สปสช.นำร่องเครื่องช่วยฟังไทยประดิษฐ์
สปสช.จับมือ สวทช.เนคเทคประดิษฐ์เครื่องช่วยฟังสำหรับคนหูหนวกได้แล้ว ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล จำหน่ายในอียูเครื่องละ 7,000 บาท ด้าน สปสช.นำร่องใช้งานกับคนพิการ 1,000 ราย หวังช่วยผู้พิการเข้าถึงการบริการเพิ่มขึ้น
วันที่ (26 ธ.ค.) ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้มีพิธีลงนามความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบบริการอุปกรณ์เครื่องช่วยฟังสำหรับคนพิการทางการได้ยิน ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ระหว่าง นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช. ศ.นพ.สมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และนายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ(สวทช.)สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.และเนคเทค)
นพ.วินัย กล่าวว่า สิทธิประโยชน์ สปสช.ให้การดูแลคนพิการ โดยเฉพาะด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ ปัจจุบันมีจำนวนคนพิการสะสมในระบบ 1,123,273 คน เป็นคนพิการทางการได้ยินหรือหูหนวก 166,536 คน หรือร้อยละ 14.82 ซึ่งได้รับอุปกรณ์เครื่องช่วยฟังไปเพียง 27,302 คน แม้ว่าคนพิการทางการได้ยินจะมีสิทธิ์ได้รับเครื่องช่วยฟังฟรีตามสิทธิประโยชน์ แต่พบว่ายังมีคนพิการกลุ่มใหญ่ที่ยังมีปัญหาในการเข้าถึง เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องนักแก้ไขการได้ยินมีจำนวนน้อย การประเมินและลองใส่เครื่องช่วยฟังสำหรับสำหรับผู้ป่วยแต่ละรายใช้เวลานาน การตอบสนองต่อการฟังเสียงไม่เหมือนกัน ทั้งยังเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เกณฑ์การเบิกจ่ายมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 13,500 บาทต่อรายสูงกว่าอุปกรณ์สำหรับคนพิการอื่นๆและในปี2556มีการเบิกค่าใช้จ่ายรวม113ล้านบาท
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว สปสช.ร่วมมือกับ สวรส. และเนคเทค ในการพัฒนาระบบบริการอุปกรณ์เครื่องช่วยฟังไทยสำหรับคนพิการทางการได้ยินโดย สปสช.สนับสนุนงบซื้อเครื่องช่วยฟัง 7 ล้านบาทสำหรับ1,000เครื่องหรือเครื่องละ7,000บาท
ด้านผู้อำนวยการ สวรส.กล่าวว่า เบื้องต้นจะขยายให้คนพิการ 1,000 ราย ได้รับเครื่องช่วยฟังที่ สวทช.และเนคเทค ประดิษฐ์เอง 1,000 เครื่อง โดยให้ผ่านโรงพยาบาลที่ สปสช.ร่วมกับ สวรส.คัดเลือก ซึ่งโรงพยาบาลที่เข้าร่วมจะต้องเป็นโรงพยาบาลที่มีความพร้อมในการให้บริการ เครื่องช่วยฟัง ทั้งในด้านแพทย์ นักแก้ไขการได้ยิน สถานที่และอุปกรณ์ตามเกณฑ์ของ สปสช.ขณะที่ สวรส.จะทำหน้าที่ในการออกแบบข้อมูลและติดตามประเมินผลการใช้งานในระยะเวลา 1 ปี หรือจนถึงกันยายน 2557 หลังจากนั้นนำผลที่ได้มาขยายผลพัฒนาระบบบริการเครื่องช่วยฟังไทยต่อไป
ด้านผู้อำนวยการสวทช.เนคเทค กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้พัฒนาเครื่องช่วยฟังแบบกล่องรุ่น P02 รุ่นอินทิมา (Intima) ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล มีประสิทธิภาพสูงราคาประหยัด ออกแบบให้ใช้แบตเตอรี่แบบชาร์ตไฟใหม่ได้ ทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายระหว่างใช้งาน ผ่านการทดสอบการใช้งานทางคลินิกตามมาตรฐานสากล มีระบบควบคุมการผลิตตามมาตรฐานเครื่องมือแพทย์ ISO 13485 จนได้รับเครื่องหมาย CE สามารถวางจำหน่ายได้ในสหภาพยุโรป เครื่องละ 7,000 บาท ถูกกว่าเครื่องช่วยฟังนำเข้าจากต่างประเทศครึ่งหนึ่ง ซึ่งโครงการพัฒนาระบบบริการเครื่องช่วยฟังไทยนี้ จะนำไปสู่การส่งเสริมความสามารถพึ่งพาตนเองทางเทคโนโลยีเครื่องช่วยฟังไทย และข้อมูลที่ได้จะพัฒนาเครื่องรุ่นต่อไป รวมถึงพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการพัฒนาระบบบริการเครื่องช่วยฟังด้วย
ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/qol/viewnews.aspx?NewsID=9560000158516 (ขนาดไฟล์: 164)
( ASTV ผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 26 ธ.ค.56 )
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
สปสช.จับมือ สวทช.เนคเทคประดิษฐ์เครื่องช่วยฟังสำหรับคนหูหนวกได้แล้ว ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล จำหน่ายในอียูเครื่องละ 7,000 บาท ด้าน สปสช.นำร่องใช้งานกับคนพิการ 1,000 ราย หวังช่วยผู้พิการเข้าถึงการบริการเพิ่มขึ้น วันที่ (26 ธ.ค.) ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้มีพิธีลงนามความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบบริการอุปกรณ์เครื่องช่วยฟังสำหรับคนพิการทางการได้ยิน ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ระหว่าง นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช. ศ.นพ.สมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และนายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ(สวทช.)สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.และเนคเทค) นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช. นพ.วินัย กล่าวว่า สิทธิประโยชน์ สปสช.ให้การดูแลคนพิการ โดยเฉพาะด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ ปัจจุบันมีจำนวนคนพิการสะสมในระบบ 1,123,273 คน เป็นคนพิการทางการได้ยินหรือหูหนวก 166,536 คน หรือร้อยละ 14.82 ซึ่งได้รับอุปกรณ์เครื่องช่วยฟังไปเพียง 27,302 คน แม้ว่าคนพิการทางการได้ยินจะมีสิทธิ์ได้รับเครื่องช่วยฟังฟรีตามสิทธิประโยชน์ แต่พบว่ายังมีคนพิการกลุ่มใหญ่ที่ยังมีปัญหาในการเข้าถึง เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องนักแก้ไขการได้ยินมีจำนวนน้อย การประเมินและลองใส่เครื่องช่วยฟังสำหรับสำหรับผู้ป่วยแต่ละรายใช้เวลานาน การตอบสนองต่อการฟังเสียงไม่เหมือนกัน ทั้งยังเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เกณฑ์การเบิกจ่ายมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 13,500 บาทต่อรายสูงกว่าอุปกรณ์สำหรับคนพิการอื่นๆและในปี2556มีการเบิกค่าใช้จ่ายรวม113ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว สปสช.ร่วมมือกับ สวรส. และเนคเทค ในการพัฒนาระบบบริการอุปกรณ์เครื่องช่วยฟังไทยสำหรับคนพิการทางการได้ยินโดย สปสช.สนับสนุนงบซื้อเครื่องช่วยฟัง 7 ล้านบาทสำหรับ1,000เครื่องหรือเครื่องละ7,000บาท ด้านผู้อำนวยการ สวรส.กล่าวว่า เบื้องต้นจะขยายให้คนพิการ 1,000 ราย ได้รับเครื่องช่วยฟังที่ สวทช.และเนคเทค ประดิษฐ์เอง 1,000 เครื่อง โดยให้ผ่านโรงพยาบาลที่ สปสช.ร่วมกับ สวรส.คัดเลือก ซึ่งโรงพยาบาลที่เข้าร่วมจะต้องเป็นโรงพยาบาลที่มีความพร้อมในการให้บริการ เครื่องช่วยฟัง ทั้งในด้านแพทย์ นักแก้ไขการได้ยิน สถานที่และอุปกรณ์ตามเกณฑ์ของ สปสช.ขณะที่ สวรส.จะทำหน้าที่ในการออกแบบข้อมูลและติดตามประเมินผลการใช้งานในระยะเวลา 1 ปี หรือจนถึงกันยายน 2557 หลังจากนั้นนำผลที่ได้มาขยายผลพัฒนาระบบบริการเครื่องช่วยฟังไทยต่อไป ด้านผู้อำนวยการสวทช.เนคเทค กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้พัฒนาเครื่องช่วยฟังแบบกล่องรุ่น P02 รุ่นอินทิมา (Intima) ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล มีประสิทธิภาพสูงราคาประหยัด ออกแบบให้ใช้แบตเตอรี่แบบชาร์ตไฟใหม่ได้ ทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายระหว่างใช้งาน ผ่านการทดสอบการใช้งานทางคลินิกตามมาตรฐานสากล มีระบบควบคุมการผลิตตามมาตรฐานเครื่องมือแพทย์ ISO 13485 จนได้รับเครื่องหมาย CE สามารถวางจำหน่ายได้ในสหภาพยุโรป เครื่องละ 7,000 บาท ถูกกว่าเครื่องช่วยฟังนำเข้าจากต่างประเทศครึ่งหนึ่ง ซึ่งโครงการพัฒนาระบบบริการเครื่องช่วยฟังไทยนี้ จะนำไปสู่การส่งเสริมความสามารถพึ่งพาตนเองทางเทคโนโลยีเครื่องช่วยฟังไทย และข้อมูลที่ได้จะพัฒนาเครื่องรุ่นต่อไป รวมถึงพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการพัฒนาระบบบริการเครื่องช่วยฟังด้วย ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/qol/viewnews.aspx?NewsID=9560000158516 ( ASTV ผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 26 ธ.ค.56 )
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)