ไอเดียดี! รถตัดผมเคลื่อนที่ เดลิเวอรี่ถึงหน้าบ้านบริการแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ถูกใจลูกค้าโดยเฉพาะ “ผู้ป่วย-ผู้สูงอายุ”
รถตัดผมเคลื่อนที่ Sxissors barber truck เกิดขึ้นจากการที่ต้องหยุดหน้าร้านชั่วคราวเพราะโควิด-19 ระบาดหนัก แต่ต้องหาวิธีรับมือและหนทางสร้างรายได้ เมื่อสามารถเข้าร้านตัดผมได้แต่ต้องเว้นระยะห่างอยู่นั้น เจ้าของร้านจึงตัดสินใจเปิดร้านตัดผมเป็น Barber truck เพื่อจะได้บริการลูกค้าได้โดยไม่ต้องออกไปที่ร้านเอง แต่ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับแรก เปิดมาประมาณเกือบ 2 ปีผลตอบรับค่อนข้างดี ลูกค้าหลักคือลูกค้ากลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
นายศักดิ์ศิริ จุลกะเศียน เจ้าของร้านตัดผมเคลื่อนที่ Sxissors barber truck เล่าว่า จุดเริ่มต้นในการเปิดร้านตัดผมเคลื่อนที่นั้นเริ่มต้นจากเดิมทีตนเปิดร้านตัดผมอยู่ก่อนหน้า แต่พอมีโควิด-19 เข้ามารัฐบาลจึงมีนโยบายสั่งห้ามให้เข้าร้านตัดผมในช่วงที่โควิดระบาดหนัก ทำให้ผู้ประกอบการร้านตัดผมอย่างตนได้รับผลกระทบค่อนข้างหนัก เพราะเป็นอาชีพที่หาเลี้ยงตนเองและครอบครัว ต่อมาตนจึงเกิดแนวคิดการทำรถตัดผมเคลื่อนที่ขึ้นมา เพื่อที่จะสะดวกต่อการหาลูกค้าและเพื่อให้มีรายได้
หลังจากนั้นเริ่มตัดผมแบบเดลิเวอรี่ นำอุปกรณ์ตัดผมไปตัดให้กับลูกค้าถึงบ้านแต่ผลตอบรับไม่ค่อยดีนัก เพราะยังจัดการกับระบบและจัดสรรเวลาได้ไม่ค่อยดีนัก ทำได้ประมาณ 1 เดือนจึงได้ตัดสินใจซื้อรถและเริ่มต้นทำรถตัดผมเคลื่อนที่ในช่วงโควิดระลอกที่ 2 ซึ่งลักษณะของรถตัดผมนั้นจะเป็นลักษณะเดียวกันกับรถ Food truck แต่นำมาดัดแปลงให้เป็นรถ Barber truck มีอุปกรณ์ครบพร้อมติดเครื่องปรับอากาศอีกด้วย ปัจจุบันดำเนินธุรกิจมาได้ประมาณเกือบ 2 ปี
ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าที่ทางร้านตั้งเป้าไว้ในตอนแรกคือกลุ่มลูกค้าทั่วไปรวมถึงเด็กที่หวาดกลัวกับโควิด-19 ไม่สะดวกไปตัดที่ร้าน แต่สิ่งที่เกินความคาดหมายคือลูกค้าที่มีอาการป่วย ผู้สูงอายุ คนพิการที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ญาติไม่สะดวกพาไปตัดที่ร้าน ซึ่งเป็น 80% ของลูกค้าทั้งหมดที่ใช้บริการตัดผมกับทางร้าน เนื่องจากเวลาที่รถตัดผมเคลื่อนที่จะไปตัดผมให้ลูกค้านั้นมีความสะดวกและปลอดภัยต่อผู้ตัด
จุดเด่นและความพิเศษของรถ Barber truck ของทางร้านนั้นจะมีความพิเศษคือ มีเก้าอี้สำหรับตัดผมเพียง 1 ตัว โดยทั่วไปร้านตัดผมจะมีทั้งหมด 2 ตัว แต่ทางร้านทำเพียง 1 ตัว เนื่องจากต้องการให้ลูกค้าได้รู้สึกถึงความพิเศษและเอ็กซ์คลูซีฟที่ได้เข้ามาตัดผมกับทางร้าน และลดการแออัด พร้อมทำความสะอาดทุกครั้งหลังตัด โดยจะฉีดพ่นฆ่าเชื้อทิ้งไว้ 15 นาทีก่อนรับลูกค้าคนต่อไป รวมถึงเปลี่ยนผ้าคลุมทุกครั้งเมื่อใช้เสร็จ 1 ผืนต่อ 1 คน ส่วนอุปกรณ์ตัดผมทางร้านจะมีตู้อบฆ่าเชื้อยูวีโดยเฉพาะ ปัจจุบันสามารถรับลูกค้าได้วันละ 10 คิว แต่เคยรับสูงสุด 17 คิว นอกจากนี้ Sxissors barber truck จะรับตัดเฉพาะผู้ชายเท่านั้น
สำหรับกลยุทธ์และเทคนิคในการทำการตลาดนั้นทางร้านให้ข้อมูลว่า นำเอาความปลอดภัยเสนอต่อลูกค้า ความสะดวกสบายและราคาที่สามารถเข้าถึงได้ ทำให้ผลตอบรับจากลูกค้านั้นอยู่ในระดับที่ดี โดยได้มีการจัดสรรเวลาและสถานที่ในการให้บริการลูกค้าเป็นโซน ป้องกันการเกิดปัญหาตามมาทีหลัง เนื่องจากการกำหนดโซนพื้นที่ในการบริการจะสะดวกและง่ายต่อการจัดการ เพราะในช่วงแรกทางร้านมีปัญหาเรื่องนี้จึงได้ปรับและวางแผนการบริการใหม่โดยให้บริการเป็นโซนในแต่ละวัน ทำให้ผลตอบรับดีและมีลูกค้าประจำค่อนข้างเยอะพอสมควร
ทั้งนี้ในการตัดผมลูกค้าจะจองคิวล่วงหน้าประมาณ 1-2 วันเป็นส่วนมาก และมีที่ประจำคือ เดอะ สตรีท รัชดา ในวันพฤหัสบดีถึงวันอาทิตย์ เวลา 17:00-00:00 น. และในช่วงเช้าจะวิ่งตามบ้านคน ส่วนตอนเย็นจะไปจอดที่ เดอะ สตรีท รัชดา แต่ในวันจันทร์ถึงวันพุธจะวิ่งเฉพาะตามบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่จะไปโซนลาดพร้าว รามอินทรา และอื่นๆ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 200 บาท ในระยะ 5 กิโลฯ ปัจจุบันรถตัดผมเคลื่อนที่ยังคงมีเพียง 1 สาขา และมีโรงเรียนสอนตัดผม รวมถึงหน้าร้านทั้งหมด 2 สาขาที่ระยองและ รังสิต ปทุมธานี
ในส่วนของทรงผมนั้นส่วนมากลูกค้าจะชื่นชอบตัดทรงทูบล็อค (Two Block) เพราะเป็นทรงที่เรียบง่ายและเป็นที่นิยมในช่วงนี้ แต่ในช่วงที่โควิดระบาดลูกค้าจะตัดสั้นเกรียน เนื่องจากไม่ต้องการตัดบ่อยเพราะกลัวเรื่องโรคระบาด แต่ในปัจจุบันโควิดเริ่มเบาบางก็เริ่มไว้ยาวและตัดทรงแฟชั่นมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้เจ้าของร้านรู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสะดวกสบายทั้งกายและใจให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ รวมถึงผู้สูงอายุ ที่ในบางครั้งเวลาจะตัดผมต้องอาศัยญาติพาไปตัดที่ร้าน ซึ่งร้านตัดผมทั่วไปนั้นก็มีลูกค้าคนอื่นๆ อาจจะไม่สะดวกต่อผู้ป่วยนัก หรือในบางครั้งญาติไม่สามารถพาไปตัดที่ร้านได้หรือตัดกันเองที่บ้าน แต่พอมีรถตัดผมเคลื่อนที่ของทางร้านไปบริการทำให้เกิดความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ทำให้ทั้งช่างตัดผมและลูกค้ามีความสุขเพิ่มมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามในอนาคตทางร้านได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจให้ไปในทิศทางของการทำกลุ่มจิตอาสาที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุ โดยจะไปตัดผมให้ลูกค้าตามโรงพยาบาล สถานรับเลี้ยงต่างๆ ไปช่วยทำการกุศล เนื่องจากเจ้าของร้านให้เหตุผลว่า “ยิ่งทำยิ่งไปเจอยิ่งรู้สึกสงสาร” ทำให้เกิดโครงการกลุ่มจิตอาสาขึ้นมา รวมถึงวางแผนเพิ่มรถ Barber truck อีกหนึ่งคัน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง