รายละเอียดกระทู้

กฤษนะ ละไล เยือนสหพันธรัฐรัสเซีย คอลัมน์ กฤษนะทัวร์ยกล้อ โดย... กฤษนะ ละไล : พรีเวียต..สวัสดีครับ ผมเพิ่งเดินทางกลับมาจากเมืองหมีขาว-สหพันธรัฐรัสเซีย อีกหนึ่งมหามิตรประเทศอันเก่าแก่ของไทยในทวีปยุโรปตะวันออก สาเหตุ ที่ไปรัสเซีย ก็เพราะว่า (1) ไปทำข่าวงานมหกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวนานาชาติ ประจำปี 2013 หรือ MATIW-Leisure 2013 ที่กรุงมอสโก เมืองหลวงของประเทศรัสเซีย ซึ่งประเทศไทย โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เข้าร่วมโปรโมทการท่องเที่ยวไทยต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 19 พร้อมกับประเทศต่างๆทั่วโลกอีกกว่า 50 ชาติ (2) ไปสำรวจอารยสถาปัตย์ หรือการจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สำหรับให้บริการผู้สูงอายุ และผู้พิการในพื้นที่สาธารณะ และแหล่งท่องเที่ยว ใน 2 เมืองหลักของรัสเซีย คือ กรุงมอสโก และนครเซนต์ปิเตอร์สเบิร์ก ขอพูดเรื่องการท่องเที่ยวก่อน เพราะตอนนี้ คนรัสเซีย กำลังนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยเป็นอย่างมาก เอาเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยวไทยได้เปรียบดุลการค้ารัสเซียมหาศาล เมื่อปีที่แล้ว (ปี 2555) มีคนไทยไปเที่ยวรัสเซียประมาณ 50,000 คน ขณะที่มีคนรัสเซียมาเที่ยวเมืองไทยมากถึง 1.3 ล้านคน มากกว่าเมื่อปี 2553 ซึ่งมีจำนวน 644,678 คน เพิ่มขึ้นพรวดพราดกว่า 100 % ล่าสุด ในช่วง 7 เดือนของปีนี้ ตั้งแต่มกราคม-สิงหาคม 2556 มีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเข้ามาเที่ยวเมืองไทยแล้ว 1,061,626 คน ขยับขึ้นมาเป็นเบอร์ 3 แซงหน้าญี่ปุ่น (1,012,441 คน) ไปเรียบร้อย (เมื่อปี 2555 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทย รวม 22,303,065 คน อันดับ 1 คือ จีน=2,789,345 คน อันดับ 2 คือ มาเลเซีย=2,560,963 คน อันดับ 3 คือ ญี่ปุ่น=1,371,253 คน อันดับ 4 คือ รัสเซีย=1,317,384 คน) คุณจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา มองว่า รัสเซียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวที่สำคัญของไทยในทวีปยุโรป และในโลก เพราะเป็นเบอร์ 3 ในโลก รองจากจีน และมาเลเซีย และเป็นเบอร์ 1 ในยุโรป โดยจากจำนวนนักท่องเที่ยวยุโรปที่มาเที่ยวเมืองไทยในปี 2555 จำนวน 5.61 ล้านคนนั้น เป็นชาวรัสเซียมากเป็นอันดับ 1 คือ 1.3 ล้านคน นำเงินรายได้มาสู่เมืองไทย 8.4 หมื่นล้านบาท คนรัสเซียชอบเที่ยวทะเลเมืองไทยมากที่สุด ตอนนี้ กำลังขยายตลาดทัวร์สุขภาพ และฮันนิมูน และเป็นที่น่ายินดีว่า เมืองไทยติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศที่คนรัสเซียชอบไปเที่ยวมากที่สุด นอกเหนือจากตุรกี และอียิปต์ คาดว่า ในปี 2556 จะมีคนรัสเซียมาเที่ยวเมืองไทยถึง 1.6 ล้านคนเป็นอย่างน้อย ส่วนตัวผมมองว่า อีกเรื่องหนึ่งที่จะมาช่วยเสริม และขยายตลาดการท่องเที่ยวของไทยในเวทีโลกได้เป็นอย่างดี คือ เรื่อง “อารยสถาปัตย์” (Universal Design) หรือหลักการออกแบบพื้นที่สาธารณะ ตึกอาคาร และแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้มีความสะดวก ปลอดภัย เป็นธรรม ทั่วถึง และเท่าเทียม ซึ่งถือเป็นภาษาสากล และกติกาสากลของโลกยุคปัจจุบัน และอนาคต เพราะหลักการออกแบบ และก่อสร้างที่เป็น “อารยสถาปัตย์” จะช่วยทำให้ผู้สูงอายุ และผู้พิการ สามารถเข้าถึง และใช้ประโยชน์ได้โดย “สะดวก” และ “ปลอดภัย” ในบริการสาธารณะทุกรูปแบบ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ซึ่งเมื่อผู้สูงอายุ และผู้พิการใช้บริการได้ เข้าถึงได้ โดยสะดวก และปลอดภัยแล้ว ยังส่งผลโดยตรงไปถึงกลุ่มผู้ป่วยพักฟื้น หรือคนที่สุขภาพไม่ดี ไปจนถึงสตรีมีครรภ์ และเด็กเล็กที่ต้องใช้รถเข็นเด็ก ก็จะพลอยสะดวก และปลอดภัยมากขึ้นไปด้วย เรื่องอารยสถาปัตย์ กับการท่องเที่ยวไทยในเวทีโลกนั้น คุณเพ็ญสุดา ไพรอร่าม ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มองว่า เป็นสิ่งสำคัญของโลกยุคใหม่ เพราะอารยสถาปัตย์จะช่วยจะทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้พิการสามารถเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้มากขึ้น นั่นหมายถึงเม็ดเงินรายได้จากการท่องเที่ยวของเราก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย “โลกยุคปัจจุบันกำลังเดินไปสู่สังคมผู้สูงอายุ ดังนั้น การจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ รองรับคนกลุ่มนี้จึงเป็นความจำเป็น และจะเป็นการขยายตลาดการท่องเที่ยวไทยไปยังกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้พิการ เพื่อเดินหน้าไปสู่เป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวของเมืองไทย 2 ล้าน-ล้านบาท เป็นอย่างน้อย ภายในปี 2558 ที่เมืองไทยจะเข้าสู่ความเป็นประชาคมอาเซียน ซึ่งเชื่อมั่นว่าเราทำได้แน่นอน” คุณเพ็ญสุดากล่าวอย่างมั่นใจในศักยภาพของคนไทย และเมืองไทยในฐานะเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของโลก ก่อนจากกันวันนี้ ขอส่งท้ายด้วยกิจกรรมเพื่อการพัฒนาสิทธิความเสมอภาคของคนพิการไทยสู่ประชาคม อาเซียน กับโครงการหมากรุกเพื่อคนทั้งมวล ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในงาน”มหกรรม ปตท.รวมพลคนรักษ์หมากรุกไทย ปีที่ 2” ที่เพิ่งปิดฉากไปอย่างอลังการเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน “อ.ดิลก ตัณฑอินทร์” กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า การแข่งขันที่ผ่านมา มีผลอย่างมากในการช่วยกระตุ้นให้บุคคลพิเศษ หรือคนพิการ หันมาสนใจเล่นกีฬาหมากรุกมากขึ้น อย่างเช่นที่บ้านนนทภูมิ จ.นนทบุรี ก็มีการสร้างกลุ่ม หรือชมรมเล่นกีฬาหมากรุกกันอย่างคึกคักต่อเนื่อง ปีนี้มีผู้พิการเข้าแข่งขันรอบสุดท้าย 21 คน ปีหน้า คาดว่าคงมากขึ้นอีกเท่าตัว ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพัฒนาศักยภาพของผู้พิการในหลายด้าน ทั้งทางด้านสมอง และความสนุกสนานเพลิดเพลิน และหวังว่า..เราคงจะพบช้างเผือกในกลุ่มบุคคลพิเศษที่มีความเป็นเลิศในการแข่งขันกีฬาหมากรุกในอีกไม่นานนี้ (หมายเหตุ 'การท่องเที่ยวไทย-รัสเซีย กำลังบูม' : คอลัมน์ กฤษนะทัวร์ยกล้อ โดย... กฤษนะ ละไล) ขอบคุณ… http://www.komchadluek.net/detail/20131007/169900/การท่องเที่ยวไทยรัสเซียกำลังบูม.html#.UlNmvFOkPZ4 (คมชัดลึกออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 8 ต.ค.56)