิการ (wheel chairs) ใช้บริการได้นั้น ขสมก.กำหนดเงื่อนไขเพียงว่าเป็นรถที่มีระบบรองรับน้ำหนักแบบถุงลมเท่านั้น เพราะตามมาตรฐานจะกำหนดระยะห่างจากพื้นถนนและพื้นห้องโดยสารที่ให้รถเข็นคน พิการขึ้นได้ เพราะจะมีทางลาดเอียงประมาณ 7 องศา เพราะถ้าไม่กำหนดระบบถุงลม ถ้ารถใช้ระบบแหนบ รถคนพิการจะใช้ทางลาดเอียงไม่ได้แน่นอน ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000139464 (ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 8 พ.ย.56 )