ขสมก.จัดเวทีแจงรถเมล์NGV 7 พ.ย. นี้
"ขสมก." เตรียมจัดเวทีสาธารณะแจงผู้พิการ 7 พ.ย.นี้ ยันไม่สามารถจัดหารถเมล์ NGV เป็นแบบโลว์ ฟลอร์ ทั้งหมดได้ เพราะพื้นที่กรุงเทพฯไม่อำนวย แถมแพงกว่าราคากลาง ขณะ “พฤณท์” ยังมั่นใจ ธ.ค.นี้ขายเอกสารประมูลแน่นอน
พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้มารายงานให้รับทราบว่า ในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ ขสมก.จะจัดเวทีสาธารณะเพื่อชี้แจงโครงการจัดซื้อรถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ เป็นเชื้อเพลิง (NGV) 3,183 คัน วงเงิน 13,162 ล้านบาทต่อผู้พิการที่เรียกร้องให้ขสมก.ปรับร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) จากเดิมกำหนดจัดหารถปรับอากาศทั้งหมด 1,524 คัน เป็นรถแบบกึ่งบันได (เซมิ โลว์ฟลอร์) ส่วนรถธรรมดา (รถร้อน) จำนวน 1,659 คัน เป็นรถแบบบันได 2 ขั้น ตามที่ใช้ในปัจจุบัน เปลี่ยนเป็นจัดหารถเมล์แบบชานต่ำ (โลว์ ฟลอร์) ทั้ง 3,183 คัน เพื่อความสะดวกของผู้พิการ
ทั้งนี้ คณะกรรมการร่าง TOR ที่มีนายนเรศ บุญเปี่ยม รองผู้อำนวยการ ขสมก.ฝ่ายการเดินรถ เป็นประธานให้การยืนยันว่า ไม่สามารถปรับร่าง TOR ตามข้อเรียกร้องดังกล่าวได้ เนื่องจากมีปัจจัยสำคัญ 2 ประเด็น คือ พื้นที่กรุงเทพฯไม่เอื้อต่อการใช้รถแบบชานต่ำที่มีความสูงจากพื้นถนนประมาณ 30 เซนติเมตรเท่านั้น โดยเฉพาะ 37 พื้นที่ที่มีปัญหาน้ำท่วมขังอย่างรุนแรง และสภาพถนนที่มีสะพานเป็นระยะ ซึ่งรถชานต่ำไม่สามารถวิ่งได้ ส่วนอีกประเด็นคือ รถชานต่ำมีราคาสูงกว่าราคากลางที่กำหนดไว้ โดยอยู่ที่ 5-6 ล้านบาทต่อคัน ขณะตาม TOR แล้ว รถปรับอากาศมีราคากลางที่ 4.5 ล้านบาทต่อคัน ส่วนรถร้อนมีราคากลางที่ 3.8 ล้านบาทต่อคัน ดังนั้นหากปรับไปใช้รถชานต่ำทั้งหมดก็จะเกินวงเงินที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ
อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจว่าโครงการนี้จะไม่ยืดเยื้อและสามารถเปิดขายเอกสารประกวดราคาได้ในเดือนธันวาคมนี้ ตามแผนที่วางไว้ ขณะที่ล่าสุดทราบว่า ขสมก.กำลังคัดเลือกตัวบุคคลที่มาร่วมเป็นคณะกรรมการประกวดราคา ซึ่งมีทั้งหมด 7 คน รวมทั้งคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิและมีความเชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องมาร่วม ตรวจสอบโครงการด้วย “เราอยากให้เข้าใจว่าโครงการนี้เราได้จัดเตรียมทุกอย่าง ไว้ให้ผู้พิการอยู่แล้ว โดยการจัดรถปรับอากาศทั้งหมด ถือว่าเป็น 50% ของโครงการ ให้เป็นรถเซมิ โลว์ฟลอร์และมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการบริการรถวีลแชร์ ซึ่ง ขสมก.มั่นใจว่าเพียงพอต่อความต้องการของผู้พิการ เพราะปัจจุบันมีผู้พิการในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลที่ ขสมก.วิ่งบริการ 40,000 คน แต่มีผู้ใช้บริการทั่วไปถึง 4 ล้านคนต่อวัน การจัดสรรรถก็ต้องคำนึงถึงคนหมู่มากด้วย และผมยังมั่นใจว่าเรื่องนี้ไม่ยืดเยื้อ ยังไงต้องได้เปิดขายเอกสารประมูล ธ.ค.นี้แน่นอน” พล.อ.พฤณท์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าร่าง TOR โครงการจัดซื้อรถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (NGV) 3,183 คัน วงเงิน 13,162 ล้านบาท แบ่งเป็นการจัดหารถโดยสารธรรมดา 1,659 คัน และรถโดยสารปรับอากาศ 1,524 คัน มี 8 สัญญา คือ 1.รถโดยสารธรรมดา เขตการเดินรถที่ จํานวน 424คัน ราคาสูงสุดของของการประกวดราคา จะต้องเริ่มต้นที่ 1,611,200,000 บาท 2.รถโดยสารธรรมดา เขตการเดินรถที่ 6 จํานวน 374 คัน เริ่มต้นที่ 1,421,200,000 บาท 3.รถโดยสารธรรมดา เขตการเดินรถที่ 7 จํานวน 453 คัน เริ่มต้นที่ 1,721,400,000 บาท 4.รถโดยสารธรรมดา เขตการเดินรถที่ 8 จํานวน 408 คัน เริ่มต้นที่ 1,550,400,000 บาท 5.รถโดยสารปรับอากาศ เขตการเดินรถที่ 1 จํานวน 408 คัน เริ่มต้นที่ 1,836,000,000 บาท 6.รถโดยสารปรับอากาศ เขตการเดินรถที่ 2 จํานวน 489 คัน เริ่มต้นที่ 2,200,000,000 บาท 7.รถโดยสารปรับอากาศ เขตการเดินรถที่ 3 จํานวน 175 คัน เริ่มต้นที่ 787,500,000 บาท และ 8.รถโดยสารปรับอากาศ เขตการเดินรถที่ 5 จํานวน 452 คัน เริ่มต้นที่ 2,034,000,000 บาท
ขอบคุณ… http://hoon.nadiamode.com/headlines/13811/
(hoon.nadiamode.com ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 5 พ.ย.56)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
รถเมล์NGV "ขสมก." เตรียมจัดเวทีสาธารณะแจงผู้พิการ 7 พ.ย.นี้ ยันไม่สามารถจัดหารถเมล์ NGV เป็นแบบโลว์ ฟลอร์ ทั้งหมดได้ เพราะพื้นที่กรุงเทพฯไม่อำนวย แถมแพงกว่าราคากลาง ขณะ “พฤณท์” ยังมั่นใจ ธ.ค.นี้ขายเอกสารประมูลแน่นอน พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้มารายงานให้รับทราบว่า ในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ ขสมก.จะจัดเวทีสาธารณะเพื่อชี้แจงโครงการจัดซื้อรถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ เป็นเชื้อเพลิง (NGV) 3,183 คัน วงเงิน 13,162 ล้านบาทต่อผู้พิการที่เรียกร้องให้ขสมก.ปรับร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) จากเดิมกำหนดจัดหารถปรับอากาศทั้งหมด 1,524 คัน เป็นรถแบบกึ่งบันได (เซมิ โลว์ฟลอร์) ส่วนรถธรรมดา (รถร้อน) จำนวน 1,659 คัน เป็นรถแบบบันได 2 ขั้น ตามที่ใช้ในปัจจุบัน เปลี่ยนเป็นจัดหารถเมล์แบบชานต่ำ (โลว์ ฟลอร์) ทั้ง 3,183 คัน เพื่อความสะดวกของผู้พิการ นายนเรศ บุญเปี่ยม รองผู้อำนวยการ ขสมก.ฝ่ายการเดินรถ ทั้งนี้ คณะกรรมการร่าง TOR ที่มีนายนเรศ บุญเปี่ยม รองผู้อำนวยการ ขสมก.ฝ่ายการเดินรถ เป็นประธานให้การยืนยันว่า ไม่สามารถปรับร่าง TOR ตามข้อเรียกร้องดังกล่าวได้ เนื่องจากมีปัจจัยสำคัญ 2 ประเด็น คือ พื้นที่กรุงเทพฯไม่เอื้อต่อการใช้รถแบบชานต่ำที่มีความสูงจากพื้นถนนประมาณ 30 เซนติเมตรเท่านั้น โดยเฉพาะ 37 พื้นที่ที่มีปัญหาน้ำท่วมขังอย่างรุนแรง และสภาพถนนที่มีสะพานเป็นระยะ ซึ่งรถชานต่ำไม่สามารถวิ่งได้ ส่วนอีกประเด็นคือ รถชานต่ำมีราคาสูงกว่าราคากลางที่กำหนดไว้ โดยอยู่ที่ 5-6 ล้านบาทต่อคัน ขณะตาม TOR แล้ว รถปรับอากาศมีราคากลางที่ 4.5 ล้านบาทต่อคัน ส่วนรถร้อนมีราคากลางที่ 3.8 ล้านบาทต่อคัน ดังนั้นหากปรับไปใช้รถชานต่ำทั้งหมดก็จะเกินวงเงินที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจว่าโครงการนี้จะไม่ยืดเยื้อและสามารถเปิดขายเอกสารประกวดราคาได้ในเดือนธันวาคมนี้ ตามแผนที่วางไว้ ขณะที่ล่าสุดทราบว่า ขสมก.กำลังคัดเลือกตัวบุคคลที่มาร่วมเป็นคณะกรรมการประกวดราคา ซึ่งมีทั้งหมด 7 คน รวมทั้งคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิและมีความเชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องมาร่วม ตรวจสอบโครงการด้วย “เราอยากให้เข้าใจว่าโครงการนี้เราได้จัดเตรียมทุกอย่าง ไว้ให้ผู้พิการอยู่แล้ว โดยการจัดรถปรับอากาศทั้งหมด ถือว่าเป็น 50% ของโครงการ ให้เป็นรถเซมิ โลว์ฟลอร์และมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการบริการรถวีลแชร์ ซึ่ง ขสมก.มั่นใจว่าเพียงพอต่อความต้องการของผู้พิการ เพราะปัจจุบันมีผู้พิการในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลที่ ขสมก.วิ่งบริการ 40,000 คน แต่มีผู้ใช้บริการทั่วไปถึง 4 ล้านคนต่อวัน การจัดสรรรถก็ต้องคำนึงถึงคนหมู่มากด้วย และผมยังมั่นใจว่าเรื่องนี้ไม่ยืดเยื้อ ยังไงต้องได้เปิดขายเอกสารประมูล ธ.ค.นี้แน่นอน” พล.อ.พฤณท์ กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่าร่าง TOR โครงการจัดซื้อรถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (NGV) 3,183 คัน วงเงิน 13,162 ล้านบาท แบ่งเป็นการจัดหารถโดยสารธรรมดา 1,659 คัน และรถโดยสารปรับอากาศ 1,524 คัน มี 8 สัญญา คือ 1.รถโดยสารธรรมดา เขตการเดินรถที่ จํานวน 424คัน ราคาสูงสุดของของการประกวดราคา จะต้องเริ่มต้นที่ 1,611,200,000 บาท 2.รถโดยสารธรรมดา เขตการเดินรถที่ 6 จํานวน 374 คัน เริ่มต้นที่ 1,421,200,000 บาท 3.รถโดยสารธรรมดา เขตการเดินรถที่ 7 จํานวน 453 คัน เริ่มต้นที่ 1,721,400,000 บาท 4.รถโดยสารธรรมดา เขตการเดินรถที่ 8 จํานวน 408 คัน เริ่มต้นที่ 1,550,400,000 บาท 5.รถโดยสารปรับอากาศ เขตการเดินรถที่ 1 จํานวน 408 คัน เริ่มต้นที่ 1,836,000,000 บาท 6.รถโดยสารปรับอากาศ เขตการเดินรถที่ 2 จํานวน 489 คัน เริ่มต้นที่ 2,200,000,000 บาท 7.รถโดยสารปรับอากาศ เขตการเดินรถที่ 3 จํานวน 175 คัน เริ่มต้นที่ 787,500,000 บาท และ 8.รถโดยสารปรับอากาศ เขตการเดินรถที่ 5 จํานวน 452 คัน เริ่มต้นที่ 2,034,000,000 บาท ขอบคุณ…http://hoon.nadiamode.com/headlines/13811/ (hoon.nadiamode.com ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 5 พ.ย.56)
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)