ปฏิรูปประเทศไทย ผ่า!ทางตันการเมือง

แสดงความคิดเห็น

ศ.นพ.ประเวศ วะสี อดีตประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป ศ.นพ.ประเวศ วะสี อดีตประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป ได้นำเสนอเรื่องปฏิรูปประเทศไทยให้ได้ผลจริงตอนหนึ่งว่า...ปัญหาของประเทศ ไทยในขณะนี้ ส่วนใหญ่คือ “การขาดความเป็นธรรม” และ “ความเหลื่อมล้ำในสังคม” ทั้ง 2 ปัญหานี้ เกิดจากปัญหาทางโครงสร้างทั้งสิ้น หากเราไม่ทำความเข้าใจใน 3 โครงสร้างใหญ่ โครงสร้างอำนาจ โครงสร้างสังคม โครงสร้างการจัดสรรทรัพยากร...การปฏิรูปประเทศไทยจะไม่เกิดผลสำเร็จ เพื่อ สนับสนุนรัฐบาลและกลุ่มต่างๆ ในการปฏิรูปประเทศไทย ศ.นพ.ประเวศ สะท้อนว่า ประเทศไทยมีทรัพยากรมากกว่าสวิตเซอร์แลนด์ เรามีแผ่นดินที่กว้างใหญ่กว่า มีความหลากหลายทางชีวภาพมากกว่า มีทรัพยากรทั้งบนดินและในทะเลมากกว่า เรามีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากกว่า

“เรามีทุนทางศาสนธรรมมากกว่า นอกจากนั้นเราก็ยังมีทุนทางสังคม ทุนภาครัฐ ทุนภาคธุรกิจ ทุนภาคการสื่อสาร และอื่นๆ ซึ่งรวมกันแล้วมากเกินพอที่จะสร้างประเทศไทยที่น่าอยู่” แต่...คนไทยไม่เคยมีวัตถุประสงค์ร่วมกัน มีแต่วัตถุประสงค์แยกย่อยของแต่ละบุคคล ของแต่ละกลุ่ม แต่ละพวก แต่ละพรรค แต่ละองค์กร แต่ละสถาบัน จึงทอนกำลังกันเอง ไม่เป็นพละกำลังร่วมกันของชาติที่จะสร้างประเทศไทยน่าอยู่

มวลมหาประชาชนประท้วงขับไล่รัฐบาล นายกยิ่งลักษณ์ “ถ้า คนไทยมีวัตถุประสงค์ร่วมกันได้เมื่อใด ก็จะเกิดพลังมหาศาลที่จะเอาชนะอุปสรรคทั้งปวง บรรลุความเจริญอย่างแท้จริง สร้างประเทศไทยที่น่าอยู่ที่สุดได้” การจะมีวัตถุประสงค์ร่วมกันได้วัตถุประสงค์นั้น “ต้องใหญ่กว่าตัวตน” การปฏิรูปประเทศไทยนั้นเป็นการเปลี่ยนโจทย์ที่เลยความเป็นตัวตน อาจจะมีการไม่รักกัน แต่ไม่มีใครไม่รักประเทศไทย ไม่มีใครไม่อยากให้ลูกหลานของเราอยู่ร่วมกันด้วยความสุขบนดินแดนของ บรรพบุรุษแห่งนี้

ช่วงเวลาที่ผ่านมา...การที่รัฐบาลพูดถึงการปฏิรูป ทำให้การปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปประเทศไทยเป็นประเด็นทางการเมือง และเกิดกระแสความสนใจ คนไทยควรใช้เป็นโอกาสที่จะช่วยกันคิดช่วยกันทำ เพื่อทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากวิกฤตการณ์เรื้อรัง ไปสู่การพัฒนาในระนาบใหม่ ที่นำไปสู่ความเจริญอย่างแท้จริง

ศ.นพ.ประเวศ ย้ำไปแล้วหลายครั้งในประเด็น “ประเทศไทยที่ดีที่สุดในจินตนาการของท่าน” ...จินตนาการจะทำให้เกิดพลังเพราะจินตนาการไม่มีข้อจำกัด คนไทยทุกคนควรจะสร้างจินตนาการถึงประเทศไทยที่ดีที่สุด ยังไม่ต้องคิดถึงความเป็นไปได้ จินตนาการอย่างสุดๆ ว่าประเทศไทยที่ดีที่สุดในความฝันของท่านคืออย่างไร “ความฝันยิ่งใหญ่ (Big Dream) ...ยิ่งให้พลัง”

สื่อมวลชน เช่น หนังสือพิมพ์ สถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์ โซเชียลมีเดีย ควรจะช่วยกระตุ้นและรวบรวมความฝันของคนไทยจำนวนมากที่สุดที่จะมากได้ ที่ฝันถึงประเทศไทยที่ดีที่สุดว่าเป็นอย่างไร อาทิ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสันติสุข มีเศรษฐกิจดี สังคมดี การเมืองดี สิ่งแวดล้อมดี

ที่ว่า...“เศรษฐกิจดี” นั้นต้องกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม ไม่มีความเหลื่อมล้ำมากเกิน ที่ว่า...“สังคมดี” นั้นคือสังคมมีความเข้มแข็งไม่ทอดทิ้งกัน สามารถแก้ความขัดแย้งด้วยสันติวิธี มีความยุติธรรมและความเป็นธรรม ที่ว่า...“การเมืองดี” นั้นคือ มีประชาธิปไตยที่มีคุณภาพ และสมรรถภาพ

ที่ ว่า...“สิ่งแวดล้อมดี” นั้นคือมีความเป็นป่าอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ เพื่อให้ธรรมชาติได้ดุล น้ำไม่ท่วม ไม่แห้งแล้ง สิ่งแวดล้อมไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อสุขภาพของประชาชน มีการจัดการการใช้ทรัพยากรอย่างเป็นธรรม ยั่งยืน มีการสังเคราะห์จัดหมวดหมู่ของประเทศไทยที่ดีที่สุด

มวลมหาประชาชนประท้วงขับไล่รัฐบาล นายกยิ่งลักษณ์ นี่ คือเป้าหมายประเทศไทยที่คนทั้งหมดสร้างร่วมกัน จารึกเป้าหมายประเทศไทยด้วยศิลปะแขนงต่างๆ ทั้งจิตรกรรม ประติมากรรม วรรณกรรม กวีนิพนธ์ ให้คนไทยจำขึ้นใจทั่วกัน ร่วมกันขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายอันสูงส่งที่ร่วมกันสร้าง

กระบวน การถัดมาก็คือ... ปฏิรูปวิธีคิดและจิตสำนึกเพื่อปฏิรูปประเทศไทยให้สำเร็จ ศ.นพ.ประเวศ บอกว่า ประเทศไทยพยายามปฏิรูปมาหลายครั้งแล้ว ภายในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา เกิดความรุนแรงก็หลายครั้งและปริ่มๆ จะเกิดมิคสัญญีกลียุคก็มี

“ถ้า จะปฏิรูปประเทศไทยให้สำเร็จต้องปฏิรูปวิธีคิดและจิตสำนึก การคิดแบบตายตัวนำไปสู่การแยกส่วนและสุดโต่ง คิดเป็นเขาเป็นเราคิดเป็นดำเป็นขาว คิดเป็นข้าศึกศัตรู จะต้องต่อสู้ทำลายกัน เราอยู่ในโหมดการต่อสู้ทำลายกันไปมา ทำให้เกิดความรุนแรงและไม่สามารถร่วมมือกัน บ้านเมืองชะงักงันหรือถอยหลัง...”

คนยุโรปก็เป็นผู้นำการคิดแบบแยก ส่วนตายตัว ทำให้ประวัติศาสตร์ของยุโรปเต็มไปด้วยสงคราม เหลียวมามองพุทธศาสนาปฏิเสธการคิดแบบตายตัวและแยกส่วนสุดโต่ง ปฐมเทศนาพระพุทธองค์ตรัสว่า “ส่วนสุดทั้งสองภิกษุไม่ควรเสพ” เป็นที่มาของการตรัสเรื่องทางสายกลางหรือมัชฌิมาปฏิปทา

พุทธศาสนามอง ว่าสรรพสิ่งเป็นกระแสของเหตุปัจจัยหนุนเนื่อง ไม่มีอะไรดำรงอยู่โดยเอกเทศตายตัว ไม่แยกข้างแยกขั้ว ตามนัยนี้ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนมนุษย์ที่เกิดแก่เจ็บตายร่วมกัน ควรมีความเมตตาต่อกัน และกัน มีความเป็นกัลยาณมิตรกัน

“จิตสำนึกที่ เล็ก คับแคบทำให้เกิดความบีบคั้นทั้งในตนเองกับผู้อื่น นำไปสู่ความขัดแย้ง ความจริงมนุษย์ทั้งหมด...ธรรมชาติทั้งหมดล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน

ม็อบเสื้อแดง การมีจิตสำนึกใหญ่ที่เข้าถึงความเป็นหนึ่งเดียวของทั้งหมดจะทำให้หลุดพ้นจากความบีบคั้น พบอิสรภาพ ความสุขเกิดความรักอันไพศาลต่อเพื่อนมนุษย์...ธรรมชาติทั้งหมด อันเป็นไปเพื่อการอยู่ร่วมกันด้วยสันติ” ศ.นพ.ประเวศ บอกอีกว่า บนเส้นทางของการปฏิรูป ถ้ามีการปฏิรูปวิธีคิดและจิตสำนึกด้วยจะเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะจะนำไปสู่สันติสุขทั้งในชีวิตและสังคม

ทิศทางการพัฒนาประเทศไทย ...เส้นทางวิกฤติ หรือการพัฒนาอย่างบูรณาการ สมดุล และยั่งยืน ต้องย้ำว่า...การปฏิรูปจะต้องทำให้โครงสร้างต่างๆ มีความถูกต้อง ประเทศมีสมรรถนะ ประดุจการประกอบโครงสร้างรถยนต์ให้ถูกต้อง ให้รถวิ่งได้ดี แต่ไม่ว่าจะประกอบรถยนต์ได้ดีเพียงใด ถ้าทิศทางที่มันวิ่งไปเป็นอันตรายมากจนมันตกภูเขาหรือดิ่งลงทะเล ถึงรถดีเพียงไรก็ไปไม่รอดเหมือนกัน

“ทิศทางการพัฒนาของโลกที่เราก็ เดินตามเขาไปด้วย เป็นทิศทางอันตรายดังที่กำลังเกิดวิกฤตการณ์ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปซึ่ง กำลังลุกลามออกไป การพัฒนาปัจจุบันอยู่บนพื้นฐานการคิดแบบแยกส่วน คือ...เอาเงินเป็นตัวตั้ง อะไรที่คิด...ทำแบบแยกส่วนจะนำไปสู่วิกฤติเสมอ”

ร่างกายเราจะมีความเป็นปกติ...ยั่งยืน เพราะมีการพัฒนาอย่างบูรณาการที่ทุกอวัยวะเชื่อมโยงถึงกันอย่างพอดี ถ้าอวัยวะอย่างใดอย่างหนึ่งเลือกที่จะเติบโตอย่างแยกส่วน นั่นคือการเป็น “มะเร็ง” ทำให้เสียสมดุลของทั้งหมด เกิด “ความไม่ปกติ” คือ...“ป่วย” และ “ความไม่ยั่งยืน” คือ...“ตาย” ศ.นพ.ประเวศ วะสี อดีตประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป กล่าวทิ้งท้าย

ขอบคุณ... http://m.thairath.co.th/content/pol/388822

( ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 13 ธ.ค.56 )

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 13 ธ.ค.56
วันที่โพสต์: 14/12/2556 เวลา 04:17:57 ดูภาพสไลด์โชว์ ปฏิรูปประเทศไทย ผ่า!ทางตันการเมือง

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ศ.นพ.ประเวศ วะสี อดีตประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป ศ.นพ.ประเวศ วะสี อดีตประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป ได้นำเสนอเรื่องปฏิรูปประเทศไทยให้ได้ผลจริงตอนหนึ่งว่า...ปัญหาของประเทศ ไทยในขณะนี้ ส่วนใหญ่คือ “การขาดความเป็นธรรม” และ “ความเหลื่อมล้ำในสังคม” ทั้ง 2 ปัญหานี้ เกิดจากปัญหาทางโครงสร้างทั้งสิ้น หากเราไม่ทำความเข้าใจใน 3 โครงสร้างใหญ่ โครงสร้างอำนาจ โครงสร้างสังคม โครงสร้างการจัดสรรทรัพยากร...การปฏิรูปประเทศไทยจะไม่เกิดผลสำเร็จ เพื่อ สนับสนุนรัฐบาลและกลุ่มต่างๆ ในการปฏิรูปประเทศไทย ศ.นพ.ประเวศ สะท้อนว่า ประเทศไทยมีทรัพยากรมากกว่าสวิตเซอร์แลนด์ เรามีแผ่นดินที่กว้างใหญ่กว่า มีความหลากหลายทางชีวภาพมากกว่า มีทรัพยากรทั้งบนดินและในทะเลมากกว่า เรามีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากกว่า “เรามีทุนทางศาสนธรรมมากกว่า นอกจากนั้นเราก็ยังมีทุนทางสังคม ทุนภาครัฐ ทุนภาคธุรกิจ ทุนภาคการสื่อสาร และอื่นๆ ซึ่งรวมกันแล้วมากเกินพอที่จะสร้างประเทศไทยที่น่าอยู่” แต่...คนไทยไม่เคยมีวัตถุประสงค์ร่วมกัน มีแต่วัตถุประสงค์แยกย่อยของแต่ละบุคคล ของแต่ละกลุ่ม แต่ละพวก แต่ละพรรค แต่ละองค์กร แต่ละสถาบัน จึงทอนกำลังกันเอง ไม่เป็นพละกำลังร่วมกันของชาติที่จะสร้างประเทศไทยน่าอยู่ มวลมหาประชาชนประท้วงขับไล่รัฐบาล นายกยิ่งลักษณ์ “ถ้า คนไทยมีวัตถุประสงค์ร่วมกันได้เมื่อใด ก็จะเกิดพลังมหาศาลที่จะเอาชนะอุปสรรคทั้งปวง บรรลุความเจริญอย่างแท้จริง สร้างประเทศไทยที่น่าอยู่ที่สุดได้” การจะมีวัตถุประสงค์ร่วมกันได้วัตถุประสงค์นั้น “ต้องใหญ่กว่าตัวตน” การปฏิรูปประเทศไทยนั้นเป็นการเปลี่ยนโจทย์ที่เลยความเป็นตัวตน อาจจะมีการไม่รักกัน แต่ไม่มีใครไม่รักประเทศไทย ไม่มีใครไม่อยากให้ลูกหลานของเราอยู่ร่วมกันด้วยความสุขบนดินแดนของ บรรพบุรุษแห่งนี้ ช่วงเวลาที่ผ่านมา...การที่รัฐบาลพูดถึงการปฏิรูป ทำให้การปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปประเทศไทยเป็นประเด็นทางการเมือง และเกิดกระแสความสนใจ คนไทยควรใช้เป็นโอกาสที่จะช่วยกันคิดช่วยกันทำ เพื่อทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากวิกฤตการณ์เรื้อรัง ไปสู่การพัฒนาในระนาบใหม่ ที่นำไปสู่ความเจริญอย่างแท้จริง ศ.นพ.ประเวศ ย้ำไปแล้วหลายครั้งในประเด็น “ประเทศไทยที่ดีที่สุดในจินตนาการของท่าน” ...จินตนาการจะทำให้เกิดพลังเพราะจินตนาการไม่มีข้อจำกัด คนไทยทุกคนควรจะสร้างจินตนาการถึงประเทศไทยที่ดีที่สุด ยังไม่ต้องคิดถึงความเป็นไปได้ จินตนาการอย่างสุดๆ ว่าประเทศไทยที่ดีที่สุดในความฝันของท่านคืออย่างไร “ความฝันยิ่งใหญ่ (Big Dream) ...ยิ่งให้พลัง” สื่อมวลชน เช่น หนังสือพิมพ์ สถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์ โซเชียลมีเดีย ควรจะช่วยกระตุ้นและรวบรวมความฝันของคนไทยจำนวนมากที่สุดที่จะมากได้ ที่ฝันถึงประเทศไทยที่ดีที่สุดว่าเป็นอย่างไร อาทิ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสันติสุข มีเศรษฐกิจดี สังคมดี การเมืองดี สิ่งแวดล้อมดี ที่ว่า...“เศรษฐกิจดี” นั้นต้องกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม ไม่มีความเหลื่อมล้ำมากเกิน ที่ว่า...“สังคมดี” นั้นคือสังคมมีความเข้มแข็งไม่ทอดทิ้งกัน สามารถแก้ความขัดแย้งด้วยสันติวิธี มีความยุติธรรมและความเป็นธรรม ที่ว่า...“การเมืองดี” นั้นคือ มีประชาธิปไตยที่มีคุณภาพ และสมรรถภาพ ที่ ว่า...“สิ่งแวดล้อมดี” นั้นคือมีความเป็นป่าอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ เพื่อให้ธรรมชาติได้ดุล น้ำไม่ท่วม ไม่แห้งแล้ง สิ่งแวดล้อมไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อสุขภาพของประชาชน มีการจัดการการใช้ทรัพยากรอย่างเป็นธรรม ยั่งยืน มีการสังเคราะห์จัดหมวดหมู่ของประเทศไทยที่ดีที่สุด มวลมหาประชาชนประท้วงขับไล่รัฐบาล นายกยิ่งลักษณ์ นี่ คือเป้าหมายประเทศไทยที่คนทั้งหมดสร้างร่วมกัน จารึกเป้าหมายประเทศไทยด้วยศิลปะแขนงต่างๆ ทั้งจิตรกรรม ประติมากรรม วรรณกรรม กวีนิพนธ์ ให้คนไทยจำขึ้นใจทั่วกัน ร่วมกันขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายอันสูงส่งที่ร่วมกันสร้าง กระบวน การถัดมาก็คือ... ปฏิรูปวิธีคิดและจิตสำนึกเพื่อปฏิรูปประเทศไทยให้สำเร็จ ศ.นพ.ประเวศ บอกว่า ประเทศไทยพยายามปฏิรูปมาหลายครั้งแล้ว ภายในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา เกิดความรุนแรงก็หลายครั้งและปริ่มๆ จะเกิดมิคสัญญีกลียุคก็มี “ถ้า จะปฏิรูปประเทศไทยให้สำเร็จต้องปฏิรูปวิธีคิดและจิตสำนึก การคิดแบบตายตัวนำไปสู่การแยกส่วนและสุดโต่ง คิดเป็นเขาเป็นเราคิดเป็นดำเป็นขาว คิดเป็นข้าศึกศัตรู จะต้องต่อสู้ทำลายกัน เราอยู่ในโหมดการต่อสู้ทำลายกันไปมา ทำให้เกิดความรุนแรงและไม่สามารถร่วมมือกัน บ้านเมืองชะงักงันหรือถอยหลัง...” คนยุโรปก็เป็นผู้นำการคิดแบบแยก ส่วนตายตัว ทำให้ประวัติศาสตร์ของยุโรปเต็มไปด้วยสงคราม เหลียวมามองพุทธศาสนาปฏิเสธการคิดแบบตายตัวและแยกส่วนสุดโต่ง ปฐมเทศนาพระพุทธองค์ตรัสว่า “ส่วนสุดทั้งสองภิกษุไม่ควรเสพ” เป็นที่มาของการตรัสเรื่องทางสายกลางหรือมัชฌิมาปฏิปทา พุทธศาสนามอง ว่าสรรพสิ่งเป็นกระแสของเหตุปัจจัยหนุนเนื่อง ไม่มีอะไรดำรงอยู่โดยเอกเทศตายตัว ไม่แยกข้างแยกขั้ว ตามนัยนี้ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนมนุษย์ที่เกิดแก่เจ็บตายร่วมกัน ควรมีความเมตตาต่อกัน และกัน มีความเป็นกัลยาณมิตรกัน “จิตสำนึกที่ เล็ก คับแคบทำให้เกิดความบีบคั้นทั้งในตนเองกับผู้อื่น นำไปสู่ความขัดแย้ง ความจริงมนุษย์ทั้งหมด...ธรรมชาติทั้งหมดล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน ม็อบเสื้อแดง การมีจิตสำนึกใหญ่ที่เข้าถึงความเป็นหนึ่งเดียวของทั้งหมดจะทำให้หลุดพ้นจากความบีบคั้น พบอิสรภาพ ความสุขเกิดความรักอันไพศาลต่อเพื่อนมนุษย์...ธรรมชาติทั้งหมด อันเป็นไปเพื่อการอยู่ร่วมกันด้วยสันติ” ศ.นพ.ประเวศ บอกอีกว่า บนเส้นทางของการปฏิรูป ถ้ามีการปฏิรูปวิธีคิดและจิตสำนึกด้วยจะเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะจะนำไปสู่สันติสุขทั้งในชีวิตและสังคม ทิศทางการพัฒนาประเทศไทย ...เส้นทางวิกฤติ หรือการพัฒนาอย่างบูรณาการ สมดุล และยั่งยืน ต้องย้ำว่า...การปฏิรูปจะต้องทำให้โครงสร้างต่างๆ มีความถูกต้อง ประเทศมีสมรรถนะ ประดุจการประกอบโครงสร้างรถยนต์ให้ถูกต้อง ให้รถวิ่งได้ดี แต่ไม่ว่าจะประกอบรถยนต์ได้ดีเพียงใด ถ้าทิศทางที่มันวิ่งไปเป็นอันตรายมากจนมันตกภูเขาหรือดิ่งลงทะเล ถึงรถดีเพียงไรก็ไปไม่รอดเหมือนกัน “ทิศทางการพัฒนาของโลกที่เราก็ เดินตามเขาไปด้วย เป็นทิศทางอันตรายดังที่กำลังเกิดวิกฤตการณ์ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปซึ่ง กำลังลุกลามออกไป การพัฒนาปัจจุบันอยู่บนพื้นฐานการคิดแบบแยกส่วน คือ...เอาเงินเป็นตัวตั้ง อะไรที่คิด...ทำแบบแยกส่วนจะนำไปสู่วิกฤติเสมอ” ร่างกายเราจะมีความเป็นปกติ...ยั่งยืน เพราะมีการพัฒนาอย่างบูรณาการที่ทุกอวัยวะเชื่อมโยงถึงกันอย่างพอดี ถ้าอวัยวะอย่างใดอย่างหนึ่งเลือกที่จะเติบโตอย่างแยกส่วน นั่นคือการเป็น “มะเร็ง” ทำให้เสียสมดุลของทั้งหมด เกิด “ความไม่ปกติ” คือ...“ป่วย” และ “ความไม่ยั่งยืน” คือ...“ตาย” ศ.นพ.ประเวศ วะสี อดีตประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป กล่าวทิ้งท้าย ขอบคุณ... http://m.thairath.co.th/content/pol/388822 ( ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 13 ธ.ค.56 )

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...