สำรวจ ‘รถไฟฟ้าสายสีแดง’ ไม่มีจุดเชื่อมต่อ ไม่เอื้อต่อผู้พิการ
สภาผู้บริโภค ลงพื้นที่สำรวจ 'รถไฟฟ้าสายสีแดง' พบว่า มีปัญหาจุดเชื่อมต่อ หลายสถานีไม่มีรถสาธารณะให้บริการ และทางเดินคนพิการก็ไม่สะดวก
สภาองค์กรผู้บริโภค ร่วมกับ กรมการขนส่งทางราง, บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการสายสีแดง, กรมการขนส่งทางบก, องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ, เครือข่ายผู้บริโภค ผู้พิการ ร่วมสำรวจเส้นทางรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง 5 สถานี จาก 13 สถานี
ได้แก่ รังสิต, หลักหก, หลักสี่, ทุ่งสองห้อง, ตลิ่งชัน เพื่อนำเสนอแนวทางปรับปรุงระบบขนส่ง การเชื่อมต่อหรือ feeder อำนวยความสะดวกในการให้บริการ และจูงใจผู้บริโภคใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568
พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กล่าวว่า วันนี้มากับสภาผู้บริโภค หลังจากรัฐบาลมีนโยบาย 20 บาทตลอดสายสีแดง เราก็มาเช็คกันอีกทีว่า การเดินทางมีความสะดวกมากน้อยแค่ไหน
"เมื่อสักครู่ไปที่สถานีรังสิต พบว่า การเชื่อมต่อทางกายภาพมีปัญหาเล็กน้อย รถเมล์ รถสองแถวที่จะเชื่อมต่อยังมีจำนวนไม่เพียงพอ เคยมีรถมาเชื่อมต่อแล้วประสบปัญหาคนไม่ได้ลงมาใช้ ก็เลยลดจำนวนรถเชื่อมต่อลง
ในส่วนของทางลาด ลิฟท์ ทางขึ้น ที่ไม่เอื้อต่อการเดินทางของผู้พิการ เราจะแก้ไขให้หมด เป็นไปตามกฎหมายและเป็นหน้าที่ของกรมฯที่จะต้องมาเช็ค และแก้ไขปรับปรุง
ระยะหลังจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงเพิ่มขึ้นร้อยละ 43.9 หรือราว 40,000-45,000 คนต่อวัน ทั้งที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 80,000 คนต่อวัน จำเป็นต้องลดอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อดึงดูดให้ผู้โดยสารมาใช้บริการมากขึ้น
จากการลงพื้นที่สำรวจ 5 สถานี พบว่า สถานีทุ่งสองห้อง ไม่มีป้ายบอกข้อมูลการเดินทางไปป้ายรถเมล์ ไม่มีทางให้วีลแชร์ หากลงผิดทางจะไม่เชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะอื่นได้
สถานีหลักสี่ มีความยากลำบากในการเดินทางจุดเชื่อมต่อกับสายสีชมพู ฟุตบาทแคบ มีสิ่งกีดขวางทางสัญจร เป็นอุปสรรคต่อผู้พิการผู้ใช้วีลแชร์
สถานีหลักหก (มหาวิทยาลัยรังสิต) ไม่มีรถสาธารณะให้บริการ ทางเดินคนพิการกลายเป็นจุดจอดรถจักรยานยนต์ มีสิ่งกีดขวางบนทางของผู้พิการ ทางลาดเอียงไม่ได้มาตรฐาน จุดขึ้นรถสองแถวไกลกว่า 300 เมตร
สถานีรังสิต (ห้างฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต) ไม่มีรถเมล์ให้บริการ ทางลาดเอียงไม่ได้มาตรฐาน ทางเท้าชำรุด ไม่สามารถใช้งานได้ ผู้พิการมีความยากลำบากในการใช้ทาง
สถานีตลิ่งชัน ขาดระบบขนส่งสาธารณะเชื่อมต่อการเดินทางที่เพียงพอ
กรมการขนส่งทางรางจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ การรถไฟแห่งประเทศไทย, บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด, กรมการขนส่งทางบก, องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ เร่งดำเนินการแก้ไขจุดที่เป็นปัญหา
โดยเฉพาะระบบ Feeder รถ ขสมก. เพื่อดึงให้ประชาชนมาใช้บริการ โดยจะเร่งรัดให้หน่วยงานดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน"
การเดินทางควรไร้รอยต่อ และขึ้นได้ทุกคน
สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาผู้บริโภค กล่าวว่า การลงพื้นที่วันนี้ เห็นอุปสรรคไม่น้อย
"เห็นได้ชัดเจนว่า ผู้พิการลำบากมาก ทางลาดที่ไม่เอื้อให้คนพิการ เช่นที่สถานีรังสิต มีแต่รถมอเตอร์ไซค์ รถสองแถวก็จอดอยู่ไกล นอกสถานีมาก คนพิการขึ้นไม่ได้
การมีรถไฟฟ้าก็เพื่อให้ทุกคนขึ้นได้ทุกวัน และควรทำให้คนที่มาจากบ้านมาเชื่อมต่อขึ้นรถไฟฟ้าได้
ต้องขอบคุณอธิบดีกรมขนส่งทางราง, อธิบดีกรมขนส่งทางบก และหลายหน่วยงานที่มาดู แล้วเห็นปัญหาร่วมกัน เดี๋ยวเราจะตั้งวงกับนายก อบจ.ต่อ ว่าเขาจะช่วยสนับสนุนเรื่องเหล่านี้อย่างไร
กรมขนส่งทางรางวันนี้ก็น่าจะเห็นปัญหาและปรับปรุงทางกายภาพ ทำให้คนพิการเดินทางได้สะดวกขึ้น ม.รังสิต ก็ได้จัดรถมารับนักศึกษาที่ลงจากรถไฟฟ้า แต่ไม่สามารถมาจอดที่สถานีได้ ต้องจอดไกลมาก
เราเคยทำหนังสือไปที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าจะสนับสนุนยังไง มีระบบฟีดเดอร์สนับสนุนกรมขนส่งทางบกหรือไม่
การทำรถไฟฟ้าใช้งบประมาณมากมายมหาศาล มันควรมีระบบรถเมล์ รถสองแถว หรือบริการขนส่งมวลชนมาเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าเพื่อให้ประชาชนใช้บริการได้มากขึ้น ในทุกสาย
การเชื่อมต่อระหว่างสถานีของแต่ละบริษัท เห็นปัญหาชัดเจน เช่น สีชมพู กับ สีแดง ที่สถานีหลักสี่ คนเดินลำบากมากที่จะมาต่ออีกสายหนึ่ง
สายสีชมพูผ่านศูนย์ราชการ มีคนมาใช้บริการไม่น้อย ก็เดินได้ยาก ไม่ใช่เฉพาะคนพิการ คนทั่วไป ก็ไม่มีฟุตบาท ทางเท้า ให้เดินเลย ลงมาแล้วมีความเสี่ยงที่จะถูกรถชน
กรมขนส่งทางบกจังหวัดปทุมธานี คราวที่แล้วอ้างว่าเป็นที่ดินเอกชน ขณะนี้ อบจ.สามารถจัดรถได้ หรือในส่วนของกรมขนส่งทางบก ก็ควรทลายกำแพงให้คนใช้บริการขนส่งมวลชนมากขึ้น
เราไม่ได้ให้ความสำคัญกับระบบรางอย่างเดียว ระบบขนส่ง รถเมล์ เรือข้ามฟาก เรือไฟฟ้า ทางสภาผู้บริโภคก็จะออกแบบเรื่องนี้
ทำยังไงให้ไร้รอยต่อ มีค่าโดยสายที่คนขึ้นได้ทุกวัน แล้วไม่เฉพาะกรุงเทพด้วย ควรทำไปทั่วประเทศ"
เดินทางในกรุงเทพฯ ต้องมีแผนสำรองตลอด
ลาวัลย์ สาโรวาท ผู้ใช้งานขนส่งสาธารณะ กล่าวว่า ตัวเองมีบ้านสองหลัง ต้องเดินทางไปมาตลอด บ้านอยู่คู้บอน กับบางบัวทอง
"ปกติออกจากบ้านคู้บอน 41 มาถนนรามอินทรา ระยะทาง 4 กิโล ด้วยรถเมล์ 197 หรือรถสองแถว มาขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีคู้บอน ไปลงที่สถานีเลี่ยงปากเกร็ดแล้วต่อรถเมล์สาย 236
เมื่อก่อนไม่มีรถไฟฟ้า ก็ไปรถตู้ แต่ถึงแม้มีรถไฟฟ้าแล้วก็ยังใช้เวลาสองชั่วโมงอยู่ดี ปกตินั่งสายสีชมพู วันนี้มาสำรวจสายสีแดง ได้เห็นสภาพถนน ได้เห็นความลำบากของคนพิการ ไม่เอื้อต่อเขาจริง ๆ
การเดินทางในกรุงเทพฯต้องหาออฟชั่นเสริมไว้ตลอดเวลา อยากฝากผู้ที่เกี่ยวข้องว่า 1 อยากให้มีรถรองรับคนที่อยู่ในซอกในซอยออกมาที่ถนนใหญ่ให้มากขึ้น 2 ช่วงเวลาไหนที่รถน้อย ช่วยประชาสัมพันธ์บอกด้วย อย่างช่วงบ่ายโมงถึงบ่ายสาม รถจะออกทุกหนึ่งชั่วโมง
3 แอพพลิเคชั่นของสมายล์บัสไม่เฟรนด์ลี่เลย หรือแอพเวียบัส เห็นมีรถอยู่ รถวิ่งมา แต่งดให้บริการ 4 ถ้ามีรถเมล์สองสายที่วิ่งคล้ายกัน เช่นสาย 164 กับ 197 นายท่าประสานงานดี ๆ สลับกันออกรถ จะมีรถโผล่มาให้เราใช้ได้มากขึ้น ช่วยทำให้มีความถี่หน่อย อย่าให้เกิน 40 นาทีได้ไหม
5 ช่วยกรุณาจอดรถที่ป้ายรถเมล์ด้วย ถ้าเห็นคนนั่งอยู่ เพราะคนจะขึ้น เขาโบกไม่ทันหรอก ก้ม ๆ อยู่ เงยขึ้นมา อ้าว เลยไปแล้ว แล้วยิ่งนาน ๆ คุณมาคันหนึ่ง แทบจะร้องไห้เลยนะคะ"
ผู้พิการควรมีส่วนร่วมในการออกแบบ
ปิยะบุตร เทียนคำศรี นายกสมาคมศักดิ์ศรีคนพิการไท กล่าวว่า ปกติใช้รถไฟฟ้าบ่อย จากบ้านที่พหลโยธิน 67 เข้ามาในเมือง
"วันนี้มาสำรวจเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง พบว่า มีปัญหาบางจุด ซึ่งไม่ควรชำรุดไว เช่น ทางเท้า หรือปูแผ่นกระเบื้อง ปูไม่ครบ ทำให้มีรอยต่อที่เป็นอุปสรรค พอไปถึงตรงปลายสุดแล้วไม่มีต่อทำให้รถวีลแชร์ตกลงไป การบังคับก็ไม่อยู่
แล้วมีอีกหลาย ๆ ที่ ถ้าไม่แก้ไข ก็เดินทางยาก ต้องให้ผู้ใช้ เช่น คนพิการเข้ามามีส่วนร่วม นำเสนอ มันจะใช้งานได้จริง ปลอดภัยจริง ๆ เพราะสิ่งที่หน่วยงานได้ทำไปมักจะคิดแทนคนใช้แต่มันไม่สามารถใช้ได้จริง
คำว่า เมืองที่เป็นธรรม ทุกคนต้องมีสิทธิ์ เข้าถึงได้ ไปได้ต่อเนื่อง ไม่ว่าคนปกติ คนแก่ คนท้อง แม่ลูกอ่อน คนใช้รถเข็น วีลแชร์ คนพิการ ไปได้อย่างไร้รอยต่อ ไม่ต้องขอความช่วยเหลือ หรือเป็นภาระสังคม ทุกคนต้องเข้าถึง เป็นธรรม และเท่าเทียม"
การเชื่อมต่อ ควรทำให้สะดวกกว่านี้
สว่าง ศรีสม อนุกรรมการด้านการขนส่งและยานพาหนะ ภาคีเครือข่ายขนส่งมวลชน ทุกคนต้องพึ่งได้ กล่าวว่า ปกติใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำ บางสัปดาห์ใช้ทุกวัน
"บ้านผมอยู่ที่รัตนาธิเบศร์ ใกล้กับสายสีม่วง ถ้าไปสุขุมวิท สยาม ผมก็ไปต่อสายสีน้ำเงินที่เตาปูน การเชื่อมต่ออยู่ในอาคารเดียวกัน แค่เปลี่ยนชั้น มันก็สะดวก ไปลงสถานีหมอชิตแล้วเปลี่ยนไปขึ้น BTS แต่ถ้าไปหลักสี่ เมืองทอง ก็ไปต่อสายสีชมพู ที่ศูนย์ราชการนนท์ ต้องเข็นวีลแชร์ไป 400 กว่าเมตร บนสกายวอล์ค มันไกลมาก เหนื่อยมาก
จากการสำรวจเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดงวันนี้พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในจุดอับ ไม่ค่อยเชื่อมต่อกับชุมชนรอบข้าง แล้วไม่มีสถานที่สำคัญอยู่รอบ ๆ เลย แล้วก็ไม่ติดถนน
เช่น สถานีหลักหก ลงมาแล้วเวิ้งว้างไปหมด ไปต่อไม่ได้ มีแต่วินมอเตอร์ไซค์ จะไปขึ้นวินก็ไม่ได้ จะไปขึ้นสองแถวไป ม.รังสิต ก็อยู่ไกล ไปไม่ได้อีก ยากลำบาก
สถานีทุ่งสองห้อง ลงมาแล้ว ก็หยุดอยู่แค่ตรงนั้น จะขึ้นรถเมล์ก็ขึ้นไม่ได้ สายสีแดงมีปัญหาแบบนี้เยอะมาก เป็นการออกแบบที่ค่อนข้างแปลก การเลือกตำแหน่งที่ตั้งของสถานีก็แปลก ไม่ได้คิดถึงการใช้งานของประชาชน
ไม่ใช่แค่การสร้างสถานี การเลือกตำแหน่งก็สำคัญมาก ว่าคนจะเข้ามาใช้ยังไง แล้วถ้ามีข้อจำกัดว่าไม่อยากเวนคืนที่ดินเพิ่มแล้วสร้างในที่ดินของตัวเอง ก็ต้องมีทางออกว่าจะหาทางให้คนเข้ามาใช้บริการที่สถานียังไง
หรือทำระบบ Feeder รองรับคนมาที่สถานีนี้ให้ง่ายขึ้น มันใช่สร้างเสร็จแล้วค่อยมาคิด คือ พอคนไปใช้แล้วไม่สะดวก คนก็ไม่อยากใช้แล้ว
ลองคิดดู การสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงใช้งบประมาณกี่หมื่นล้าน สถานีใหญ่โตมาก แต่คนมาใช้งานไม่กี่คน ซึ่งไม่คุ้มกับการลงทุนเลย"
จัด EV Bus ขึ้นฟรี ! เชื่อมการเดินทาง ศูนย์ราชการฯ กับ หลักสี่ วันที่ 3 มีนาคมนี้
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 สุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง กล่าวว่าว่า ปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา
"บริษัทฯ ได้ร่วมกับ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) จัดโครงการขนส่งสาธารณะพลังงานไฟฟ้า EV Bus (Electric Bus) ช่วยเชื่อมต่อการเดินทางรถไฟฟ้าสีแดง ให้สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะที่มีความยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โดยให้บริการการเดินทางเชื่อมต่อระหว่าง ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ กับ สถานีหลักสี่ บริการฟรี! ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ตั้งแต่ วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม 2568 เวลา 06.00 – 19.00 น. ในวันจันทร์-ศุกร์ สิ้นสุดวันที่ 31 สิงหาคม 2568 รวมระยะเวลา 6 เดือน"
ในจุดรับ-ส่ง 4 จุด ได้แก่
1 สถานีอาคาร B ประตู 2 (ฝั่งทิศใต้)
2. สถานีด้านหน้าอาคารสนับสนุน (อาคารพดด้วง)
3 สถานีปากซอยแจ้งวัฒนะ 5
4 สถานีฝั่งตรงข้ามอาคารสนับสนุน (อาคารพดด้วง)
ขอบคุณ... https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/judprakai/1168975