สาธารณสุขสหรัฐชี้เด็กอเมริกัน 20% มีปัญหาสุขภาพจิต
สถิติโดยหน่วยงานด้านสาธารณสุขสหรัฐพบว่า 1 ใน 5 ของเยาวชนในประเทศ กำลังมีอาการป่วยที่เกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ว่า หนึ่งในหน่วยงานด้านสาธารณสุขของสหรัฐชี้ 1 ใน 5 ของเยาวชนอเมริกัน กำลังมีอาการป่วยที่เกี่ยวเนื่องกับสภาพจิตใจ และจำนวนผู้ป่วยยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย
ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค ( ซีดีซี ) ของสหรัฐ เผยรายงานอัตราการเจ็บป่วยและอัตราการตายประจำสัปดาห์ ( เอ็มเอ็มดับเบิ้ลยูอาร์ ) รวบรวมข้อมูลจากเยาวชนอเมริกันทั้งชายและหญิง ที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี ระหว่างปี 2548-2554 พบว่า 13-20% ของเด็กอเมริกันมีความผิดปกติทางจิตใจ โดยมีอาการของโรคสมาธิสั้น ( เอดีเอชดี ) มากที่สุด 6.8% รองลงมาคือ ภาวะความประพฤติผิดปกติ 3.5% ตามด้วยโรควิตกกังวล ( 3.0% ) โรคซึมเศร้า 2.1% โรคออทิสติก 1.1% และปิดท้ายด้วยโรค “ทูเร็ตต์” 0.2% ซึ่งก็คืออาการกระตุกของกล้ามเนื้อซ้ำหลายครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ มักเกิดขึ้นควบคู่กับอาการสมาธิสั้น
ทั้งนี้ อาการป่วยดังกล่าวพบในเด็กชายมากกว่าเด็กหญิง นอกจากนี้ ผลจากการทำแบบทดสอบยังบ่งชี้ด้วยว่า เด็กชายมีแนวโน้มฆ่าตัวตายมากกว่า ขณะที่เด็กหญิงมีแนวโน้มจะมีอาการซึมเศร้า หรือเกิดภาวะติดแอลกอฮอล์มากกว่าในอนาคต ซึ่งค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองในการรักษาและดูแลบุตรหลานที่กำลังล้มป่วยด้วย โรคเหล่านี้ มีมูลค่ารวมแล้วมากถึงปีละ 2.47 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 7.28 ล้านล้านบาท )
ดังนั้น เพื่อให้กระบวนการรักษาดำเนินอย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยที่มีอยู่ รวมถึงป้องกันไม่ให้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก ซีดีซีจึงขอแนะนำให้ผู้ปกครองหมั่นสังเกตพฤติกรรมของบุตรหลานอย่างใกล้ชิด หากสัมผัสถึงความผิดปกติให้พาตัวมาพบแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็ว เพื่อรับการรักษาเสียแต่เนิ่นๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ปกครองและตัวเด็กเองเข้าใจถึงอาการป่วยของตัวเองมากขึ้น ด้วย
ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/world/205162 (ขนาดไฟล์: 167)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เด็กชายชาวต่างชาติ สถิติโดยหน่วยงานด้านสาธารณสุขสหรัฐพบว่า 1 ใน 5 ของเยาวชนในประเทศ กำลังมีอาการป่วยที่เกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ว่า หนึ่งในหน่วยงานด้านสาธารณสุขของสหรัฐชี้ 1 ใน 5 ของเยาวชนอเมริกัน กำลังมีอาการป่วยที่เกี่ยวเนื่องกับสภาพจิตใจ และจำนวนผู้ป่วยยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค ( ซีดีซี ) ของสหรัฐ เผยรายงานอัตราการเจ็บป่วยและอัตราการตายประจำสัปดาห์ ( เอ็มเอ็มดับเบิ้ลยูอาร์ ) รวบรวมข้อมูลจากเยาวชนอเมริกันทั้งชายและหญิง ที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี ระหว่างปี 2548-2554 พบว่า 13-20% ของเด็กอเมริกันมีความผิดปกติทางจิตใจ โดยมีอาการของโรคสมาธิสั้น ( เอดีเอชดี ) มากที่สุด 6.8% รองลงมาคือ ภาวะความประพฤติผิดปกติ 3.5% ตามด้วยโรควิตกกังวล ( 3.0% ) โรคซึมเศร้า 2.1% โรคออทิสติก 1.1% และปิดท้ายด้วยโรค “ทูเร็ตต์” 0.2% ซึ่งก็คืออาการกระตุกของกล้ามเนื้อซ้ำหลายครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ มักเกิดขึ้นควบคู่กับอาการสมาธิสั้น ทั้งนี้ อาการป่วยดังกล่าวพบในเด็กชายมากกว่าเด็กหญิง นอกจากนี้ ผลจากการทำแบบทดสอบยังบ่งชี้ด้วยว่า เด็กชายมีแนวโน้มฆ่าตัวตายมากกว่า ขณะที่เด็กหญิงมีแนวโน้มจะมีอาการซึมเศร้า หรือเกิดภาวะติดแอลกอฮอล์มากกว่าในอนาคต ซึ่งค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองในการรักษาและดูแลบุตรหลานที่กำลังล้มป่วยด้วย โรคเหล่านี้ มีมูลค่ารวมแล้วมากถึงปีละ 2.47 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 7.28 ล้านล้านบาท ) ดังนั้น เพื่อให้กระบวนการรักษาดำเนินอย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยที่มีอยู่ รวมถึงป้องกันไม่ให้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก ซีดีซีจึงขอแนะนำให้ผู้ปกครองหมั่นสังเกตพฤติกรรมของบุตรหลานอย่างใกล้ชิด หากสัมผัสถึงความผิดปกติให้พาตัวมาพบแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็ว เพื่อรับการรักษาเสียแต่เนิ่นๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ปกครองและตัวเด็กเองเข้าใจถึงอาการป่วยของตัวเองมากขึ้น ด้วย ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/world/205162
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)