‘ขาเทียม’ฟรี ! ผู้พิการทุกคน-ทุกสิทธิรักษา-ทุกเชื้อชาติ
‘มูลนิธิขาเทียมฯ’ จ.เชียงใหม่ ผลิต ‘ขาเทียม’ กว่า 3,000 ขาต่อปี ให้ผู้พิการ ‘ทุกคน-ทุกสิทธิรักษา-ทุกเชื้อชาติ’ ฟรี ใช้งบประมาณราว 40-50 ล้านบาทต่อปี
เมื่อเร็วๆนี้ คณะผู้บริหาร นำโดย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการ สปสช. เขต 1 เชียงใหม่ ลงพื้นที่เยี่ยมชมมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อรับฟังการดำเนินการ และเยี่ยมชมโรงงานทำขาเทียมสำหรับผู้พิการขาขาด โดยมี ศ.คลินิก นพ.นิเวศน์ นันทจิต เลขาธิการมูลนิธิขาเทียมฯ นพ.วิรัช พันธ์พานิช รองเลขาธิการมูลนิธิขาเทียมฯ นพ.พิรุณ คำอุ่น รองเลขาธิการมูลนิธิขาเทียมฯ และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ
ศ.คลินิก นพ.นิเวศน์ นันทจิต เลขาธิการมูลนิธิขาเทียมฯ เปิดเผยว่า มูลนิธิขาเทียมฯ ให้บริการทำขาเทียมสำหรับผู้พิการขาขาดทุกคน ทุกสิทธิการรักษา ทุกเชื้อชาติที่อยู่ในประเทศโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นไปตามปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีว่า “อย่าไปเก็บเงินที่เขา ให้มาเก็บฉัน” เพื่อให้ผู้พิการขาขาดสามารถเข้าถึงขาเทียมได้ทุกคน
อย่างไรก็ดี มูลนิธิขาเทียมมีโรงงานผลิตขาเทียมหลายประเภท ตั้งแต่ระดับข้อเท้า ระดับใต้เข่า ระดับข้อเข่า ระดับเหนือเข่า ระดับถึงข้อสะโพก รวมถึงขาเทียมสำหรับทำเกษตรกรรมเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับทุกคนมากที่สุด และยังมีการออกหน่วยเคลื่อนที่ไปตามที่ต่างๆ อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งโรงงานในโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศประมาณ 95 แห่ง เพื่อให้ผู้พิการได้รับขาเทียมสำหรับการดำรงชีวิต มีหลักสูตรการสอน 2 ปีเรื่องกายอุปกรณ์ ร่วมกับกรมอาชีวศึกษา วิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่ รวมถึงมีการอบรมเจ้าหน้าที่กายอุปกรณ์ของมูลนิธิฯ เพื่อเข้าไปประจำในโรงงานตามโรงพยาบาล จำนวน 700 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีบริการให้ความรู้แก่ผู้พิการขาดที่ได้รับขาเทียม เพื่อให้สามารถใช้งาน และดูแลได้อย่างเหมาะสม
ที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลาการดำเนินงาน 32 ปี ให้บริการออกหน่วยเคลื่อนที่ประมาณ 164 ครั้ง และให้บริการทำขาเทียมไปมากกว่า 2.7 หมื่นขา ขณะที่การบริการทำขาเทียมต่อปีจะอยู่ที่ปีละประมาณกว่า 3,000 ขา ใช้งบประมาณราว 40-50 ล้านบาทต่อปี
“เงินทั้งหมดจะเป็นเงินที่ได้รับบริจาคจากประชาชนผู้มีจิตศรัทธา บริษัท ห้างร้าน ธนาคารบริษัทประกันต่างๆ ที่เห็นความสำคัญของมูลนิธิและได้สนับสนุนให้มาตลอด แต่หากจะให้เกิดความยั่งยืนอาจจะต้องคำนึงถึงแหล่งเงินอื่นๆ ร่วมด้วย” ศ.คลินิก นพ.นิเวศน์กล่าว
ขอบคุณ... https://www.bangkokbiznews.com/health/social/1100687