แม่ผู้ได้เห็นลูกที่สมองพิการเดินครั้งแรก
ลินซีย์ ซัมเมอร์ส บอกว่า เธอฝันอยากเห็นลูกชายเดินได้
จาค็อบ ลูกชายวัย 19 ปีของเธอ มีภาวะสมองพิการซึ่งส่งผลกระทบความสามารถในการเคลื่อนไหวของทั้งแขนและขา ทำให้ต้องพึ่งรถเข็น
แต่หลังจากได้ใช้อุปกรณ์ช่วยพิเศษที่โรงเรียน ตอนนี้จาค็อบยืนตรงและขยับขาได้เป็นครั้งแรกในชีวิต
“ฉันเคยฝันอยากเห็นเขาเดิน แค่นั้นก็ทำให้เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายแล้ว ดังนั้นการได้เห็นมันเริ่มจะเป็นความจริง ฉันคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดของการได้เห็นฝันกลายเป็นจริง”
“มันเป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน”
จาค็อบมาจากคาร์ดิฟฟ์ในเวลส์ เขาไม่สามารถนั่งได้หากไม่มีคนช่วย ดังนั้นจะได้ขยับเขยื้อนเกิดขึ้นระหว่างการทำกายภาพบำบัดเท่านั้น
ลินซีย์เล่าว่าพยายามจะขยับแขนขาลูกชายในตอนเช้าให้ลูกผ่อนคลาย แต่มันก็ทำให้ลูกเหนื่อยมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะลูกโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
Ysgol y Deri เป็นโรงเรียนพิเศษที่เมืองเพนาร์ธในเวลส์สำหรับเด็กนักเรียนอายุ 3 ขวบ ถึง 19 ปี ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษด้านการเรียนรู้และด้านร่างกาย และที่มีภาวะออทิสซึม
นักกายภาพบำบัดนำเครื่อง Innowalk มาใช้เพื่อดูว่าจะสามารถช่วยนักเรียนได้ไหม
ลินซีย์เล่าว่า เครื่องนี้ให้ความรู้สึกว่าการเดินเป็นอย่างไรกับลูกซึ่งเธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน “เขาขึ้นไปใช้เครื่องนี้และคุณสามารถเห็นรอยยิ้มเขาได้เลย”
อมิเลีย สตับบ์ นักกายภาพบำบัดเด็ก บอกว่า 18 เดือนผ่านไป ได้เห็นแล้วว่าเครื่องนี้มีประโยชน์ต่อเด็กยังไง เพราะได้ลุกขึ้นมาขยับเขยื้อนแบบที่ปกติไม่ได้ทำ
ลินซีย์ บอกว่า จาค็อบตั้งหน้าตั้งตารอใช้เครื่องนี้ “ร่างกายเขาหลั่งสารเอนดอร์ฟินเวลาใช้เครื่องนี้ ดังนั้นเขาอารมณ์ดีขึ้นมาก”
แม่จาค็อบบอกอีกว่าลูกชายมีความสุขและก็คุยล้อเล่น “เขานอนดีขึ้นเวลาใช้เครื่องนี้ มันช่วยเรื่องของการดูแลตัวเองของเขา ระบบลำไส้ ความเจ็บปวดกล้ามเนื้อ เขาชอบมากจริง ๆ”
นอกจากนี้ โรงเรียนยังให้นักเรียนใส่ชุดหูฟังในการเข้าสู่โลกเสมือนจริงหรือวีอาร์ (VR) ด้วยเพื่อให้เด็กที่ไม่สามารถเดินได้แล้วได้เห็นภาพเสมือนว่ากำลังเดินอยู่จริง ๆ
“เด็กบางคนที่ไม่สามารถพูดได้ แต่เวลาคุณเห็นหน้าพวกเขา คุณไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้” แอรอน ฮอซ์เวลล์ เจ้าหน้าที่เทคนิคด้านเทคโนโลยีช่วยเหลือของโรงเรียน กล่าว
“แม้พวกเราที่อยู่ที่นี่มานานแล้ว เรายังน้ำตาซึมเลย คุณกลับบ้านไปแล้วก็คิดเรื่องนี้ มันทำให้วันนั้นเป็นวันที่ดี”
หลังจากเห็นผลลัพธ์ โรงเรียนตัดสินใจซื้อเครื่องนี้สองเครื่อง
“สำหรับเรา เราต้องลงทุนเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของนักเรียนมากเท่ากับการศึกษาของพวกเขา” คริส บริตเตน ครูใหญ่ของโรงเรียนกล่าว
“เมื่อเด็กรู้สึกดี พวกเขาก็อยู่ในสภาวะที่จะเรียนรู้ และนั่นเป็นผลดีกับเราทุกคน นั่นหมายถึงทั้งชุมชน ไม่ใช่แค่ผม ไม่ใช่แค่ครู แต่เป็นพ่อแม่และครอบครัวพวกเขาด้วย”
ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว