จับตาซื้อรถเมล์แพงเผย3ล./คันเอกชนก็กำไรอื้อแล้ว
เมื่อวันที่23 เม.ย.2558ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ นายชัยสิทธิ์ รูโปบลเครือข่ายประชาชนเพื่อเฝ้าระวังการคอรัปชั่นในภาครัฐเปิดเผยว่า จากที่เมื่อวันที่22 เม.ย.58 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)ได้ทำการประกวดราคาด้วยระบบอิออคชั่นโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซเอ็นจีวีจำนวน 489คัน มูลค่าโครงการรวม1,784.85ล้านบาท ซึ่งได้ผู้ที่เสนอราคาต่ำสุดและอยู่ระหว่าง การเจรจาต่อรองราคานั้นทางเครือข่ายฯเห็นว่าการดำเนินการของขสมก.เป็นการจัด ซื้อรถในราคาที่สูงเกินไปซึ่งทางเครือข่ายได้ติดตามการประกาศประกวดราคามา ตั้งแต่ครั้งแรกเมื่อเดือนม.ค.2558ซึ่งได้ยื่นหนังสือให้กับผู้เกี่ยวข้อง ทั้งรักษาการผู้อำนวยการขสมก. ประธานบอร์ดขสมก.และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมโดยชี้ให้เห็นถึงข้อมูลผล การตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ที่ได้ เคยสอบสวนในเรื่องนี้และมีมติว่าราคากลางของรถเมล์เอ็นจีวีปรับอากาศเมื่อ รวมภาษีแล้วจะอยู่ที่คันละไม่เกิน3 ล้านบาทแต่การประกวดราคาที่เกิดขึ้นนี้กลับมีราคาสูงถึงคันละ3.65ล้านบาท ซึ่งทางเครือข่ายฯเห็นว่าเป็นการดำเนินการโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะ เกิดขึ้นกับงบประมาณของแผ่นดินต้องการให้มีการยกเลิกการประมูลครั้งนี้และ ปรับลดราคากลางการจัดซื้อรถดังกล่าวลงเพื่อป้องกันการจัดซื้อรถที่แพงเกิน จริงจนสร้างความเสียหายให้กับเงินภาษีของประชาชน
นายชัยสิทธิ์กล่าวต่อว่า ในการปรับปรุงทีโออาร์การประกวดราคาของขสมก.ที่ผ่านๆมาซึ่งมีการนำตัวแทนจาก นักวิชาการและผู้พิการมาร่วมด้วยนั้นเป็นการพิจารณาเฉพาะในส่วนของคุณสมบัติ ของตัวรถเพื่อให้คนทุกกลุ่มใช้ได้เป็นรถชานต่ำ แต่ในส่วนของราคากลางนั้นยังไม่ได้พิจารณาให้เหมาะสม ซึ่งอย่าลืมว่าการจัดซื้อทั้งหมดในโครงการนี้ยังมีค่าจ้างเหมาซ่อม 10 ปี ซึ่งรวมแล้วทั้งค่าซื้อรถและค่าซ่อมใช้งบกว่า4,000 ล้านบาท การปรับลดราคากลางเฉพาะราคาตัวรถลงเหลือคันละไม่เกิน 3 ล้านบาทนั้นเอกชนก็ยังได้กำไร และจะได้กำไรเพิ่มในส่วนของค่าซ่อมอีก ทั้งนี้หากการจัดซื้อในล็อตแรกยังเกิดความไม่โปร่งใสเมื่อจัดซื้อล็อตต่อไป ก็จะยิ่งทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น จึงอยากขอร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องยกเลิกการประมูลดังกล่าวโดยกลับมาพิจารณาให้รอบคอบก่อนหรือถ้าหากจะสามารถเจรจากับผู้ที่เสนอราคาต่ำสุด ในขณะนี้ให้ลดราคาลงอยู่ในวงเงินคันละไม่ เกิน 3 ล้านบาททางเครือข่ายฯก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ซึ่งจะติดตาม เรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและหากเห็นว่าส่อทำให้เกิดความเสียหายจะยื่นฟ้อง ต่อศาลปกครอง โดยขอให้ผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ภายใน 7 วัน
ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/bangkok/316607 (ขนาดไฟล์: 167)
(เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 24 เม.ย.58)
1 ผมผ่านมา 27/04/2558 12:15:00
อะไรกันเนี่ย จะได้ใช้กันสักทีไหม?
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
รถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซเอ็นจีวี เมื่อวันที่23 เม.ย.2558ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ นายชัยสิทธิ์ รูโปบลเครือข่ายประชาชนเพื่อเฝ้าระวังการคอรัปชั่นในภาครัฐเปิดเผยว่า จากที่เมื่อวันที่22 เม.ย.58 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)ได้ทำการประกวดราคาด้วยระบบอิออคชั่นโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซเอ็นจีวีจำนวน 489คัน มูลค่าโครงการรวม1,784.85ล้านบาท ซึ่งได้ผู้ที่เสนอราคาต่ำสุดและอยู่ระหว่าง การเจรจาต่อรองราคานั้นทางเครือข่ายฯเห็นว่าการดำเนินการของขสมก.เป็นการจัด ซื้อรถในราคาที่สูงเกินไปซึ่งทางเครือข่ายได้ติดตามการประกาศประกวดราคามา ตั้งแต่ครั้งแรกเมื่อเดือนม.ค.2558ซึ่งได้ยื่นหนังสือให้กับผู้เกี่ยวข้อง ทั้งรักษาการผู้อำนวยการขสมก. ประธานบอร์ดขสมก.และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมโดยชี้ให้เห็นถึงข้อมูลผล การตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ที่ได้ เคยสอบสวนในเรื่องนี้และมีมติว่าราคากลางของรถเมล์เอ็นจีวีปรับอากาศเมื่อ รวมภาษีแล้วจะอยู่ที่คันละไม่เกิน3 ล้านบาทแต่การประกวดราคาที่เกิดขึ้นนี้กลับมีราคาสูงถึงคันละ3.65ล้านบาท ซึ่งทางเครือข่ายฯเห็นว่าเป็นการดำเนินการโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะ เกิดขึ้นกับงบประมาณของแผ่นดินต้องการให้มีการยกเลิกการประมูลครั้งนี้และ ปรับลดราคากลางการจัดซื้อรถดังกล่าวลงเพื่อป้องกันการจัดซื้อรถที่แพงเกิน จริงจนสร้างความเสียหายให้กับเงินภาษีของประชาชน นายชัยสิทธิ์กล่าวต่อว่า ในการปรับปรุงทีโออาร์การประกวดราคาของขสมก.ที่ผ่านๆมาซึ่งมีการนำตัวแทนจาก นักวิชาการและผู้พิการมาร่วมด้วยนั้นเป็นการพิจารณาเฉพาะในส่วนของคุณสมบัติ ของตัวรถเพื่อให้คนทุกกลุ่มใช้ได้เป็นรถชานต่ำ แต่ในส่วนของราคากลางนั้นยังไม่ได้พิจารณาให้เหมาะสม ซึ่งอย่าลืมว่าการจัดซื้อทั้งหมดในโครงการนี้ยังมีค่าจ้างเหมาซ่อม 10 ปี ซึ่งรวมแล้วทั้งค่าซื้อรถและค่าซ่อมใช้งบกว่า4,000 ล้านบาท การปรับลดราคากลางเฉพาะราคาตัวรถลงเหลือคันละไม่เกิน 3 ล้านบาทนั้นเอกชนก็ยังได้กำไร และจะได้กำไรเพิ่มในส่วนของค่าซ่อมอีก ทั้งนี้หากการจัดซื้อในล็อตแรกยังเกิดความไม่โปร่งใสเมื่อจัดซื้อล็อตต่อไป ก็จะยิ่งทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น จึงอยากขอร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องยกเลิกการประมูลดังกล่าวโดยกลับมาพิจารณาให้รอบคอบก่อนหรือถ้าหากจะสามารถเจรจากับผู้ที่เสนอราคาต่ำสุด ในขณะนี้ให้ลดราคาลงอยู่ในวงเงินคันละไม่ เกิน 3 ล้านบาททางเครือข่ายฯก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ซึ่งจะติดตาม เรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและหากเห็นว่าส่อทำให้เกิดความเสียหายจะยื่นฟ้อง ต่อศาลปกครอง โดยขอให้ผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ภายใน 7 วัน ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/bangkok/316607 (เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 24 เม.ย.58)
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)