ก.แรงงาน ตั้งเป้าสร้างอาชีพให้คนพิการ-ผู้สูงอายุปี 60
กระทรวงแรงงาน ร่วมมือกับ แม่ทัพภาคที่ 2 จังหวัดนครราชสีมา และอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สร้างโอกาสให้คนพิการและผู้สูงอายุ มีงานทำ มีอาชีพ ในปี 2560 คาดจะมีการจ้างงานและการประกอบอาชีพในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 2,770 คน
"หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ" ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดโครงการประชารัฐสร้างโอกาสคนพิการและผู้สูงอายุ มีงานทำ มีอาชีพ โดยกล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายให้ความสำคัญต่อประชาชน อยู่ดีมีสุข กระทรวงแรงงาน มียุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ เป็นกลไกการบริหารจัดการกำลังคมของชาติให้กระจายลงสู่ทุกภาคการผลิตของประเทศอย่างสมดุล
โดยยึดหลักใน 3 มิติ คือ ศักยภาพของกำลังแรงงานและต้นทุนมนุษย์ ความมีประสิทธิภาพของตลาดแรงงาน และความมั่นคงในการดำรงชีวิตจากการทำงาน ซึ่งในปี 2560 กระทรวงแรงงานได้กำหนดยุทธศาสตร์ด้านแรงงาน การป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน การส่งเสริมการจ้างงานคนพิการและผู้สูงอายุ การยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ สอดรับยุทธศาสตร์ชาติในด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพให้มีโอกาสความเสมอและเท่าเทียมกันทางสังคม
อีกทั้ง "พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีแผนการปฏิบัติงานระยะที่ 1 ของปี 2560 ในมิติใหม่การส่งเสริมการมีงานทำ การยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ คนพิการ ผู้สูงอายุ รวมถึงการเพิ่มผลิตภาพแรงงานสู่ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งการจัดโครงการพลังประชารัฐสร้างโอกาสคนพิการและผู้สูงอายุมีงานทำ มีอาชีพ เป็นการน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่คณะกรรมการมูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการ ในพระบรมราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีณพระตำหนักจิตรลดารโหฐานเมื่อวันที่22มีนาคม2517
ความตอนหนึ่งว่า "งานช่วยเหลือคนพิการนี้ ก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะว่าผู้พิการไม่ได้อยากจะเป็นผู้พิการ และอยากช่วยเหลือตนเอง ถ้าเราไม่ช่วยเขาให้สามารถที่ปฏิบัติงานอะไรเพื่อชีวิต และเศรษฐกิจของครอบครัวจะทำให้เกิดสิ่งที่หนักในครอบครัวหนักแก่ส่วนรวม ฉะนั้น นโยบายที่จะทำก็คือ ช่วยเขาให้ช่วยเหลือตนเองได้เพื่อจะทำให้เขาสามารถเป็นประโยชน์ต่อสังคม"
กระทรวงแรงงาน จึงได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสมาเป็นแนวทางในการส่งเสริมการมีงานทำให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ซึ่งกลุ่มคนพิการและผู้สูงอายุถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า สามารถทำงานในสถานประกอบการหรือประกอบอาชีพที่ทำให้เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม สำหรับ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีนายจ้างสถานประกอบการที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายจ้างงานคนพิการในปี 2559 จำนวน 891 แห่ง การจ้างงานคนพิการเข้าทำงานในสถานประกอบการ จำนวน 1,544 คน ได้รับสิทธิตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ พ.ศ. 2550 จำนวน 555 คน สร้างมูลค่า 226 ล้านบาทต่อปี และในปี 2560 คาดว่าจะมีการจ้างงานและการประกอบอาชีพในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 2,773 คน เป็นคนพิการ 2,099 คน ผู้สูงอายุ 400 คน ทหารที่ปลดประจำการจากความพิการในการสู้รบ และครอบครัวทหารที่มีความพิการ274คน
นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้เชิญชวนให้สถานประกอบการมีการจ้างงานผู้พิการและใช้สิทธิตามมาตรา 35 การจ้างผู้พิการทำงานที่บ้าน รวมถึงส่งเสริมให้มีการจ้างานผู้สูงอายุ เนื่องจากในปี 2578 ประเทศไทยจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุแบบเข้มข้น อีกทั้งยังให้กรมการจัดหางานผลักดันโครงการนี้ให้เห็นผลสัมฤทธิ์และขยายสู่ทุกภาคของประเทศด้วย
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ได้มีการจัดกิจกรรม การจ้างงานคนพิการและผู้สูงอายุ ต้นแบบการจ้างงานและส่งเสริมอาชีพให้แก่ทหารที่ปลดประจำการจากความพิการในการสู้รบและครอบครัวทหารที่มีความพิการ การถ่ายทอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการเกษตรให้คนพิการและผู้สูงอายุได้นำไปใช้ในการประกอบอาชีพ การฝึกอบรมหลักสูตรการเลี้ยงไก่ การเพาะเห็ดเศรษฐกิจ และการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ รวมถึงการมอบอุปกรณ์และวัสดุในการประกอบอาชีพให้แก่ทหารที่ปลดประจำการจากความพิการในการสู้รบและครอบครัวทหารที่มีความพิการ
ขอบคุณ... http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1480483338
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
กระทรวงแรงงาน ร่วมมือกับ แม่ทัพภาคที่ 2 จังหวัดนครราชสีมา และอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สร้างโอกาสให้คนพิการและผู้สูงอายุ มีงานทำ มีอาชีพ ในปี 2560 คาดจะมีการจ้างงานและการประกอบอาชีพในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 2,770 คน หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน "หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ" ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดโครงการประชารัฐสร้างโอกาสคนพิการและผู้สูงอายุ มีงานทำ มีอาชีพ โดยกล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายให้ความสำคัญต่อประชาชน อยู่ดีมีสุข กระทรวงแรงงาน มียุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ เป็นกลไกการบริหารจัดการกำลังคมของชาติให้กระจายลงสู่ทุกภาคการผลิตของประเทศอย่างสมดุล โดยยึดหลักใน 3 มิติ คือ ศักยภาพของกำลังแรงงานและต้นทุนมนุษย์ ความมีประสิทธิภาพของตลาดแรงงาน และความมั่นคงในการดำรงชีวิตจากการทำงาน ซึ่งในปี 2560 กระทรวงแรงงานได้กำหนดยุทธศาสตร์ด้านแรงงาน การป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน การส่งเสริมการจ้างงานคนพิการและผู้สูงอายุ การยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ สอดรับยุทธศาสตร์ชาติในด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพให้มีโอกาสความเสมอและเท่าเทียมกันทางสังคม อีกทั้ง "พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีแผนการปฏิบัติงานระยะที่ 1 ของปี 2560 ในมิติใหม่การส่งเสริมการมีงานทำ การยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ คนพิการ ผู้สูงอายุ รวมถึงการเพิ่มผลิตภาพแรงงานสู่ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งการจัดโครงการพลังประชารัฐสร้างโอกาสคนพิการและผู้สูงอายุมีงานทำ มีอาชีพ เป็นการน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่คณะกรรมการมูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการ ในพระบรมราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีณพระตำหนักจิตรลดารโหฐานเมื่อวันที่22มีนาคม2517 ความตอนหนึ่งว่า "งานช่วยเหลือคนพิการนี้ ก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะว่าผู้พิการไม่ได้อยากจะเป็นผู้พิการ และอยากช่วยเหลือตนเอง ถ้าเราไม่ช่วยเขาให้สามารถที่ปฏิบัติงานอะไรเพื่อชีวิต และเศรษฐกิจของครอบครัวจะทำให้เกิดสิ่งที่หนักในครอบครัวหนักแก่ส่วนรวม ฉะนั้น นโยบายที่จะทำก็คือ ช่วยเขาให้ช่วยเหลือตนเองได้เพื่อจะทำให้เขาสามารถเป็นประโยชน์ต่อสังคม" กระทรวงแรงงาน จึงได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสมาเป็นแนวทางในการส่งเสริมการมีงานทำให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ซึ่งกลุ่มคนพิการและผู้สูงอายุถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า สามารถทำงานในสถานประกอบการหรือประกอบอาชีพที่ทำให้เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม สำหรับ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีนายจ้างสถานประกอบการที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายจ้างงานคนพิการในปี 2559 จำนวน 891 แห่ง การจ้างงานคนพิการเข้าทำงานในสถานประกอบการ จำนวน 1,544 คน ได้รับสิทธิตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ พ.ศ. 2550 จำนวน 555 คน สร้างมูลค่า 226 ล้านบาทต่อปี และในปี 2560 คาดว่าจะมีการจ้างงานและการประกอบอาชีพในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 2,773 คน เป็นคนพิการ 2,099 คน ผู้สูงอายุ 400 คน ทหารที่ปลดประจำการจากความพิการในการสู้รบ และครอบครัวทหารที่มีความพิการ274คน นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้เชิญชวนให้สถานประกอบการมีการจ้างงานผู้พิการและใช้สิทธิตามมาตรา 35 การจ้างผู้พิการทำงานที่บ้าน รวมถึงส่งเสริมให้มีการจ้างานผู้สูงอายุ เนื่องจากในปี 2578 ประเทศไทยจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุแบบเข้มข้น อีกทั้งยังให้กรมการจัดหางานผลักดันโครงการนี้ให้เห็นผลสัมฤทธิ์และขยายสู่ทุกภาคของประเทศด้วย สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ได้มีการจัดกิจกรรม การจ้างงานคนพิการและผู้สูงอายุ ต้นแบบการจ้างงานและส่งเสริมอาชีพให้แก่ทหารที่ปลดประจำการจากความพิการในการสู้รบและครอบครัวทหารที่มีความพิการ การถ่ายทอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการเกษตรให้คนพิการและผู้สูงอายุได้นำไปใช้ในการประกอบอาชีพ การฝึกอบรมหลักสูตรการเลี้ยงไก่ การเพาะเห็ดเศรษฐกิจ และการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ รวมถึงการมอบอุปกรณ์และวัสดุในการประกอบอาชีพให้แก่ทหารที่ปลดประจำการจากความพิการในการสู้รบและครอบครัวทหารที่มีความพิการ ขอบคุณ... http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1480483338
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)