ไม่เท่า แต่ ไม่ท้อ ความพิการ ไม่ใช่อุปสรรค ทำทั้งงานประจำ อาชีพเสริม
คุณจ๊ะจ๋า-จิณจุฑา จุ่นวาที ปัจจุบันอายุ 28 ปีกว่า จบการศึกษาระดับปริญญาตรี บริหารการตลาด จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ล่าสุดทำงานประจำ เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ เกี่ยวกับวงการบันเทิง ให้กับสำนักข่าวออนไลน์แห่งหนึ่ง
“เป็นโรคกระดูกเปราะ คือ กระดูกทั่วร่างหักง่ายกว่าคนปกติ สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากโรคทางพันธุกรรม แต่คนที่เลี้ยงให้เติบโตมา ท่านเป็นแม่บุญธรรม ค่ะ” คุณจ๊ะจ๋า เริ่มต้นบทสนทนา กับ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ อย่างนั้น
ก่อนเล่าต่อ เธอใช้ชีวิต ด้วยความยากลำบาก มาตลอด แต่พยายามปรับตัวเรื่อยมา ช่วงหนักหนาที่สุด น่าจะเป็นตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ปี 3 ต้องผ่าตัดใหญ่ เนื่องจากกระดูกสันหลังบิดงอเป็นตัวเอส ถ้าไม่ผ่าจะไปกดทับปอด หัวใจ ทำให้การทำงานไม่สมบูรณ์ ปล่อยไว้เป็นอันตรายได้
“ผ่าตัดครั้งนั้นมีผลกระทบต่อการเรียนมาก ต้องใส่เฝือกตั้งแต่คอไปจนถึงข้อเท้า และนอนบนเตียง 1 ปีเต็ม อันนี้คือลำบากที่สุดและหนักที่สุด แต่หนูก็ผ่านมาได้แล้วค่ะ” คุณจ๊ะจ๋า เล่าอย่างนั้น ก่อนหัวเราะอารมณ์ดี
ก่อนเล่าประสบการณ์ต่อ ทางมหาวิทยาลัย เห็นถึงความตั้งใจเรียนมาตลอด เลยไม่ต้องให้หยุดพักการเรียนปีสุดท้าย แต่ให้ตั้งใจอ่านหนังสืออยู่ที่หอพัก โดยอนุญาตให้คุณแม่มาช่วยดูแลเพราะค่อนข้างใช้ชีวิตลำบาก ระหว่างนั้น จะมีเพื่อนกับรุ่นพี่ มาช่วยติวให้ ช่วงใกล้สอบ พอถึงวันสอบอาจารย์มานั่งเฝ้าที่ห้องตอนทำข้อสอบด้วย
“ปีสุดท้าย เกรดไม่ดีเหมือนก่อนหน้า เพราะไม่ได้ไปเรียนในห้อง แต่จบมาได้สมความตั้งใจ หลังจากนั้นก็สอบได้เป็นข้าราชการของกระทรวงอุตสาหกรรม ทำอยู่ 1 ปี รู้สึกไม่ไหว เพราะเข้างาน 08.30 น. เลิก 16.30 น. ต้องอยู่บนรถเข็นไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง รวมถึงการเดินทางด้วย ทำให้กระดูกสันหลังที่ผ่ามา เริ่มปวดมากขึ้น เลยตัดสินใจลาออก” คุณจ๊ะจ๋า เล่าเสียงหม่น
แม้ไม่มีงานประจำแล้ว แต่ก็ไม่ปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์ เธอกับแฟนหนุ่ม จึงชวนกันไปขายของตามตลาดนัด แต่ทำได้ไม่นาน ต้องมาเจอกับโควิด เลยคิดทำนมสดผลไม้ ออกมาขายทางออนไลน์ เพราะช่วงเวลาดังกล่าว อาหาร-เครื่องดื่ม ประเภทโฮมเมด ได้รับความนิยมไม่น้อย
แต่ล่าสุด ราคานมสดขึ้นลงไม่เสถียร จึงขอพักการผลิตไว้ ก่อนหันมาช่วยแฟนขายข้าวกะเพรา ผ่านแอปสั่งอาหาร ควบคู่ไปกับการทำงานประจำ ในตำแหน่งคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ซึ่งเธอรู้สึกว่าเป็นงานที่ลงตัว เพราะไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน 3-4 เดือน จึงค่อยเข้าไปประชุมบ้าง
ทำไมทั้งเก่ง ทั้งขยัน แบบนี้ คุณจ๊ะจ๋ายิ้มกว้าง ก่อนบอกจริงจัง
“ก็หนี้มันเยอะ ทั้งครอบครัวมีกันแค่ 3 คน คือ แม่ แฟน และตัวหนู ไม่มีคนอื่นมาคอยช่วยเหลือเวลาล้ม จึงจำเป็นต้องหาเงินเก็บไว้มากๆ เพราะเพิ่งซื้อบ้านหลังใหม่ให้แม่ด้วย”
ชวนคุยต่อ ทุกวันนี้ มีภารกิจอะไรบ้าง เล่าให้ฟังนิดหนึ่ง เจ้าของเรื่องราวท่านเดิม บอก “หนูทำข่าวตั้งแต่เช้าถึง 5 โมงเย็น ส่วนแฟนขายข้าวกะเพรา ตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พอทำงานของตัวเองเสร็จ หนูก็มาช่วยเขา ถามถึงรายรับจากการขายอาหารผ่านแอป ถือว่าน่าพอใจ ตอนนี้เลยคิดอยากมีหน้าร้านอยู่เหมือนกัน”
สนทนามาถึงตรงนี้ ต้องยอมรับ คุณจ๊ะจ๋า คือคนสู้ชีวิต น่าชื่นชม เลยอยากรู้ เวลาท้อแท้ บอกกับตัวเองยังไง เธอบอกเสียงดังฟังชัดว่า ท้อก็ร้องไห้ พอหยุดร้อง จึงค่อยๆ คิดทบทวนหาทางออก และคิดเสมอว่า มีคนรออยู่ข้างหลัง ยังมีแม่บุญธรรม ที่ท่านเลี้ยงดูเรามาอย่างดี เราจึงต้องมีชีวิตเพื่อตัวเองและท่านด้วย
ก่อนจาก ขอให้ฝากกำลังใจสำหรับหลายคน ที่อาจกำลังท้อแท้กับการทำมาหากิน คุณจ๊ะจ๋า บอกว่า โลกทุกวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว เราต้องมีการพัฒนา ไม่ย่ำอยู่กับที่ และตามเทรนด์ให้ทัน ไม่งั้นจะช้ากว่าคนอื่นๆ การฟังแล้วคิดตาม จะได้แง่คิด ได้ความคิดใหม่ๆ ให้นำสิ่งเหล่านั้นมาพัฒนาตัวเองด้วย
อยากเป็นกำลังใจให้เธอ ติดตามได้ที่ ทวิตเตอร์ Thejajah_recipe หรือเฟซบุ๊ก Thejajah Chinchutha
ขอบคุณ... https://www.sentangsedtee.com/today-news/article_253222