ทึ่ง! หนุ่มตาบอดสู้ชีวิต รับจ้างนวดไทย แถมเปิดสอนผู้พิการฟรี

แสดงความคิดเห็น

ทึ่ง! หนุ่มพิการตาบอดทั้งสองข้างสู้ชีวิตไม่เลือกงาน รับจ้างขึ้นมะพร้าวและทำประมง ล่าสุดเปิดบริการรับนวดแผนไทยและเปิดสอนคนพิการฟรีหวังหารายได้เลี้ยงชีพไม่เป็นภาระสังคม

เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม ๕๕ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พบชายพิการตาบอดทั้งสองข้าง แต่ยังดิ้นรนสู้ชีวิต ทำมาหากินเลี้ยงตัวเองโดยไม่ยอมเป็นภาระคนอื่น ทำทุกอย่างแม้กระทั่งรับจ้างขึ้นมะพร้าวและวางอวนจับปลา ล่าสุดได้ศึกษาเรียนรู้การนวดแผนไทย ฝึกฝนจนชำนาญ และมาเปิดบริการนวดตัวและนวดฝ่าเท้าที่ หมู่ ๔ บ้านคลองแห้ง ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เพื่อหารายได้เลี้ยงชีพ โดยเปิดบริการได้เพียง ๕ วัน มีลูกค้ามาใช้บริการต่อเนื่อง เพราะคิดค่าบริการไม่แพง และยังรับสอนคนตาบอดนวดแผนไทยฟรี เพื่อต้องการให้เพื่อนพิการมีอาชีพเลี้ยงตัวไม่เป็นภาระของสังคม

โดย หนุ่มพิการสู้ชีวิตดังกล่าว คือ นายสมศักดิ์ สำหนาว หนุ่มพิการตาบอดแต่กำเนิด อายุ ๔๐ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๑๙๗ หมู่ ๑ ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ จากการสอบถาม นายสมศักดิ์ เล่าว่า เดิมทีตนรับจ้างขึ้นมะพร้าวอยู่ที่เกาะลันตา และวางอวนจับปลา เนื่องจากครอบครัวเป็นชาวประมง เลี้ยงดูภรรยาซึ่งเป็นคนปกติมีลูกด้วยกัน ๔ คน แต่ระยะหลังตนสุขภาพไม่ค่อยดี ไม่สามารถประกอบอาชีพเดิมได้ สายตาก็มืดสนิท มองทุกอย่างเป็นสีขาว สุดท้ายภรรยาก็ขอแยกทาง จึงต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง แต่ก็ไม่ย่อท้อ เมื่อปี ๒๕๕๔ ตนได้มีโอกาสไปศึกษา เรียนรู้การนวดแผนไทยตามโครงการของรัฐบาล และฝึกฝนจนชำนาญเป็นที่ยอมรับของผู้ใช้บริการ โดยบริการนวดตามแหล่งท่องเที่ยว ก็พอมีรายได้เลี้ยงตัวเองบ้าง และภูมิใจที่ไม่เป็นภาระของคนอื่น ล่าสุด ได้มาเช่าบ้านที่หน้า มัสยิดบ้านคลองแห้ง ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เพื่อเปิดบริการนวดแผนไทย ทั้งนวดตัวและนวดฝ่าเท้า โดยคิดค่าบริการชั่วโมงละ ๑๕๐ บาท และรับสอนคนพิการตาบอดให้รู้จักวิธีนวดแผนไทยฟรี เพื่อต้องการให้ผู้พิการมีรายได้เลี้ยงตัวเอง ไม่เป็นภาระของสังคม ซึ่งตนเพิ่งเปิดร้านได้เพียง ๕ วันเท่านั้น หากมีลูกค้าต่อเนื่องก็คงจะแบกรับภาระค่าเช่าบ้านได้ แต่ตอนนี้ยังไม่มั่นใจมากนัก เพราะเพิ่งเปิดได้ไม่กี่วัน และคนยังไม่รู้จัก แต่ก็มีลูกค้าวันละ ๑-๒ คน ซึ่งจะพยายามให้ลูกค้าที่มาใช้บริการ ช่วยบอกต่อไปเรื่อยๆ เพราะตนไม่มีเงินทุนลงโฆษณา

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๓ ต.ค.๕๕
วันที่โพสต์: 3/10/2555 เวลา 13:21:32

ชอบเรื่องนี้ไหม?

ยังไม่มีเรตติ้ง

แสดงความคิดเห็น

รายละเอียดกระทู้

นายสมศักดิ์ สำหนาว พิการสายตาแต่กำเนิด กำลังให้บริการนวดแผนไทย ทึ่ง! หนุ่มพิการตาบอดทั้งสองข้างสู้ชีวิตไม่เลือกงาน รับจ้างขึ้นมะพร้าวและทำประมง ล่าสุดเปิดบริการรับนวดแผนไทยและเปิดสอนคนพิการฟรีหวังหารายได้เลี้ยงชีพไม่เป็นภาระสังคม เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม ๕๕ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พบชายพิการตาบอดทั้งสองข้าง แต่ยังดิ้นรนสู้ชีวิต ทำมาหากินเลี้ยงตัวเองโดยไม่ยอมเป็นภาระคนอื่น ทำทุกอย่างแม้กระทั่งรับจ้างขึ้นมะพร้าวและวางอวนจับปลา ล่าสุดได้ศึกษาเรียนรู้การนวดแผนไทย ฝึกฝนจนชำนาญ และมาเปิดบริการนวดตัวและนวดฝ่าเท้าที่ หมู่ ๔ บ้านคลองแห้ง ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เพื่อหารายได้เลี้ยงชีพ โดยเปิดบริการได้เพียง ๕ วัน มีลูกค้ามาใช้บริการต่อเนื่อง เพราะคิดค่าบริการไม่แพง และยังรับสอนคนตาบอดนวดแผนไทยฟรี เพื่อต้องการให้เพื่อนพิการมีอาชีพเลี้ยงตัวไม่เป็นภาระของสังคม โดย หนุ่มพิการสู้ชีวิตดังกล่าว คือ นายสมศักดิ์ สำหนาว หนุ่มพิการตาบอดแต่กำเนิด อายุ ๔๐ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๑๙๗ หมู่ ๑ ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ จากการสอบถาม นายสมศักดิ์ เล่าว่า เดิมทีตนรับจ้างขึ้นมะพร้าวอยู่ที่เกาะลันตา และวางอวนจับปลา เนื่องจากครอบครัวเป็นชาวประมง เลี้ยงดูภรรยาซึ่งเป็นคนปกติมีลูกด้วยกัน ๔ คน แต่ระยะหลังตนสุขภาพไม่ค่อยดี ไม่สามารถประกอบอาชีพเดิมได้ สายตาก็มืดสนิท มองทุกอย่างเป็นสีขาว สุดท้ายภรรยาก็ขอแยกทาง จึงต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง แต่ก็ไม่ย่อท้อ เมื่อปี ๒๕๕๔ ตนได้มีโอกาสไปศึกษา เรียนรู้การนวดแผนไทยตามโครงการของรัฐบาล และฝึกฝนจนชำนาญเป็นที่ยอมรับของผู้ใช้บริการ โดยบริการนวดตามแหล่งท่องเที่ยว ก็พอมีรายได้เลี้ยงตัวเองบ้าง และภูมิใจที่ไม่เป็นภาระของคนอื่น ล่าสุด ได้มาเช่าบ้านที่หน้า มัสยิดบ้านคลองแห้ง ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เพื่อเปิดบริการนวดแผนไทย ทั้งนวดตัวและนวดฝ่าเท้า โดยคิดค่าบริการชั่วโมงละ ๑๕๐ บาท และรับสอนคนพิการตาบอดให้รู้จักวิธีนวดแผนไทยฟรี เพื่อต้องการให้ผู้พิการมีรายได้เลี้ยงตัวเอง ไม่เป็นภาระของสังคม ซึ่งตนเพิ่งเปิดร้านได้เพียง ๕ วันเท่านั้น หากมีลูกค้าต่อเนื่องก็คงจะแบกรับภาระค่าเช่าบ้านได้ แต่ตอนนี้ยังไม่มั่นใจมากนัก เพราะเพิ่งเปิดได้ไม่กี่วัน และคนยังไม่รู้จัก แต่ก็มีลูกค้าวันละ ๑-๒ คน ซึ่งจะพยายามให้ลูกค้าที่มาใช้บริการ ช่วยบอกต่อไปเรื่อยๆ