พท.จี้เลือกตั้งต่อคาดได้276สส.กกต.อ้างทำยากกาบัตรพร้อมสว.

แสดงความคิดเห็น

โลโก้ พรรคเพื่อไทย

ปธ.กกต.นัดประชุม 5 เสือ ชี้จัดเลือกตั้งส.ส.ในภาคใต้ "ประวิช"ตั้งเป้าคนใช้สิทธิ์กาส.ว. 70% "จารุพงศ์" ซัดขบวนการจ้องล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ อิงพลังมวลชนเสื้อแดงสู้ตามกรอบประชาธิปไตย ยันรัฐบาลนั่งรักษาการจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ ชมนายกฯอดทนอดกลั้น ย้ำเลือกตั้งคือทางออกประเทศ "เด็จพี่" เย้ยม็อบเทือกไม่ต่างอีเวนต์รายวัน นับวันยิ่งหมดมุข "นพดล" จี้กกต.เร่งจัดเลือกตั้งส.ส.ให้แล้วเสร็จ ดีเดย์กาส.ส.ทดแทนเดือนเมษาฯช้าไป คาดเพื่อไทยซิว 276 ส.ส.ไม่รวมปาร์ตี้ลิสต์ ปชป.จี้นายกฯเร่งคืนเก้าอี้เลขาฯสมช.ให้ถวิล เลิกอ้าง 45 วันไม่พอหวังยื้อเวลาชี้3สถานะพิการทั้งรัฐบาล-นายกฯ-เลือกตั้ง

จารุพงศ์ซัดขบวนการล้มรัฐบาล เมื่อวันที่ 9 มี.ค. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่หลายหน่วยงานรวมทั้งองค์กรอิสระยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วินิจฉัยสถานภาพรัฐบาลรักษาการว่า ทำกันเป็นขบวนการเพื่อจ้องล้มรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเรารู้มานานแล้วแต่คงจะไม่ง่ายนัก เพราะเราก็มีมวลชนจำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงที่หนุนหลังรัฐบาลและ พรรคเพื่อไทยอยู่ เพราะคนเสื้อแดงรู้ว่าความยุติธรรมค่อยๆ เหือดหายไปจากแผ่นดินไทย ดังนั้น เราจะหันหลังพิงมวลชนต่อสู้ตามกรอบรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ไม่ใช้วิธีการนอกรัฐธรรมนูญนอกระบบความยุติธรรมเหมือนฝ่ายตรงข้าม ยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้จะยังรักษาการต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา เพราะไม่อย่างนั้นเราจะเป็นฝ่ายกระทำการขัดรัฐธรรมนูญเสียเอง ต้องขอชมนายกฯ ที่อดทนอดกลั้นต่อสถานการณ์การเมืองที่ขัดแย้งอยู่ในขณะนี้ เพราะนายกฯคงรู้ว่าหากตัดสินใจทำอะไรลงไปสักอย่างบ้านเมืองคงจะฉิบหายแน่ๆ

เลือกตั้งเท่านั้นทางออกปัญหา "หลายประเทศทั่วโลกที่เกิดปัญหาความขัดแย้งกระทั่งเกิดสงครามกลางเมือง มีประชาชนบาดเจ็บล้มตาย แต่สุดท้ายเรื่องจะจบลงที่การเจรจาและเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง ขณะที่ความขัดแย้งในบ้านเราทั้งบาดลึกและขยายวงกว้างมากขึ้นเพราะมีเงื่อนไข ที่ต่างฝ่ายต่างรับกันไม่ได้ ต้องรอให้เหตุการณ์ไปจบที่การใช้ความรุนแรงก่อนหรือ ทำไมเราไม่ไปจบที่การเลือกตั้งซึ่งเป็นวิถีทางตามระบอบประชาธิปไตย ผมยืนยันว่าสุดท้ายแล้วทาง ออกของประเทศคือต้องมีการเลือกตั้ง แต่น่าเสียใจที่ฝ่ายตรงข้ามยังมืดบอดด้วยทิฐิอยู่"นายจารุพงศ์กล่าว

เด็จพี่เย้ยเทือกจัดอีเวนต์รายวัน ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เตรียมจัดเวทีปฏิรูปในวันที่ 10 มี.ค.นี้ว่า ไม่ต่างจากการจัดอีเวนต์รายวัน นายสุเทพกับพวกอ้างจัดเวทีปฏิรูปโดยอ้างมวลมหาประชาชนนั้นเป็นเพียงข้ออ้าง ที่พยายามหนีคดี หนีหมายจับของศาลอาญา จากการตรวจสอบพบว่าศาลอาญาออกหมายจับนายสุเทพเป็นคดีที่ 3 แล้ว น่าจะกำลังอ้างการปฏิรูปบังหน้า ดังนั้น ก่อนจะปฏิรูปการเมือง กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม หรือจะสร้างความเป็นธรรมให้สังคมนายสุเทพต้องทำตัวเป็นแบบอย่าง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยมอบตัวสู้คดี ไม่อย่างนั้นจะเป็นแค่ปาหี่ทางการเมืองเป็นผู้นำทางการเมืองที่ไม่ดี

ม็อบหมดมุข-รุมกินโต๊ะรัฐบาล โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีที่มีขบวนการล้มรัฐบาลลักษณะชัตดาวน์ปิดฉากรัฐบาล รักษาการ นับตั้งแต่การขวางการเลือกตั้งไปจนถึงการร้องศาลรัฐธรรมนูญว่า เชื่อว่าเคลื่อนไหวกันเป็นขบวนการ ทั้งกปปส. สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ กลุ่ม 40 ส.ว.และนักวิชาการที่พยายามร้องผู้ตรวจการแผ่นดินฯ เหมือนรุมกินโต๊ะรัฐบาล ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยตรวจสอบกรณีที่นายสุเทพไปร้องศาลนั้น หากจะตีความเข้าข้างตัวเองก็ได้ แต่รัฐธรรมนูญมาตรา 127 ไม่มีผลกำหนดทางกฎหมายใดๆ จึงไม่ได้ส่งผลให้รัฐบาลนี้สิ้นสภาพไปดังนั้นเหมือนม็อบหมดมุขแล้ว

นายพร้อมพงศ์กล่าวถึงกรณีที่ผู้ตรวจการ แผ่นดินนำคำร้องของนายกิตติพงศ์ กมลธรรมวงศ์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหา วิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เสนอคำร้องให้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.เป็นโมฆะว่า รู้สึกแปลกใจและเมื่อไปตรวจสอบพบว่านายกิตติพงศ์น่าจะเชื่อมโยงกับฝ่ายตรง ข้ามรัฐบาล อยากถามนายกิตติพงศ์ว่าเป็นการใช้สิทธิโดยสุจริตหรือไม่ ส่วนกรณีที่ผู้ตรวจการฯ แถลงมติว่าจะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้เพิกถอนการเลือกตั้ง โดยอ้างมาตรา 245 (1) นั้น จากการตรวจสอบคาดว่าผู้ตรวจการฯ เข้าใจผิดเพราะเสนอได้เพียงกรณีเดียว คือกรณีที่กฎหมายใดขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเท่านั้น ดังนั้น ผู้ตรวจการฯ ไม่มีอำนาจส่งเรื่องและน่าจะเป็นเรื่องตกม้าตาย

จี้มาร์คขับเทือกและพวกพ้นปชป. นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า กรณีที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้ กกต.ชะลอการเลือกตั้งออกไปก่อนจากกรณีที่ผู้ตรวจการฯ กำลังจะยื่นเรื่องต่อศาลนั้น แทนที่จะไปเรียกร้องนายสุเทพว่าอย่าขัดขวางการเลือกตั้ง กลับเรียกร้องทุกฝ่ายชะลอการเลือกตั้งหากการเลือกตั้งเป็นโมฆะขอถามนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ว่าใครเป็นต้นเหตุ ก็คือนายสุเทพและพวก ดังนั้น หากนายอภิสิทธิ์และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จริงใจ ขอให้ขับนายสุเทพและแกนนำ กปปส.ที่เป็นอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ออกจากความเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ หากไม่กล้าเท่ากับปกป้องพวกเดียวกันเล่นการเมืองสองหน้าหรือไม่

ดันกาส.ส.ทดแทนพร้อมส.ว. โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.บริหารกิจการเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ถึงการสัมมนาที่ จ.สงขลา โดยระบุว่าเสียงส่วนใหญ่ไม่อยากให้มีการเลือกตั้งต่อว่า ทราบว่าหลายฝ่ายอยากให้จัดการเลือกตั้งยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี เพื่อแก้ปัญหาสุญญากาศและการดำเนินการแก้ไขปัญหา ทั้งเรื่องภัยแล้ง การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ หาก กกต.จัดการเลือกตั้งช้าออกไปยิ่งจะกระทบกับการบริหารราชการแผ่นดิน ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายโดยเฉพาะการรับสมัครส.ว.ก็ไม่มีปัญหาอะไร ในการประชุมของ กกต.วันที่ 11 มี.ค.นี้ขอให้ กกต.จัดการเลือกตั้งส.ส.ที่เหลือไปพร้อมกับส.ว. เพราะจากการตรวจสอบ ผู้สมัครส.ว.ในภาคใต้ พบว่ามีพี่ชายน้องชายและน้องสาวนักการเมืองอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งมีแกนนำกปปส.ในภาคใต้เชื่อว่าจะไม่เกิดการขัดขวาง

นพดลชี้ดีเดย์กาส.ส.ใต้นานไป นาย นพดล ปัทมะ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ กกต.มีแนวคิดว่าจะเลือกตั้ง 3 จังหวัดภาคใต้วันที่ 5 เม.ย และ 6 จังหวัดภาคใต้ในวันที่ 27 เม.ย.นั้น ตนรู้สึกว่านานเกินไปเพราะขณะนี้สถานการณ์เป็นปกติ อยากเห็น กกต.เพิ่มความมุ่งมั่นและพยายามจัดการเลือกตั้งให้เสร็จโดยเร็ว เพราะประเทศต้องมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหาร อนุมัติงบประมาณ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การปล่อยให้การเลือกตั้งนานออกไปอีกเกือบ 2 เดือนทำให้ประเทศถูกเว้นวรรคนานเกินไป เพราะ กกต.จัดการเลือกตั้งสำเร็จไปแล้ว 332 เขต เท่ากับร้อยละ 88.53 ตอนนี้เหลือเพียง 43 เขตหรือร้อยละ 11.47 เท่านั้น

คาดซิว276สส.ไม่รวมปาร์ตี้ลิสต์ นาย นพดลกล่าวว่า จากรายงานและการประเมินข้อมูลผู้สมัครที่รายงานมาในแต่ละเขตที่จัดเลือกตั้ง เสร็จไปแล้ว 332 เขต พรรคเพื่อไทยคาดว่าจะได้ 276 ที่นั่งบวกลบ โดยยังไม่รวมส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ อย่างไรก็ตามตัวเลขที่แท้จริงต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการจากกกต.อีก ครั้ง และการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาไม่มีเหตุทางกฎหมายที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ กรณีที่คณะ ผู้ตรวจการแผ่นดินจะยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรม นูญให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 245 (1) นั้น มาตรานี้เปิดช่องให้เฉพาะการยื่นเรื่องให้ศาลตัดสินว่ากฎหมายใดขัดกับรัฐ ธรรมนูญหรือไม่เท่านั้น การจัดการเลือกตั้งเป็นการกระทำ ไม่ใช่กฎหมาย ผู้ตรวจการฯ จึงไม่สามารถใช้มาตรานี้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญได้ และถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินอย่างเที่ยงธรรมก็คงไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการฯในครั้งนี้

ปชป.จี้เร่งคืนเลขาฯสมช.ให้ถวิล ที่ พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าศาลปกครองจะบังคับให้รัฐบาลคืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่ง ชาติ (สมช.) แก่นายถวิล เปลี่ยนศรี ภายในเวลา 45 วันไม่ได้ และขั้นตอนตามกฎหมายไม่สามารถทำทันว่า รัฐบาลควรเป็นตัวอย่างที่ดีในการเคารพกระบวนการยุติธรรมและ คำตัดสินของศาล รวมทั้งยึดมั่นในระบบคุณธรรม ไม่ควรออกมาท้าทายอำนาจศาล ส่วนที่ระบุว่าเวลา 45 วันไม่เพียงพอต่อการคืนตำแหน่งให้นายถวิล อยากให้รัฐบาลทบทวนว่าตอนเอานายถวิลออกจากตำแหน่งเลขาธิการ สมช.รัฐบาลใช้เวลากี่วัน ขณะนั้นรัฐบาลมุ่งหวังที่จะเอาพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ มาเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ซึ่งต้องเอาพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ออกจากตำแหน่ง จึงต้องหาตำแหน่งในระดับเดียวกันให้ จึงต้องเอานายถวิลออกแล้วให้พล.ต.อ.วิเชียรมานั่งในตำแหน่งเลขาธิการสมช.แทน

45วันไม่พอแค่ข้ออ้างยื้อเวลา รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า "จะเห็นว่าตามขั้นตอนไม่ได้ใช้เวลานาน แต่วันนี้กลับบอกว่าเวลา 45 วันอาจไม่พอ น่าจะเป็นข้ออ้างและเป็นความพยายามยื้อไม่ให้นายถวิลกลับมาทำหน้าที่ เลขาธิการ สมช.ได้อีกต่อไปมากกว่า เป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง ขอเรียกร้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ปล่อยให้การดำเนินการเรื่องนี้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลปกครอง ไม่ควรปล่อยให้มีขบวนการใดๆ ยื้อเวลาออกไป วันนี้รัฐบาลควรสำนึกว่าได้ใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้องใช้ดุลยพินิจไม่ชอบมาแล้ว"

บ้านเมืองเข้าสู่สถานะพิกลพิการนายองอาจ กล่าวต่อว่า ขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองกำลังเดินหน้าเข้าสู่สถานะความพิกลพิการหลายเรื่อง ขณะที่นายกฯ ไม่ได้รู้สึกอะไรปล่อยให้สถานการณ์เดินหน้า ความพิกลพิการแรกคือ 1.รัฐบาลพิการ เห็นได้ชัดว่าขณะนี้มีความพยายามให้วินิจฉัยจากกรณีที่มีการ กระทำหรืองดเว้นการกระทำซึ่งให้ได้มาด้วยอำนาจที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่สามารถเปิดประชุมสภา ตามมาตรา 127 ได้ภายใน 30 วัน และไม่สามารถเลือกนายกฯ ได้ภายใน 30 วัน ตามมาตรา 172 รัฐบาลจึงมีแนวโน้มไม่สามารถอยู่ในสถานะได้อีกต่อไป 2.นายกฯ พิการ เกิดจากการที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังตรวจสอบนายกฯ เรื่องการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ถ้าถูกชี้มูลจะเป็นนายกฯ ที่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ และไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ทั้งสิ้น และ 3.การเลือกตั้งพิการ สืบเนื่องจากการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมามีแนวโน้มจะเป็นโมฆะ เหตุเพราะการดำเนินการเลือกตั้งไม่สุจริต มีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเช่นไม่จัดเลือกตั้งในวันเดียว

นายองอาจ กล่าวว่า ความพิการทั้ง 3 ประ การจะยุติได้ขึ้นอยู่ความเป็นผู้นำของนายกฯ แต่นายกฯ กลับปล่อยให้สถานการณ์บ้านเมืองเดินหน้าเข้าสู่ความพิการโดยไม่พยายามหา ทางออกอย่างแท้จริง แม้จะแสดงจุดยืนหลายครั้งว่าพยายามแสวงหาทางออก แต่เมื่อพิจารณาแล้วจะพบว่าสิ่งที่นายกฯ พยายามหาทางออกคือการหาทางออกของรัฐบาลมากกว่าส่วนรวม วันนี้ถ้านายกฯ ยังมีจิตสำนึกอย่าปล่อยให้สิ่งต่างๆ เหล่านี้ดำรงต่อไป ควรตัดสินใจให้ประเทศเดินหน้าเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

ย้ำรัฐบาลเลิกเป็นนอมินีแม้ว นายองอาจ กล่าวตอบโต้นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยยื่นเงื่อนไขเจรจากับฝ่ายตรงข้ามว่า นายนพดลรู้อยู่แก่ใจดีว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาพ.ต.ท. ทักษิณยื่นเงื่อนไขเจรจาอะไรกับใครบ้าง พฤติกรรมของพ.ต.ท.ทักษิณตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเมื่อไหร่ก็ตามที่ตัวเอง และคณะเพลี่ยงพล้ำทางการเมืองมักจะมีเงื่อนไขเปิดการเจรจาหรือเงื่อนไขที่จะ ทำให้ตนเองหลุดพ้นจากการเสียเปรียบทางการเมือง แต่เมื่อใดที่รู้สึกตัวเองได้เปรียบพ.ต.ท.ทักษิณจะเบี่ยงประเด็น เปลี่ยนรูปแบบการเจรจาหรือเปลี่ยนวิธีการเพื่อให้ตัวเองคงสถานะความได้ เปรียบ

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวด้วยว่า ไม่เคยได้ยินว่านายอภิสิทธิ์จะไปเจรจากับพ.ต.ท.ทักษิณเช่นกัน เพราะนายอภิสิทธิ์คงไม่ไปเจรจากับนักโทษหนีคดี และหากทบทวนเชื่อว่าคนที่พร้อมเจรจาเพื่อประโยชน์สุขของบ้านเมืองคือนาย อภิสิทธิ์ สมัยเป็นนายกฯ ที่พร้อมเจรจากับใครก็ได้ให้บ้านเมืองสงบ เช่น ปี"53 ที่นายอภิสิทธิ์พร้อมเจรจากับบุคคลที่เชื่อว่าจะทำให้ปัญหายุติลง โดยไม่คำนึงว่าคนๆ นั้นจะมีเครดิตหรือไม่ก็ตาม ในอนาคตเชื่อว่าถ้ารัฐบาลรู้สึกตัวเองเพลี่ยงพล้ำทางการเมืองรัฐบาลคงหาหน ทางเจรจา แต่รัฐบาลไม่ควรทำตัวเป็นนอมินีพ.ต.ท.ทักษิณในการเจรจา ไม่เช่นนั้นความสำเร็จในการเจรจาใดๆ เพื่อบ้านเมืองจะเป็นได้ยาก เพราะพ.ต.ท.ทักษิณคงนึกถึงประโยชน์ของตนมากกว่าบ้านเมือง

กกต.จับมือกศน.ตั้งศูนย์ปชต. ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดประชุมชี้แจงแนวทางการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยและการเลือก ตั้งตำบล รวมทั้งมีการลงนามบันทึกความร่วมมือจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวระหว่างนายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาฯ กกต. และนายประเสริฐ บุญเรือง เลขาฯสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.)

นาย ประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่ากกต.ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาเยาวชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ให้มีความรู้เกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย จึงประสานความร่วมมือกับกศน.จัดตั้งศูนย์ดังกล่าวเพื่อให้มีพลเมืองอาสา สร้างจิตสำนึกให้ประชาชน ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) วันที่ 30 มี.ค.นี้ กกต.จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ตระหนักถึงสิทธิหน้าที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง และสนับสนุนให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม

ตั้งเป้าคนใช้สิทธิ์กาส.ว.70% นาย ประวิชให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมถึงจำนวนผู้สมัครส.ว.ซึ่งปิดรับสมัคร เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า หากเปรียบเทียบจำนวนผู้สมัครในปีนี้จะพบว่ามีผู้สมัครจำนวนน้อยกว่าการเลือก ตั้งเมื่อปี 51 ร้อยละ 10 แต่ในทุกจังหวัดก็มีตัวเลือกให้ประชาชนในการเลือกตั้งอย่างมีเสรีภาพ ทั้งนี้การที่มีผู้มาสมัคร น้อยไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับสถานการณ์การเมือง แม้จะมีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุที่ผู้สมัครน้อยเพราะกลัวการเลือกตั้ง ส.ว.สะดุดเหมือนการเลือกตั้งส.ส. ซึ่งกระบวนการเลือกตั้งส.ว. จนถึงวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งในเรื่องอุปกรณ์ สถานที่ และกรรมการประจำหน่วย เชื่อว่าการเลือกตั้งส.ว.ในครั้งนี้จะไม่มีการขัดขวาง มั่นใจว่าวันที่ 30 มี.ค. ประชาชนจะออกมาใช้สิทธิ์อย่างเต็มที่ และหวังว่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 เนื่องจากการเลือกตั้งส.ว.ปี"51 มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ร้อยละ 56 และการเลือกตั้งส.ส. เมื่อปี"54 มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ร้อยละ75

ไม่หวั่นถูกร้องโมฆะเลือกตั้งส.ส. ต่อข้อถามถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.เป็นโมฆะหรือไม่ นายประวิชกล่าวว่ากกต.ไม่กังวลว่าจะถูกร้องว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ เราทำงานเต็มที่และไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยออกมาทางใดกกต.ก็พร้อม ดำเนินการตาม ส่วนที่เรียกร้องให้จัดลงคะแนนส.ส.ทดแทนส่วนที่เหลือในวันเดียวกันกับการ เลือกตั้ง ส.ว.นั้น ต้องขอฟังการประเมินในที่ประชุมกกต.วันที่ 11 มี.ค.นี้ โดยมองว่าข้อมูลในพื้นที่มีน้ำหนักมากพอในการพิจารณา แต่ยอมรับว่ากกต.ยังมีความเห็นต่างกันในประเด็นดังกล่าว

กกต.เร่งสอบคุณสมบัติผู้สมัครส.ว. เวลา 17.30 น. วันเดียวกัน ที่โรงแรมเดอะกรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. กล่าวถึงการรับสมัครส.ว.ว่า ภาพรวมการรับสมัครเป็นไปด้วยความเรียบ ร้อย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครซึ่งมีการยื่นร้องเรียนเข้ามา ในเรื่องคุณสมบัติผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งนายกอบจ. รองนายกอบจ. ที่ลาออกเพื่อมาลงสมัคร ส.ว.ยังไม่ถึง 5 ปี อาจขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 115 (9) กกต.จะขอเวลาตรวจสอบคุณสมบัติให้เร็วที่สุด เพราะหากตรวจสอบแล้วผู้สมัครขาดคุณสมบัติสามารถไปยื่นร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดี เลือกตั้งได้ อย่างไรก็ตามคาดว่าการเลือกตั้งส.ว.ในวันที่ 30 มี.ค.จะไม่มีปัญหาอะไรเพราะทุกฝ่ายก็เห็นด้วยกับการเลือกตั้งส.ว.ขอให้ผู้สมัครดำเนินการในกรอบกฎหมาย

รอถกกกต. 11 มี.ค.เคาะกาส.ส. นาย ศุภชัยกล่าวต่อว่า ในการประชุมกกต.วันที่ 11 มี.ค. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง จะนำข้อหารือที่ได้จากการประชุมระหว่างผู้แทนพรรค การเมืองและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องใน 14 จังหวัดภาคใต้เมื่อวันที่ 7 มี.ค.มาหารือข้อสรุปกำหนดวันลงคะแนนเลือกตั้งใหม่ คาดว่าวันลงคะแนนเลือกตั้งใหม่จะมีขึ้นเร็วที่สุดในวันที่ 5 เม.ย. ส่วนข้อเสนอของพรรคการเมืองที่ขอให้จัดวันลงคะแนนเลือกตั้งในวันที่ 30 มี.ค.พร้อมการเลือกตั้งส.ว.นั้นคงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากอยากให้การเลือกตั้งส.ว.แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย

"ใน ส่วนของกรุงเทพฯ น่าจะจัดการเลือกตั้งได้โดยเร็ว เพราะถึงแม้จะมีการชุมนุมแต่ไม่ใช่จุดที่เป็นปัญหา กกต.จะพยายามจัดการเลือกตั้งในกรุงเทพฯ ให้เต็มที่ ก่อนหน้านี้กกต.เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองมาลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาการ จัดการเลือกตั้งใน 14 จังหวัดภาคใต้แล้ว ไม่ใช่ว่ากกต.ไม่อยากจัดการเลือกตั้ง แต่ติดตรงที่ยังมีปัญหาจึงทำให้การเลือกตั้งไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จ"ประธานกกต.กล่าว

ยันกกต.ไม่ล้วงลูกโผทหารแน่ นาย ศุภชัยยังกล่าวถึงกรณีที่กระทรวงกลาโหมส่งโผการโยกย้ายนายทหารมาให้กกต.เห็น ชอบว่า ส่งมาแล้วบางส่วน แต่โผโยกย้ายนายทหารระดับนายพลยังไม่ได้ส่งมา เราต้องขอดูรายละเอียดอย่างรอบคอบและดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว การพิจารณาจะดำเนินไปตามขั้นตอนที่กฎหมายให้อำนาจไว้ แต่หากมีการร้องเรียนเข้ามาในเรื่องการโยกย้ายไม่เป็นธรรมคงต้องตรวจสอบต่อ ไป แต่ยืนยันว่ากกต.จะไม่ล้วงลูกโผทหารแน่นอน

ประชุมสื่อแจงแนวทางเลือกตั้งส.ว. ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดประชุมชี้แจงสื่อมวลชนเพื่อเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งส.ว.ในวันที่ 30 มี.ค. โดยร.ต.วันชัย ใจกุศล รองผอ. สำนักงานบริหารการเลือกตั้ง กล่าวตอนหนึ่งว่าครอบครัวนักการเมืองจะมีการวางตัวบุคคลในครอบครัวไว้ในการ เมืองระดับต่างๆ ในบรรดาผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ว.ครั้งนี้มีส่วนหนึ่งเป็นนักการเมืองท้อง ถิ่น อาทิ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล มาลงสมัครส.ว. ประมาณ 10 คน ต้องตีความว่าตำแหน่งทั้ง 2 ถือเป็นตำแหน่งทางการเมืองที่อยู่ในข่ายคุณสมบัติต้องห้ามลงสมัครส.ว.หรือ ไม่ หากตนเป็นกกต.เขต จะไม่รับรองคุณสมบัติให้บุคคลเหล่านี้ เพื่อให้เขายื่นศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งชี้ขาดเพื่อความชัดเจน เพราะหากรับรองคุณสมบัติไปแล้วอาจมีปัญหาภายหลัง ขอแนะนำให้กกต.เขตเร่งประกาศรายชื่อผู้สมัครที่ผ่านการรับรองคุณสมบัติโดย เร็ว อย่าปล่อยให้ถึงวันสุดท้ายคือวันที่ 15 มี.ค. เพื่อเผื่อเวลากรณีผู้ที่ไม่ได้รับการประกาศชื่อจะได้มีเวลายื่นเรื่องให้ ศาลฎีกาพิจารณา โดยเฉพาะรองนายกอบจ. หรือรองนายกอบต.ที่ยังมี ข้อถกเถียงอยู่ จะได้เกิดบรรทัดฐานเรื่องคุณสมบัติผู้สมัครแบบเดียวกันทั่วประเทศ

ขอบคุณ... http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU5EUXhOVGMzTXc9PQ== (ขนาดไฟล์: 167)

ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 10 มี.ค.57

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 10 มี.ค.57
วันที่โพสต์: 10/03/2557 เวลา 04:09:56 ดูภาพสไลด์โชว์  พท.จี้เลือกตั้งต่อคาดได้276สส.กกต.อ้างทำยากกาบัตรพร้อมสว.

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

โลโก้ พรรคเพื่อไทย ปธ.กกต.นัดประชุม 5 เสือ ชี้จัดเลือกตั้งส.ส.ในภาคใต้ "ประวิช"ตั้งเป้าคนใช้สิทธิ์กาส.ว. 70% "จารุพงศ์" ซัดขบวนการจ้องล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ อิงพลังมวลชนเสื้อแดงสู้ตามกรอบประชาธิปไตย ยันรัฐบาลนั่งรักษาการจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ ชมนายกฯอดทนอดกลั้น ย้ำเลือกตั้งคือทางออกประเทศ "เด็จพี่" เย้ยม็อบเทือกไม่ต่างอีเวนต์รายวัน นับวันยิ่งหมดมุข "นพดล" จี้กกต.เร่งจัดเลือกตั้งส.ส.ให้แล้วเสร็จ ดีเดย์กาส.ส.ทดแทนเดือนเมษาฯช้าไป คาดเพื่อไทยซิว 276 ส.ส.ไม่รวมปาร์ตี้ลิสต์ ปชป.จี้นายกฯเร่งคืนเก้าอี้เลขาฯสมช.ให้ถวิล เลิกอ้าง 45 วันไม่พอหวังยื้อเวลาชี้3สถานะพิการทั้งรัฐบาล-นายกฯ-เลือกตั้ง จารุพงศ์ซัดขบวนการล้มรัฐบาล เมื่อวันที่ 9 มี.ค. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่หลายหน่วยงานรวมทั้งองค์กรอิสระยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วินิจฉัยสถานภาพรัฐบาลรักษาการว่า ทำกันเป็นขบวนการเพื่อจ้องล้มรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเรารู้มานานแล้วแต่คงจะไม่ง่ายนัก เพราะเราก็มีมวลชนจำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงที่หนุนหลังรัฐบาลและ พรรคเพื่อไทยอยู่ เพราะคนเสื้อแดงรู้ว่าความยุติธรรมค่อยๆ เหือดหายไปจากแผ่นดินไทย ดังนั้น เราจะหันหลังพิงมวลชนต่อสู้ตามกรอบรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ไม่ใช้วิธีการนอกรัฐธรรมนูญนอกระบบความยุติธรรมเหมือนฝ่ายตรงข้าม ยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้จะยังรักษาการต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา เพราะไม่อย่างนั้นเราจะเป็นฝ่ายกระทำการขัดรัฐธรรมนูญเสียเอง ต้องขอชมนายกฯ ที่อดทนอดกลั้นต่อสถานการณ์การเมืองที่ขัดแย้งอยู่ในขณะนี้ เพราะนายกฯคงรู้ว่าหากตัดสินใจทำอะไรลงไปสักอย่างบ้านเมืองคงจะฉิบหายแน่ๆ เลือกตั้งเท่านั้นทางออกปัญหา "หลายประเทศทั่วโลกที่เกิดปัญหาความขัดแย้งกระทั่งเกิดสงครามกลางเมือง มีประชาชนบาดเจ็บล้มตาย แต่สุดท้ายเรื่องจะจบลงที่การเจรจาและเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง ขณะที่ความขัดแย้งในบ้านเราทั้งบาดลึกและขยายวงกว้างมากขึ้นเพราะมีเงื่อนไข ที่ต่างฝ่ายต่างรับกันไม่ได้ ต้องรอให้เหตุการณ์ไปจบที่การใช้ความรุนแรงก่อนหรือ ทำไมเราไม่ไปจบที่การเลือกตั้งซึ่งเป็นวิถีทางตามระบอบประชาธิปไตย ผมยืนยันว่าสุดท้ายแล้วทาง ออกของประเทศคือต้องมีการเลือกตั้ง แต่น่าเสียใจที่ฝ่ายตรงข้ามยังมืดบอดด้วยทิฐิอยู่"นายจารุพงศ์กล่าว เด็จพี่เย้ยเทือกจัดอีเวนต์รายวัน ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เตรียมจัดเวทีปฏิรูปในวันที่ 10 มี.ค.นี้ว่า ไม่ต่างจากการจัดอีเวนต์รายวัน นายสุเทพกับพวกอ้างจัดเวทีปฏิรูปโดยอ้างมวลมหาประชาชนนั้นเป็นเพียงข้ออ้าง ที่พยายามหนีคดี หนีหมายจับของศาลอาญา จากการตรวจสอบพบว่าศาลอาญาออกหมายจับนายสุเทพเป็นคดีที่ 3 แล้ว น่าจะกำลังอ้างการปฏิรูปบังหน้า ดังนั้น ก่อนจะปฏิรูปการเมือง กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม หรือจะสร้างความเป็นธรรมให้สังคมนายสุเทพต้องทำตัวเป็นแบบอย่าง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยมอบตัวสู้คดี ไม่อย่างนั้นจะเป็นแค่ปาหี่ทางการเมืองเป็นผู้นำทางการเมืองที่ไม่ดี ม็อบหมดมุข-รุมกินโต๊ะรัฐบาล โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีที่มีขบวนการล้มรัฐบาลลักษณะชัตดาวน์ปิดฉากรัฐบาล รักษาการ นับตั้งแต่การขวางการเลือกตั้งไปจนถึงการร้องศาลรัฐธรรมนูญว่า เชื่อว่าเคลื่อนไหวกันเป็นขบวนการ ทั้งกปปส. สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ กลุ่ม 40 ส.ว.และนักวิชาการที่พยายามร้องผู้ตรวจการแผ่นดินฯ เหมือนรุมกินโต๊ะรัฐบาล ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยตรวจสอบกรณีที่นายสุเทพไปร้องศาลนั้น หากจะตีความเข้าข้างตัวเองก็ได้ แต่รัฐธรรมนูญมาตรา 127 ไม่มีผลกำหนดทางกฎหมายใดๆ จึงไม่ได้ส่งผลให้รัฐบาลนี้สิ้นสภาพไปดังนั้นเหมือนม็อบหมดมุขแล้ว นายพร้อมพงศ์กล่าวถึงกรณีที่ผู้ตรวจการ แผ่นดินนำคำร้องของนายกิตติพงศ์ กมลธรรมวงศ์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหา วิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เสนอคำร้องให้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.เป็นโมฆะว่า รู้สึกแปลกใจและเมื่อไปตรวจสอบพบว่านายกิตติพงศ์น่าจะเชื่อมโยงกับฝ่ายตรง ข้ามรัฐบาล อยากถามนายกิตติพงศ์ว่าเป็นการใช้สิทธิโดยสุจริตหรือไม่ ส่วนกรณีที่ผู้ตรวจการฯ แถลงมติว่าจะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้เพิกถอนการเลือกตั้ง โดยอ้างมาตรา 245 (1) นั้น จากการตรวจสอบคาดว่าผู้ตรวจการฯ เข้าใจผิดเพราะเสนอได้เพียงกรณีเดียว คือกรณีที่กฎหมายใดขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเท่านั้น ดังนั้น ผู้ตรวจการฯ ไม่มีอำนาจส่งเรื่องและน่าจะเป็นเรื่องตกม้าตาย จี้มาร์คขับเทือกและพวกพ้นปชป. นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า กรณีที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้ กกต.ชะลอการเลือกตั้งออกไปก่อนจากกรณีที่ผู้ตรวจการฯ กำลังจะยื่นเรื่องต่อศาลนั้น แทนที่จะไปเรียกร้องนายสุเทพว่าอย่าขัดขวางการเลือกตั้ง กลับเรียกร้องทุกฝ่ายชะลอการเลือกตั้งหากการเลือกตั้งเป็นโมฆะขอถามนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ว่าใครเป็นต้นเหตุ ก็คือนายสุเทพและพวก ดังนั้น หากนายอภิสิทธิ์และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จริงใจ ขอให้ขับนายสุเทพและแกนนำ กปปส.ที่เป็นอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ออกจากความเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ หากไม่กล้าเท่ากับปกป้องพวกเดียวกันเล่นการเมืองสองหน้าหรือไม่ ดันกาส.ส.ทดแทนพร้อมส.ว. โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.บริหารกิจการเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ถึงการสัมมนาที่ จ.สงขลา โดยระบุว่าเสียงส่วนใหญ่ไม่อยากให้มีการเลือกตั้งต่อว่า ทราบว่าหลายฝ่ายอยากให้จัดการเลือกตั้งยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี เพื่อแก้ปัญหาสุญญากาศและการดำเนินการแก้ไขปัญหา ทั้งเรื่องภัยแล้ง การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ หาก กกต.จัดการเลือกตั้งช้าออกไปยิ่งจะกระทบกับการบริหารราชการแผ่นดิน ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายโดยเฉพาะการรับสมัครส.ว.ก็ไม่มีปัญหาอะไร ในการประชุมของ กกต.วันที่ 11 มี.ค.นี้ขอให้ กกต.จัดการเลือกตั้งส.ส.ที่เหลือไปพร้อมกับส.ว. เพราะจากการตรวจสอบ ผู้สมัครส.ว.ในภาคใต้ พบว่ามีพี่ชายน้องชายและน้องสาวนักการเมืองอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งมีแกนนำกปปส.ในภาคใต้เชื่อว่าจะไม่เกิดการขัดขวาง นพดลชี้ดีเดย์กาส.ส.ใต้นานไป นาย นพดล ปัทมะ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ กกต.มีแนวคิดว่าจะเลือกตั้ง 3 จังหวัดภาคใต้วันที่ 5 เม.ย และ 6 จังหวัดภาคใต้ในวันที่ 27 เม.ย.นั้น ตนรู้สึกว่านานเกินไปเพราะขณะนี้สถานการณ์เป็นปกติ อยากเห็น กกต.เพิ่มความมุ่งมั่นและพยายามจัดการเลือกตั้งให้เสร็จโดยเร็ว เพราะประเทศต้องมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหาร อนุมัติงบประมาณ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การปล่อยให้การเลือกตั้งนานออกไปอีกเกือบ 2 เดือนทำให้ประเทศถูกเว้นวรรคนานเกินไป เพราะ กกต.จัดการเลือกตั้งสำเร็จไปแล้ว 332 เขต เท่ากับร้อยละ 88.53 ตอนนี้เหลือเพียง 43 เขตหรือร้อยละ 11.47 เท่านั้น คาดซิว276สส.ไม่รวมปาร์ตี้ลิสต์ นาย นพดลกล่าวว่า จากรายงานและการประเมินข้อมูลผู้สมัครที่รายงานมาในแต่ละเขตที่จัดเลือกตั้ง เสร็จไปแล้ว 332 เขต พรรคเพื่อไทยคาดว่าจะได้ 276 ที่นั่งบวกลบ โดยยังไม่รวมส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ อย่างไรก็ตามตัวเลขที่แท้จริงต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการจากกกต.อีก ครั้ง และการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาไม่มีเหตุทางกฎหมายที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ กรณีที่คณะ ผู้ตรวจการแผ่นดินจะยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรม นูญให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 245 (1) นั้น มาตรานี้เปิดช่องให้เฉพาะการยื่นเรื่องให้ศาลตัดสินว่ากฎหมายใดขัดกับรัฐ ธรรมนูญหรือไม่เท่านั้น การจัดการเลือกตั้งเป็นการกระทำ ไม่ใช่กฎหมาย ผู้ตรวจการฯ จึงไม่สามารถใช้มาตรานี้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญได้ และถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินอย่างเที่ยงธรรมก็คงไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการฯในครั้งนี้ ปชป.จี้เร่งคืนเลขาฯสมช.ให้ถวิล ที่ พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าศาลปกครองจะบังคับให้รัฐบาลคืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่ง ชาติ (สมช.) แก่นายถวิล เปลี่ยนศรี ภายในเวลา 45 วันไม่ได้ และขั้นตอนตามกฎหมายไม่สามารถทำทันว่า รัฐบาลควรเป็นตัวอย่างที่ดีในการเคารพกระบวนการยุติธรรมและ คำตัดสินของศาล รวมทั้งยึดมั่นในระบบคุณธรรม ไม่ควรออกมาท้าทายอำนาจศาล ส่วนที่ระบุว่าเวลา 45 วันไม่เพียงพอต่อการคืนตำแหน่งให้นายถวิล

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...