สอนคนตาบอดปลูกผัก 'เทใจดอทคอม'สร้างงาน
“การปลูกผัก มันเป็นสัญชาตญาณของคนไทย มันเป็นสิ่งที่คนไทยทำมาตั้งแต่รุ่นดึกดำบรรพ์ เราจึงเชื่อว่าการให้คนตาบอดและคนสายตาเลือนรางมาปลูกผัก เขาทำได้แน่นอน” คุณป้อม-ศิริกุล ซื่อต่อชาติ เจ้าของหนังสือปลูกผักกันเถอะที่มาร่วมเป็นวิทยากรในโครงการสอนคนตาบอดปลูกผักสร้างอาชีพ กล่าวไว้
ดังนั้น สิ่งที่นายมนต์ศักดิ์ ชัยวีระเดช ผู้ที่ริเริ่มโครงการนี้ใน http://www.taejai.com (ขนาดไฟล์: 18) จึงยิ่งมีความเชื่อมั่นว่าสิ่งที่คิดทำได้แน่นอน นายมนต์ศักดิ์เล่าถึงแรงบันดาลใจการริเริ่มโครงการว่า ผมมีประสบการณ์จากการสอนคนตาบอดและหูหนวกในการทำหนังสั้น ซึ่งเขาก็ทำได้ดี อย่างหนังสั้นของคนหูหนวกกลุ่มนี้ได้ไปฉายที่ประเทศอังกฤษผมจึงเชื่อว่านอกจากอาชีพขายลอตเตอรี่อาชีพอินเทอร์เน็ตมีอาชีพอื่นอีกหรือไม่
“ผมได้เจอหลายรายมาก เช่น คุณป้าตาบอดลงทุนเปิดร้านขายของชำ แต่ลูกค้าขโมยทุกวัน คุณป้าคิดจะกระโดดน้ำตาย ผมจึงอยากให้เขามีอาชีพอื่นๆ บ้าง ผมจึงเริ่มคุยกับสวนผักคนเมือง และส่งโครงการนี้ไปที่เว็บไซต์เทใจดอทคอมเพื่อขอรับการระดมทุนจากประชาชนทั่วไปมาสนับสนุนโครงการนี้”
เทใจดอทคอมใช้ระยะเวลา 3 เดือนในการระดมทุน 30,000 บาท โดยผู้บริจาคต่างให้ความสนใจ พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือคนกลุ่มพิเศษเหล่านี้ให้มีอาชีพที่ยั่งยืน คำหอม ศรีนอก กล่าวถึงการจัดคอร์สนี้ว่า การสอนการปลูกผักสำหรับคนพิเศษ เราจะพยายามออกแบบให้ง่ายมากขึ้น เช่น ช่วงเช้าเราสอนให้เขาปลูกถั่วงอก ปลูกต้นอ่อนทานตะวัน ตอนบ่ายสอนการปรุงดิน ปลูกผักสลัด โดยสิ่งที่เราสอนในวันนี้เราเน้นเลยว่าต้องปลูกง่าย ใช้พื้นที่ไม่เยอะ ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมอย่างน้อยกลับไปปลูกผักทานที่บ้านเพื่อเป็นการลดรายจ่ายได้และหลังจากพัฒนาฝีมือก็สามารถปลูกขายได้แน่นอน
การปลูกถั่วงอก หรือต้นอ่อนทานตะวันใช้เวลาไม่นาน แถมผักที่เราสอนยังเป็นการปลูกแบบอินทรีย์ ซึ่งเป็นผักที่มีมูลค่าในท้องตลาด เช่น ต้นอ่อนทานตะวัน ใช้เวลาปลูก 7 วัน สามารถขายได้ขีดละ 30 บาท ถ้าเขาทำได้ก็จะเป็นค่าขนมค่าอาหารของเขาต่อไป
ด้านผู้พิการสายตาเลือนรางเผยว่า แต่ก่อนแมวทำอาชีพขายของ แต่เมื่อเริ่มเกิดวิกฤติต่างๆ ทำให้ต้องมาอยู่ดูแลบ้านจนทุกวันนี้ และที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้เป็นเพราะอยากรู้วิธีการเริ่มต้นปลูกผักว่าเป็น อย่างไร จะสามารถทำได้บ้างรึเปล่า แต่เมื่อมาร่วมกิจกรรมนี้ทำให้เห็นว่าการปลูกผักไม่ใช่เรื่องยาก แค่เรารู้ว่าการซื้อวัสดุอุปกรณ์ เมล็ดพันธุ์ในการปลูกผักเป็นอย่างไรเราก็สามารถปลูกเองได้ หลังจากนี้จะเริ่มปลูกผักกินเองที่บ้านก่อนถ้าอนาคตมีโอกาสก็จะอยากจะปลูกผักขายได้
ขณะที่คุณจินตนา ผู้พิการสายตาเลือนรางอีกท่าน มีอาชีพนักวิชาการการศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บอกว่า ดิฉันสนใจการเกษตรอยู่ และมีที่ดินอยู่ต่างจังหวัด ที่ผ่านมายังไม่เคยลองปลูกผัก เมื่อเธอทราบว่าทางสมาคม ได้ร่วมมือกับโครงการสอนคนตาบอดปลูกผักสร้างอาชีพ จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา จึงเข้าร่วมโดยทันที เพื่ออยากนำความรู้วิธีการปลูกผักออร์แกนิกมาใช้ และคาดหวังว่าเมื่อเกษียณจะทำอาชีพปลูกผักออร์แกนิกขายอีกด้วย
ขอบคุณ... http://www.thaipost.net/x-cite/250314/87988 (ขนาดไฟล์: 167)
ไทยโพสต์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 25 มี.ค.57
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
“การปลูกผัก มันเป็นสัญชาตญาณของคนไทย มันเป็นสิ่งที่คนไทยทำมาตั้งแต่รุ่นดึกดำบรรพ์ เราจึงเชื่อว่าการให้คนตาบอดและคนสายตาเลือนรางมาปลูกผัก เขาทำได้แน่นอน” คุณป้อม-ศิริกุล ซื่อต่อชาติ เจ้าของหนังสือปลูกผักกันเถอะที่มาร่วมเป็นวิทยากรในโครงการสอนคนตาบอดปลูกผักสร้างอาชีพ กล่าวไว้ ดังนั้น สิ่งที่นายมนต์ศักดิ์ ชัยวีระเดช ผู้ที่ริเริ่มโครงการนี้ใน http://www.taejai.com จึงยิ่งมีความเชื่อมั่นว่าสิ่งที่คิดทำได้แน่นอน นายมนต์ศักดิ์เล่าถึงแรงบันดาลใจการริเริ่มโครงการว่า ผมมีประสบการณ์จากการสอนคนตาบอดและหูหนวกในการทำหนังสั้น ซึ่งเขาก็ทำได้ดี อย่างหนังสั้นของคนหูหนวกกลุ่มนี้ได้ไปฉายที่ประเทศอังกฤษผมจึงเชื่อว่านอกจากอาชีพขายลอตเตอรี่อาชีพอินเทอร์เน็ตมีอาชีพอื่นอีกหรือไม่ “ผมได้เจอหลายรายมาก เช่น คุณป้าตาบอดลงทุนเปิดร้านขายของชำ แต่ลูกค้าขโมยทุกวัน คุณป้าคิดจะกระโดดน้ำตาย ผมจึงอยากให้เขามีอาชีพอื่นๆ บ้าง ผมจึงเริ่มคุยกับสวนผักคนเมือง และส่งโครงการนี้ไปที่เว็บไซต์เทใจดอทคอมเพื่อขอรับการระดมทุนจากประชาชนทั่วไปมาสนับสนุนโครงการนี้” เทใจดอทคอมใช้ระยะเวลา 3 เดือนในการระดมทุน 30,000 บาท โดยผู้บริจาคต่างให้ความสนใจ พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือคนกลุ่มพิเศษเหล่านี้ให้มีอาชีพที่ยั่งยืน คำหอม ศรีนอก กล่าวถึงการจัดคอร์สนี้ว่า การสอนการปลูกผักสำหรับคนพิเศษ เราจะพยายามออกแบบให้ง่ายมากขึ้น เช่น ช่วงเช้าเราสอนให้เขาปลูกถั่วงอก ปลูกต้นอ่อนทานตะวัน ตอนบ่ายสอนการปรุงดิน ปลูกผักสลัด โดยสิ่งที่เราสอนในวันนี้เราเน้นเลยว่าต้องปลูกง่าย ใช้พื้นที่ไม่เยอะ ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมอย่างน้อยกลับไปปลูกผักทานที่บ้านเพื่อเป็นการลดรายจ่ายได้และหลังจากพัฒนาฝีมือก็สามารถปลูกขายได้แน่นอน การปลูกถั่วงอก หรือต้นอ่อนทานตะวันใช้เวลาไม่นาน แถมผักที่เราสอนยังเป็นการปลูกแบบอินทรีย์ ซึ่งเป็นผักที่มีมูลค่าในท้องตลาด เช่น ต้นอ่อนทานตะวัน ใช้เวลาปลูก 7 วัน สามารถขายได้ขีดละ 30 บาท ถ้าเขาทำได้ก็จะเป็นค่าขนมค่าอาหารของเขาต่อไป ด้านผู้พิการสายตาเลือนรางเผยว่า แต่ก่อนแมวทำอาชีพขายของ แต่เมื่อเริ่มเกิดวิกฤติต่างๆ ทำให้ต้องมาอยู่ดูแลบ้านจนทุกวันนี้ และที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้เป็นเพราะอยากรู้วิธีการเริ่มต้นปลูกผักว่าเป็น อย่างไร จะสามารถทำได้บ้างรึเปล่า แต่เมื่อมาร่วมกิจกรรมนี้ทำให้เห็นว่าการปลูกผักไม่ใช่เรื่องยาก แค่เรารู้ว่าการซื้อวัสดุอุปกรณ์ เมล็ดพันธุ์ในการปลูกผักเป็นอย่างไรเราก็สามารถปลูกเองได้ หลังจากนี้จะเริ่มปลูกผักกินเองที่บ้านก่อนถ้าอนาคตมีโอกาสก็จะอยากจะปลูกผักขายได้ ขณะที่คุณจินตนา ผู้พิการสายตาเลือนรางอีกท่าน มีอาชีพนักวิชาการการศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บอกว่า ดิฉันสนใจการเกษตรอยู่ และมีที่ดินอยู่ต่างจังหวัด ที่ผ่านมายังไม่เคยลองปลูกผัก เมื่อเธอทราบว่าทางสมาคม ได้ร่วมมือกับโครงการสอนคนตาบอดปลูกผักสร้างอาชีพ จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา จึงเข้าร่วมโดยทันที เพื่ออยากนำความรู้วิธีการปลูกผักออร์แกนิกมาใช้ และคาดหวังว่าเมื่อเกษียณจะทำอาชีพปลูกผักออร์แกนิกขายอีกด้วย ขอบคุณ... http://www.thaipost.net/x-cite/250314/87988 ไทยโพสต์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 25 มี.ค.57
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)