เล็งตั้งศูนย์บ่มเพาะอาชีพ “คนพิการ” กระตุ้นจ้างงาน 10 สาขา
กกจ. ร่วม ม.มหิดล วิทยาลัยราชสุดา และ 3 สมาคมคนพิการ เล็งตั้งศูนย์ “JOB COACH THAILAND CENTER” บ่มเพาะอาชีพคนพิการ ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนพิการ เบื้องต้นเริ่มฝึกอาชีพใน 10สาขาทั้งท่องเที่ยวบริการอุตสาหกรรม
นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมอาชีพคนพิการ โดยพร้อมจะขับเคลื่อนให้เกิดการจ้างงานและพัฒนาอาชีพคนพิการตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาล โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดกระทรวงแรงงาน ใช้กลไก “ประชารัฐ” ที่เน้นการบูรณาการร่วมจากทุกภาคส่วน เพื่อให้คนพิการมีงานทำอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน เกิดความมั่นคงในชีวิต และมีรายได้ในการประกอบอาชีพ ซึ่งในส่วนของกรมการจัดหางานนั้น ได้กำหนดกรอบแผนการส่งเสริมการมีงานทำให้คนพิการ 20 ปี (2560 - 2579) โดยมุ่งให้คนพิการมีงานทำและมีรายได้ สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี ซึ่งใน 5 ปี แรก (2560 - 2564) ตั้งเป้าหมายให้คนพิการมีงานทำตามมาตรา 33 แห่ง พ.ร.บ. ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 จำนวน 3,000 คนต่อปี และมาตรา 35 จำนวน 10,000 คนต่อปี และมีรายได้เหนือเส้นรายได้ปานกลาง ซึ่งขณะนี้ กกจ. ได้มีการหารือร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาลัยราชสุดา สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิสซึมไทยและสมาคมการค้าผู้ประกอบกิจการเพื่อสังคมคนพิการและผู้ด้อยโอกาสไทย เกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะด้านวิชาชีพของคนพิการในประเทศไทย(JOBCOACHTHAILANDCENTER)ที่กระทรวงแรงงาน
“ศูนย์แห่งนี้จะสามารถตอบโจทย์ปัญหาการจ้างงานคนพิการได้ เนื่องจากที่ผ่านมาระบบการจ้างงานคนพิการยังขาดกระบวนการเชื่อมโยงประสานงานระหว่างคนพิการ และนายจ้างในการเป็นที่ปรึกษาแนะนำการจ้างงานคนพิการให้เหมาะกับตำแหน่งงานของสถานประกอบการ ขาดเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวก นวัตกรรมในการส่งเสริมการมีงานทำและการประกอบอาชีพของคนพิการ ทำให้สถานประกอบการได้คนพิการไม่ตรง และไม่สอดคล้องกับความสามารถของคนพิการ ดังนั้น จึงเกิดแนวคิดในการพัฒนาระบบบ่มเพาะคนพิการสู่การมีงานทำ โดยเริ่มจากการพัฒนาวิธีคิด ความเชื่อ ความรู้ของคนพิการ/ครอบครัว และนายจ้าง/ผู้ซื้อสินค้า บริการและชุมชน/สังคม ผู้สอนงาน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีที่จำเป็น เช่น อุปกรณ์ช่วยเหลือในการเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวกในการทำงาน เป็นต้น” อธิบดี กกจ. กล่าว
นายวรานนท์ กล่าวว่า ศูนย์ JOB COACH มี 3 กระบวนการหลัก คือ 1. การบ่มเพาะก่อนจ้างงานจะเป็นระบบคัดกรองความสามารถในการมีงานทำของคนพิการ มีพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาในด้านต่างๆ เช่น การเตรียมความพร้อม การปรับทัศนคติก่อนเข้าสู่การทำงาน เป็นต้น 2. การส่งต่อ เป็นการสนับสนุนเข้าสู่การจ้างงาน โดยคำนึงถึงความแตกต่างและความถนัดของบุคคล ซึ่งคนพิการที่มีความพร้อมเข้าสู่กระบวนการมีงานทำจะได้รับการจ้างงานในสถานประกอบการ และสามารถทำงานได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ขณะเดียวกัน หากไม่สามารถทำงานในสถานประกอบการได้ก็จะสนับสนุนให้เป็นผู้ประกอบการต่อไป 3. การรักษา เป็นการพัฒนาหลังจ้างงาน เพื่อทำให้คนพิการสามารถมีโอกาสทำงานในสถานประกอบการได้มากขึ้น และมีทักษะในวิชาชีพที่ได้มาตรฐานเพื่อให้ได้ค่าตอบแทนในการจ้างงานที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้สถานประกอบการจัดซื้อสินค้าและบริการของคนพิการ
“ศูนย์ JOB COACH เป็นการจัดทำระบบสนับสนุนบ่มเพาะการจ้างงานคนพิการครั้งแรกในประเทศไทย เริ่มตั้งแต่การคัดกรองรับสมัครคนพิการ การจำลองศูนย์การฝึกวิชาชีพตามความต้องการของภาคเอกชน พร้อมทั้ง Matching คนพิการที่ผ่านการอบรมเข้ารับการจ้างกับองค์กรเอกชน และมีการติดตามการทำงานของคนพิการที่เข้าทำงานในสถานประกอบการ มีเป้าหมายคนพิการมาใช้บริการ 2,000 คน มีสาขาอาชีพที่ฝึกในเบื้องต้นประมาณ 10 สาขา เช่น ภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว การบริการ การก่อสร้าง เป็นต้น ซึ่งหากได้รับการตอบรับที่ดีจากคนพิการและสถานประกอบการก็จะได้พัฒนาไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศต่อไป” นายวรานนท์ กล่าว
ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9600000025016 (ขนาดไฟล์: 164)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
กกจ. ร่วม ม.มหิดล วิทยาลัยราชสุดา และ 3 สมาคมคนพิการ เล็งตั้งศูนย์ “JOB COACH THAILAND CENTER” บ่มเพาะอาชีพคนพิการ ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนพิการ เบื้องต้นเริ่มฝึกอาชีพใน 10สาขาทั้งท่องเที่ยวบริการอุตสาหกรรม คนพิการทางการเคลื่อนไหวฝึกอาชีพ นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมอาชีพคนพิการ โดยพร้อมจะขับเคลื่อนให้เกิดการจ้างงานและพัฒนาอาชีพคนพิการตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาล โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดกระทรวงแรงงาน ใช้กลไก “ประชารัฐ” ที่เน้นการบูรณาการร่วมจากทุกภาคส่วน เพื่อให้คนพิการมีงานทำอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน เกิดความมั่นคงในชีวิต และมีรายได้ในการประกอบอาชีพ ซึ่งในส่วนของกรมการจัดหางานนั้น ได้กำหนดกรอบแผนการส่งเสริมการมีงานทำให้คนพิการ 20 ปี (2560 - 2579) โดยมุ่งให้คนพิการมีงานทำและมีรายได้ สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี ซึ่งใน 5 ปี แรก (2560 - 2564) ตั้งเป้าหมายให้คนพิการมีงานทำตามมาตรา 33 แห่ง พ.ร.บ. ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 จำนวน 3,000 คนต่อปี และมาตรา 35 จำนวน 10,000 คนต่อปี และมีรายได้เหนือเส้นรายได้ปานกลาง ซึ่งขณะนี้ กกจ. ได้มีการหารือร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาลัยราชสุดา สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิสซึมไทยและสมาคมการค้าผู้ประกอบกิจการเพื่อสังคมคนพิการและผู้ด้อยโอกาสไทย เกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะด้านวิชาชีพของคนพิการในประเทศไทย(JOBCOACHTHAILANDCENTER)ที่กระทรวงแรงงาน “ศูนย์แห่งนี้จะสามารถตอบโจทย์ปัญหาการจ้างงานคนพิการได้ เนื่องจากที่ผ่านมาระบบการจ้างงานคนพิการยังขาดกระบวนการเชื่อมโยงประสานงานระหว่างคนพิการ และนายจ้างในการเป็นที่ปรึกษาแนะนำการจ้างงานคนพิการให้เหมาะกับตำแหน่งงานของสถานประกอบการ ขาดเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวก นวัตกรรมในการส่งเสริมการมีงานทำและการประกอบอาชีพของคนพิการ ทำให้สถานประกอบการได้คนพิการไม่ตรง และไม่สอดคล้องกับความสามารถของคนพิการ ดังนั้น จึงเกิดแนวคิดในการพัฒนาระบบบ่มเพาะคนพิการสู่การมีงานทำ โดยเริ่มจากการพัฒนาวิธีคิด ความเชื่อ ความรู้ของคนพิการ/ครอบครัว และนายจ้าง/ผู้ซื้อสินค้า บริการและชุมชน/สังคม ผู้สอนงาน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีที่จำเป็น เช่น อุปกรณ์ช่วยเหลือในการเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวกในการทำงาน เป็นต้น” อธิบดี กกจ. กล่าว นายวรานนท์ กล่าวว่า ศูนย์ JOB COACH มี 3 กระบวนการหลัก คือ 1. การบ่มเพาะก่อนจ้างงานจะเป็นระบบคัดกรองความสามารถในการมีงานทำของคนพิการ มีพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาในด้านต่างๆ เช่น การเตรียมความพร้อม การปรับทัศนคติก่อนเข้าสู่การทำงาน เป็นต้น 2. การส่งต่อ เป็นการสนับสนุนเข้าสู่การจ้างงาน โดยคำนึงถึงความแตกต่างและความถนัดของบุคคล ซึ่งคนพิการที่มีความพร้อมเข้าสู่กระบวนการมีงานทำจะได้รับการจ้างงานในสถานประกอบการ และสามารถทำงานได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ขณะเดียวกัน หากไม่สามารถทำงานในสถานประกอบการได้ก็จะสนับสนุนให้เป็นผู้ประกอบการต่อไป 3. การรักษา เป็นการพัฒนาหลังจ้างงาน เพื่อทำให้คนพิการสามารถมีโอกาสทำงานในสถานประกอบการได้มากขึ้น และมีทักษะในวิชาชีพที่ได้มาตรฐานเพื่อให้ได้ค่าตอบแทนในการจ้างงานที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้สถานประกอบการจัดซื้อสินค้าและบริการของคนพิการ “ศูนย์ JOB COACH เป็นการจัดทำระบบสนับสนุนบ่มเพาะการจ้างงานคนพิการครั้งแรกในประเทศไทย เริ่มตั้งแต่การคัดกรองรับสมัครคนพิการ การจำลองศูนย์การฝึกวิชาชีพตามความต้องการของภาคเอกชน พร้อมทั้ง Matching คนพิการที่ผ่านการอบรมเข้ารับการจ้างกับองค์กรเอกชน และมีการติดตามการทำงานของคนพิการที่เข้าทำงานในสถานประกอบการ มีเป้าหมายคนพิการมาใช้บริการ 2,000 คน มีสาขาอาชีพที่ฝึกในเบื้องต้นประมาณ 10 สาขา เช่น ภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว การบริการ การก่อสร้าง เป็นต้น ซึ่งหากได้รับการตอบรับที่ดีจากคนพิการและสถานประกอบการก็จะได้พัฒนาไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศต่อไป” นายวรานนท์ กล่าว ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9600000025016
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)