บริษัทขอลดอัตราจ้างคนพิการ เหตุไม่จ้างต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนวันละ 300 บาท

แสดงความคิดเห็น

ผังตลาดงานคนพิการ

รองปลัด รง.เผยผลหารือจ้างงานผู้พิการกับสถานประกอบการ จ.ระยอง เสนอปรับสัดส่วนการจ้างงานคนพิการจากอัตรา ลูกจ้างปกติ 100 คนต่อผู้พิการ 1 คน เป็น 200 คนต่อ 1 คน พร้อมให้หักจำนวนลูกจ้างบางแผนกที่ผู้พิการทำงานไม่ได้ออก ขอมีส่วนร่วมบริหารกองทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการแจงเหตุผลนายจ้างส่งเงินเข้ากองทุนถึงร้อยละ85

วันที่ (27 ม.ค.) นายสุเมธ มโหสถ รองปลัดกระทรวงแรงงาน (รง.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงแรงงานได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุมหารือผลกระทบจาก พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 ให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดระยอง ที่โรงแรมโกลเด้นซิตี้ จ.ระยอง ซึ่งที่ประชุมมีข้อเสนอในหลายประเด็น ได้แก่ การขอให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ออกบัตรให้แก่คนพิการ สถานประกอบการขอปรับ สัดส่วนการจ้างงานคนพิการจากอัตราลูกจ้างปกติ 100 คน ต้องจ้างผู้พิการ 1คน เป็นลูกจ้างปกติ 200 คน ต้องจ้างผู้พิการ 1 คน เพื่อให้การคำนวณมูลค่าเงินที่ต้องจ่ายเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพ ชีวิตคนพิการลดลง ซึ่งปัจจุบันกฎกระทรวงกำหนดให้สถานประกอบการที่มีลูกจ้างปกติ 100 คน จะต้องจ้างงานผู้พิการ 1 คน หากไม่จ้างงานผู้พิการ ก็จะต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนวันละ 300 บาท ในเวลา 365 วัน หรือคิดเป็นเงินทั้งหมดปีละ 109,500 บาทต่อผู้พิการ 1 คน แต่หากไม่จ้างผู้พิการก็ดำเนินการตามมาตรา 35 การให้สัมปทาน จัดสถานที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการ จัดจ้างเหมาในช่วงงานฝึกงาน หรือการช่วยเหลืออื่นๆ แก่คนพิการ หรือผู้ดูแลคนพิการ ซึ่งผู้ประกอบการเห็นว่าการดำเนินการตามมาตรา 35 ไม่ควรจะส่งเงินเข้ากองทุนเท่ากันในทุกกิจกรรม เพราะเป็นการช่วยเหลือคนพิการ หรือผู้ดูแลคนพิการให้มีอาชีพและมีรายได้มั่นคงผู้พิการอาจพอใจในรายได้ที่ต่ำกว่าแต่ไม่ต้องเดินทางจะได้มีเวลาดูแลบ้านและครอบครัว

เว็บไซต์มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย หน้าห้องตลาดงานคนพิการ

รองปลัด รง.กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังเห็นว่าการคิดจำนวนคนพิการที่ต้องรับเข้าทำงานในสถานประกอบการ ควรเริ่มคิดในช่วงปีปฏิทิน และขอขยายเวลาการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนฯจากเดิมในเดือนตุลาคม-มกราคม ให้เป็น มกราคม-มีนาคม ของทุกปี รวมทั้งในโรงงานที่มีแผนกคนพิการไม่สามารถทำได้ เช่น กลุ่มยานยนต์แผนกที่มีหุ่นยนต์ แผนกอัตโนมัติต่างๆ ซึ่งไม่สามารถให้คนพิการเข้าไปทำงานได้ ก็ขอให้หักจำนวนลูกจ้างจากบางแผนกที่คนพิการไม่สามารถทำงานได้ออกไปจากฐาน การคำนวณการจ้างงานผู้พิการของสถานประกอบการแห่งนั้นด้วย และควรให้ผู้ประกอบการ หรือผู้แทนฝ่ายนายจ้างเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารกองทุน เพราะผู้ประกอบการเป็นผู้นำส่งเงินเข้ากองทุน 85% ของเงินกองทุนทั้งหมด จึงมีส่วนร่วมในการบริหารกองทุน เช่นเดียวกับกองทุนประกันสังคม เพื่อความโปร่งใสและก่อประโยชน์สูงสุดต่อคนพิการอย่างแท้จริง ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานจะนำประเด็นเหล่านี้ไปหารือกับ พม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9570000010296 (ขนาดไฟล์: 164)

ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 27 ม.ค.57

ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 27 ม.ค.57
วันที่โพสต์: 28/01/2557 เวลา 03:12:12 ดูภาพสไลด์โชว์ บริษัทขอลดอัตราจ้างคนพิการ เหตุไม่จ้างต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนวันละ 300 บาท

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ผังตลาดงานคนพิการ รองปลัด รง.เผยผลหารือจ้างงานผู้พิการกับสถานประกอบการ จ.ระยอง เสนอปรับสัดส่วนการจ้างงานคนพิการจากอัตรา ลูกจ้างปกติ 100 คนต่อผู้พิการ 1 คน เป็น 200 คนต่อ 1 คน พร้อมให้หักจำนวนลูกจ้างบางแผนกที่ผู้พิการทำงานไม่ได้ออก ขอมีส่วนร่วมบริหารกองทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการแจงเหตุผลนายจ้างส่งเงินเข้ากองทุนถึงร้อยละ85 วันที่ (27 ม.ค.) นายสุเมธ มโหสถ รองปลัดกระทรวงแรงงาน (รง.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงแรงงานได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุมหารือผลกระทบจาก พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 ให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดระยอง ที่โรงแรมโกลเด้นซิตี้ จ.ระยอง ซึ่งที่ประชุมมีข้อเสนอในหลายประเด็น ได้แก่ การขอให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ออกบัตรให้แก่คนพิการ สถานประกอบการขอปรับ สัดส่วนการจ้างงานคนพิการจากอัตราลูกจ้างปกติ 100 คน ต้องจ้างผู้พิการ 1คน เป็นลูกจ้างปกติ 200 คน ต้องจ้างผู้พิการ 1 คน เพื่อให้การคำนวณมูลค่าเงินที่ต้องจ่ายเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพ ชีวิตคนพิการลดลง ซึ่งปัจจุบันกฎกระทรวงกำหนดให้สถานประกอบการที่มีลูกจ้างปกติ 100 คน จะต้องจ้างงานผู้พิการ 1 คน หากไม่จ้างงานผู้พิการ ก็จะต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนวันละ 300 บาท ในเวลา 365 วัน หรือคิดเป็นเงินทั้งหมดปีละ 109,500 บาทต่อผู้พิการ 1 คน แต่หากไม่จ้างผู้พิการก็ดำเนินการตามมาตรา 35 การให้สัมปทาน จัดสถานที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการ จัดจ้างเหมาในช่วงงานฝึกงาน หรือการช่วยเหลืออื่นๆ แก่คนพิการ หรือผู้ดูแลคนพิการ ซึ่งผู้ประกอบการเห็นว่าการดำเนินการตามมาตรา 35 ไม่ควรจะส่งเงินเข้ากองทุนเท่ากันในทุกกิจกรรม เพราะเป็นการช่วยเหลือคนพิการ หรือผู้ดูแลคนพิการให้มีอาชีพและมีรายได้มั่นคงผู้พิการอาจพอใจในรายได้ที่ต่ำกว่าแต่ไม่ต้องเดินทางจะได้มีเวลาดูแลบ้านและครอบครัว เว็บไซต์มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย หน้าห้องตลาดงานคนพิการ รองปลัด รง.กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังเห็นว่าการคิดจำนวนคนพิการที่ต้องรับเข้าทำงานในสถานประกอบการ ควรเริ่มคิดในช่วงปีปฏิทิน และขอขยายเวลาการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนฯจากเดิมในเดือนตุลาคม-มกราคม ให้เป็น มกราคม-มีนาคม ของทุกปี รวมทั้งในโรงงานที่มีแผนกคนพิการไม่สามารถทำได้ เช่น กลุ่มยานยนต์แผนกที่มีหุ่นยนต์ แผนกอัตโนมัติต่างๆ ซึ่งไม่สามารถให้คนพิการเข้าไปทำงานได้ ก็ขอให้หักจำนวนลูกจ้างจากบางแผนกที่คนพิการไม่สามารถทำงานได้ออกไปจากฐาน การคำนวณการจ้างงานผู้พิการของสถานประกอบการแห่งนั้นด้วย และควรให้ผู้ประกอบการ หรือผู้แทนฝ่ายนายจ้างเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารกองทุน เพราะผู้ประกอบการเป็นผู้นำส่งเงินเข้ากองทุน 85% ของเงินกองทุนทั้งหมด จึงมีส่วนร่วมในการบริหารกองทุน เช่นเดียวกับกองทุนประกันสังคม เพื่อความโปร่งใสและก่อประโยชน์สูงสุดต่อคนพิการอย่างแท้จริง ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานจะนำประเด็นเหล่านี้ไปหารือกับ พม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9570000010296 ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 27 ม.ค.57

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...