ก.แรงงาน เตรียมหารือ พก.จัดที่ขายสินค้าให้คนพิการ-ช่วยเหลือเรื่องอื่นแทนการจ้างงาน
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม นายสุเมธ มโหสถ รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า วานนี้ (23 ธันวาคม) ตนได้ประชุมหารือกับผู้แทนกรมต่างๆของกระทรวงแรงงาน เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการที่สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ แห่งชาติ(พก.) สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะดำเนินการออกระเบียบตามมาตรา 35 ของพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 ที่กำหนดให้สถานประกอบการที่ไม่ได้จ้างงานผู้พิการต้องให้สัมปทาน จัดสถานที่จำหน่ายสินค้า จัดจ้างเหมาช่วงงาน ฝึกงานการให้ความช่วยเหลืออื่นเพื่อแทนการจ้างงานคนพิการและไม่ต้องส่งเงิน เข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์จะมอบอำนาจให้กระทรวงแรงงานเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบให้สถานประกอบการดำเนินการตามระเบียบนี้ ซึ่งในที่ประชุมตัวแทนกรมต่างๆของกระทรวงต่างเห็นด้วยกับเรื่องนี้ และเสนอแนะว่าอยากให้ทั้งสองกระทรวงร่วมกันกำหนดภารกิจ วางแผน และจัดสรรงบประมาณในการดำเนินงาน และมอบอำนาจให้กระทรวงแรงงานเป็นตัวแทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ตามระเบียบให้ชัดเจน โดยหลังจากนี้จะทำหนังสือแจ้งผลสรุปหารือของกระทรวงแรงงานไปยังกระทรวงการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ภายในสัปดาห์นี้และขอให้นัดวันประชุมหารือ ร่วมกันเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับข้อเสนอแนะข้างต้น
นายสุเมธ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้เตรียมหารือกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน(กกร.) ก่อนหน้านี้ที่จังหวัดลพบุรีซึ่งประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย ที่ให้ทั้ง 4 หน่วยงานคือ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน ส.อ.ท.และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ไปหารือ ในประเด็นดังนี้ คือ การแก้ปัญหากรณีหน่วยรัฐไม่สามารถจัดหาคนพิการให้แก่สถานประกอบการที่ต้อง การจ้างงานคนพิการ การลดหย่อนเงินสมทบเข้ากองทุนฯและข้อเสนอของภาคเอกชนที่ขอให้แก้ไขกฎกระทรวง ว่าด้วยการจ้างงานผู้พิการโดยให้ลดสัดส่วนการจ้างงานผู้พิการจากที่สถาน ประกอบการจ้างงานคนปกติ 100 คนต้องจ้างผู้พิการ 1 คนเป็นจ้างงานคนปกติ 200 คนต้องจ้างผู้พิการ 1 คน หากไม่สามารถจ้างงานคนพิการได้ก็ต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ซึ่งขณะนี้หากสถานประกอบการไม่สามารถจ้างผู้พิการได้ 1 คน จะต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนฯอยู่ที่คนละ 109,500 บาทต่อปี โดยคำนวณจากค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาทคูณด้วยจำนวน 365 วัน
“เรื่องการลดสัดส่วนการจ้างผู้พิการนั้น ยังคงยืนยันสัดส่วนเดิมที่ 100 คนปกติ ต้องจ้างผู้พิการ 1 คน เพราะสัดส่วนดังกล่าวถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ แต่ขณะนี้ทางกระทรวงแรงงานกำลังรอทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนุษย์นัดหารือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป” นายสุเมธ กล่าว
( มติชนออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 24 ธ.ค.56 )
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม นายสุเมธ มโหสถ รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า วานนี้ (23 ธันวาคม) ตนได้ประชุมหารือกับผู้แทนกรมต่างๆของกระทรวงแรงงาน เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการที่สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ แห่งชาติ(พก.) สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะดำเนินการออกระเบียบตามมาตรา 35 ของพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 ที่กำหนดให้สถานประกอบการที่ไม่ได้จ้างงานผู้พิการต้องให้สัมปทาน จัดสถานที่จำหน่ายสินค้า จัดจ้างเหมาช่วงงาน ฝึกงานการให้ความช่วยเหลืออื่นเพื่อแทนการจ้างงานคนพิการและไม่ต้องส่งเงิน เข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์จะมอบอำนาจให้กระทรวงแรงงานเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบให้สถานประกอบการดำเนินการตามระเบียบนี้ ซึ่งในที่ประชุมตัวแทนกรมต่างๆของกระทรวงต่างเห็นด้วยกับเรื่องนี้ และเสนอแนะว่าอยากให้ทั้งสองกระทรวงร่วมกันกำหนดภารกิจ วางแผน และจัดสรรงบประมาณในการดำเนินงาน และมอบอำนาจให้กระทรวงแรงงานเป็นตัวแทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ตามระเบียบให้ชัดเจน โดยหลังจากนี้จะทำหนังสือแจ้งผลสรุปหารือของกระทรวงแรงงานไปยังกระทรวงการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ภายในสัปดาห์นี้และขอให้นัดวันประชุมหารือ ร่วมกันเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับข้อเสนอแนะข้างต้น นายสุเมธ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้เตรียมหารือกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน(กกร.) ก่อนหน้านี้ที่จังหวัดลพบุรีซึ่งประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย ที่ให้ทั้ง 4 หน่วยงานคือ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน ส.อ.ท.และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ไปหารือ ในประเด็นดังนี้ คือ การแก้ปัญหากรณีหน่วยรัฐไม่สามารถจัดหาคนพิการให้แก่สถานประกอบการที่ต้อง การจ้างงานคนพิการ การลดหย่อนเงินสมทบเข้ากองทุนฯและข้อเสนอของภาคเอกชนที่ขอให้แก้ไขกฎกระทรวง ว่าด้วยการจ้างงานผู้พิการโดยให้ลดสัดส่วนการจ้างงานผู้พิการจากที่สถาน ประกอบการจ้างงานคนปกติ 100 คนต้องจ้างผู้พิการ 1 คนเป็นจ้างงานคนปกติ 200 คนต้องจ้างผู้พิการ 1 คน หากไม่สามารถจ้างงานคนพิการได้ก็ต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ซึ่งขณะนี้หากสถานประกอบการไม่สามารถจ้างผู้พิการได้ 1 คน จะต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนฯอยู่ที่คนละ 109,500 บาทต่อปี โดยคำนวณจากค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาทคูณด้วยจำนวน 365 วัน “เรื่องการลดสัดส่วนการจ้างผู้พิการนั้น ยังคงยืนยันสัดส่วนเดิมที่ 100 คนปกติ ต้องจ้างผู้พิการ 1 คน เพราะสัดส่วนดังกล่าวถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ แต่ขณะนี้ทางกระทรวงแรงงานกำลังรอทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนุษย์นัดหารือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป” นายสุเมธ กล่าว ขอบคุณ... http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1387870683&grpid=&catid=19&subcatid=1904 ( มติชนออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 24 ธ.ค.56 )
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)