เดินออกจากโลกดวงดาว---เอาใจใส่เด็กออทิสติก
ถ้าท่านเคยสังเกต อาจพบได้ว่าในแต่ละปี สหประชาชาติได้กำหนดวันสำคัญของโลกมากมาย เช่นวันวันที่ 2 กุมภาพันธ์เป็น "วันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โลก" วันที่ 22 มีนาคมเป็น "วันอนุรักษ์แหล่งน้ำโลก" วันที่ 5 มิถุนายนเป็น "วันสิ่งแวดล้อมโลก" วันที่ 11 กรกฎาคมเป็น "วันประชากรโลก" วันที่ 7 กันยายนเป็น "วันสันติภาพสากล" เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมี "วันโรคเบาหวานโลก" "วันโรคเอดส์โลก" สำหรับวันนี้ เราจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับโรคออทิสติกเพราะ เมื่อวันที่ 2 เมษายนเป็น "วันออทิสติกโลก"นั่นเอง
"วันออทิสติกโลก - สังคมพัฒนาไป และวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีก้าวคืบหน้า แต่ทำไมมีโรคแปลกๆ เกิดกับมนุษย์มากยิ่งขึ้น ในสังคมปัจจุบัน โรคอารมณ์แปรปรวนหรือโรคแมเนีย โรคซึมเศร้า ไม่ใช่โรคที่แปลกสำหรับชาวจีนอีกแล้ว เพราะไม่ว่าบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือว่าคนธรรมดา ถ้ามีแรงกดดันมากๆ อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ยากลำบาก หรือแม้ผู้หญิงบางคนคลอดลูกแล้ว ก็จะเป็นโรคซึมเศร้าได้ ส่วนโรคออทิสติก เป็นโรคที่ชาวจีนรู้จักและพบมากขึ้น เพราะเมื่อก่อนอาจเพียงแค่คิดว่าลูกไม่ชอบสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อน ชอบอยู่คนเดียว แต่ปีหลังๆ นี้ มีพ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนมากยิ่งขึ้นสำนึกว่า การไม่ชอบติดต่อกับโลกภายนอก ไม่เพียงแค่เป็นนิสัยใจคอเท่านั้น หากเป็นอาการของโรคชนิดหนึ่งด้วย
ในโลกของกลุ่มเด็กออทิสติก ไม่มีใครคนอื่น พวกเขาเสมือนลูกของดวงดาว อยู่ในโลกอันขนาดเล็กๆ ของตนอย่างโดดเดี่ยวและเงียบเหงา เมื่อทศวรรษปี 1940 ได้พบผู้ป่วยโรคออทิสติกรายแรกของโลก จนถึงปัจจุบัน ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้เป็นโรคนี้ ส่วนองค์กรที่ทำการรักษาและแพทย์ก็ยังไม่สามารถตรวจพบหรือวิจัยยารักษาที่มี ประสิทธิผลได้ วิธีการรักษาที่ดีที่สุดในปัจจุบันก็คือ ในช่วงวัยเด็ก ต้องพยายามฝึกเด็กเหล่านี้ให้มีพฤติกรรมเป็นปกติ และให้พวกเขารับการศึกษาพิเศษเมื่อถึงวัยเรียน เพื่อรักษาอาการไม่ยอมปฏิสัมพันธ์และติดต่อโลกภายนอก
เด็กมักมีโอกาสเกิดโรคออทิสติกได้ภายใน 3 ขวบ - จากข้อมูลที่หามาทราบว่า เด็กๆ มักมีโอกาสเกิดโรคออทิสติกได้ภายใน 36 เดือนหลังคลอด อาการสำคัญคือ ไม่ยอมคุยหรือสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น ไม่สนใจคนอื่นหรือเรื่องอื่น และมีพฤติกรรมแบบเดิมๆหรือซ้ำๆ ในช่วงทารก ไม่สนใจและไม่มีปฏิกิริยาต่อเสียงดัง เสียงแปลกๆ มักหลีกเลี่ยงและไม่สนใจให้ใครกอด ไม่ชอบใกล้ชิดกับคนอื่น และเด็กออทิสติกไม่ติดพ่อแม่ ไม่มีความสนใจกับการคุยหรือเล่นกับเด็กคนอื่น ไม่สามารถเป็นเพื่อนกับเด็กรุ่นเดียวกัน และเมื่อมีความไม่สบายใจหรือถูกทำร้าย ก็บอกไม่เป็น
เมื่อเติบโตขึ้นถึงอายุเข้าเรียน บางคนอาการจะดีขึ้นบ้าง แต่ยังขาดความสนใจที่จะสนทนาหรือสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น แม้บางคนจะยอมคุยกับคนอื่นบ้าง แต่ก็ยังมีปัญหาในรูปแบบการพูดคุยหรือการปฏิสัมพันธ์ และจะไม่เข้าใจสังคม ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่ออารมณ์ของคนอื่น ไม่สามารถปรับตัวเองเพื่อให้สอดคล้องกับสังคม และจนถึงโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ ยังคงไม่สนใจการติดต่อกับคนอื่น และไม่มีความสามารถในการทำงาน จนกระทั่งไม่สามารถหาแฟนและแต่งงานมีครอบครัวของตนเองได้
นอกจากนี้ เด็กเหล่านี้ไม่ชอบของเล่นหรือการละเล่นที่เด็กธรรมดาชอบ กลับชอบเอาสิ่งของแปลกๆ มาเป็นของเล่น เช่นของที่มีรูปกลมๆ เช่นล้อรถ หรือฝาขวด ผูกพันกับสิ่งของอย่างใดอย่างหนึ่งซ้ำๆ เช่นเล่นใบไม้ ผ้าอ้อม และมักชอบทำอะไรเดิมๆ ซ้ำๆ ต้องวางสิ่งของอยู่ในที่เดิม เวลาออกไปนอกบ้านต้องเดินตามเส้นทางเดียว รับประทานอาหารเพียงไม่กี่อย่างเป็นเวลานาน แม้ว่าเด็กออทิสติกมีประมาณ 3 ใน 4 สมองเติบโตช้า แสดงอารมณ์ไม่เป็น ไม่ว่าดีใจหรือทักทายคนที่ชอบ แต่เด็กบางคนอาจมีความสามารถพิเศษในด้านต่างๆ เช่น ดนตรี คณิตศาสตร์ การจำวันเวลา และการท่องจำ
เมื่อปี 2007 สหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 2 เมษายนของทุกปีเป็นวันออทิสติกโลก เพื่อให้ชาวโลกเอาใจใส่ สนใจและให้ความเคารพต่อผู้ป่วยโรคนี้มากขึ้น ปัจจุบัน ทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคออทิสติกประมาณ 70 ล้านคน เป็นโรคร้ายแรงที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุด เด็กที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคออทิสติกมีมากกว่าจำนวนรวมของเด็กที่เป็นโรค เบาหวาน โรคมะเร็งและโรคเอดส์ และเด็กชายออทิสติกมีมากกว่าเด็กหญิง 4 เท่า แม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีวิธีป้องกันและรักษาที่มีประสิทธิผล แต่ถ้าวินิจฉัยและรักษาในระยะต้นๆ จะสามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้นอย่างมีประสิทธิผล ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรสังเกตพฤติกรรมของลูกว่า มีอะไรผิดปกติหรือช้ากว่ากระบวนการพัฒนาตามปกติ ถ้าพบจริงๆ จึงควรไปปรึกษาแพทย์ทันที
ปัจจุบัน จีนมีผู้ป่วยโรคออทิสติกหลายแสนคน แต่โรงพยาบาลที่รักษาโรคนี้มีน้อยมาก โรงเรียนสำหรับเด็กออทิสติกก็มีไม่กี่แห่ง ส่วนใหญ่เป็นองค์กรภาคเอกชน ซึ่งมีประมาณ 500 แห่ง เนื่องจากโรงพยาบาลและแพทย์ยังไม่มียาหรือวิธีการรักษาที่ดี ดังนั้น การฝึกนิสัยในวัยเด็กและให้การศึกษาในช่วงเข้าเรียนจึงเป็นวิธีการที่ดีที่ สุด ปัจจุบัน ในจีนมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง สนใจเด็กออทิสติก หรือเรียกว่าเด็กแห่งดวงดาวมาโดยตลอด พยายามเปิดโลกเล็กๆ ของพวกเขา แม้ว่าทำได้เพียงแค่แง้มๆ เล็กน้อย ก็ยังสามารถทำให้ลมจากภายนอกพัดเข้าสู่ใจเล็กๆ ของเด็กออทิสติกได้บ้าง
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ภาพสามมิติ เด็กเล็กกำลังเดินออกประตูจากโลกดวงดาว ถ้าท่านเคยสังเกต อาจพบได้ว่าในแต่ละปี สหประชาชาติได้กำหนดวันสำคัญของโลกมากมาย เช่นวันวันที่ 2 กุมภาพันธ์เป็น "วันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โลก" วันที่ 22 มีนาคมเป็น "วันอนุรักษ์แหล่งน้ำโลก" วันที่ 5 มิถุนายนเป็น "วันสิ่งแวดล้อมโลก" วันที่ 11 กรกฎาคมเป็น "วันประชากรโลก" วันที่ 7 กันยายนเป็น "วันสันติภาพสากล" เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมี "วันโรคเบาหวานโลก" "วันโรคเอดส์โลก" สำหรับวันนี้ เราจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับโรคออทิสติกเพราะ เมื่อวันที่ 2 เมษายนเป็น "วันออทิสติกโลก"นั่นเอง "วันออทิสติกโลก - สังคมพัฒนาไป และวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีก้าวคืบหน้า แต่ทำไมมีโรคแปลกๆ เกิดกับมนุษย์มากยิ่งขึ้น ในสังคมปัจจุบัน โรคอารมณ์แปรปรวนหรือโรคแมเนีย โรคซึมเศร้า ไม่ใช่โรคที่แปลกสำหรับชาวจีนอีกแล้ว เพราะไม่ว่าบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือว่าคนธรรมดา ถ้ามีแรงกดดันมากๆ อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ยากลำบาก หรือแม้ผู้หญิงบางคนคลอดลูกแล้ว ก็จะเป็นโรคซึมเศร้าได้ ส่วนโรคออทิสติก เป็นโรคที่ชาวจีนรู้จักและพบมากขึ้น เพราะเมื่อก่อนอาจเพียงแค่คิดว่าลูกไม่ชอบสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อน ชอบอยู่คนเดียว แต่ปีหลังๆ นี้ มีพ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนมากยิ่งขึ้นสำนึกว่า การไม่ชอบติดต่อกับโลกภายนอก ไม่เพียงแค่เป็นนิสัยใจคอเท่านั้น หากเป็นอาการของโรคชนิดหนึ่งด้วย ในโลกของกลุ่มเด็กออทิสติก ไม่มีใครคนอื่น พวกเขาเสมือนลูกของดวงดาว อยู่ในโลกอันขนาดเล็กๆ ของตนอย่างโดดเดี่ยวและเงียบเหงา เมื่อทศวรรษปี 1940 ได้พบผู้ป่วยโรคออทิสติกรายแรกของโลก จนถึงปัจจุบัน ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้เป็นโรคนี้ ส่วนองค์กรที่ทำการรักษาและแพทย์ก็ยังไม่สามารถตรวจพบหรือวิจัยยารักษาที่มี ประสิทธิผลได้ วิธีการรักษาที่ดีที่สุดในปัจจุบันก็คือ ในช่วงวัยเด็ก ต้องพยายามฝึกเด็กเหล่านี้ให้มีพฤติกรรมเป็นปกติ และให้พวกเขารับการศึกษาพิเศษเมื่อถึงวัยเรียน เพื่อรักษาอาการไม่ยอมปฏิสัมพันธ์และติดต่อโลกภายนอก เด็กเล็กปิดตาตัวเอง เด็กมักมีโอกาสเกิดโรคออทิสติกได้ภายใน 3 ขวบ - จากข้อมูลที่หามาทราบว่า เด็กๆ มักมีโอกาสเกิดโรคออทิสติกได้ภายใน 36 เดือนหลังคลอด อาการสำคัญคือ ไม่ยอมคุยหรือสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น ไม่สนใจคนอื่นหรือเรื่องอื่น และมีพฤติกรรมแบบเดิมๆหรือซ้ำๆ ในช่วงทารก ไม่สนใจและไม่มีปฏิกิริยาต่อเสียงดัง เสียงแปลกๆ มักหลีกเลี่ยงและไม่สนใจให้ใครกอด ไม่ชอบใกล้ชิดกับคนอื่น และเด็กออทิสติกไม่ติดพ่อแม่ ไม่มีความสนใจกับการคุยหรือเล่นกับเด็กคนอื่น ไม่สามารถเป็นเพื่อนกับเด็กรุ่นเดียวกัน และเมื่อมีความไม่สบายใจหรือถูกทำร้าย ก็บอกไม่เป็น เมื่อเติบโตขึ้นถึงอายุเข้าเรียน บางคนอาการจะดีขึ้นบ้าง แต่ยังขาดความสนใจที่จะสนทนาหรือสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น แม้บางคนจะยอมคุยกับคนอื่นบ้าง แต่ก็ยังมีปัญหาในรูปแบบการพูดคุยหรือการปฏิสัมพันธ์ และจะไม่เข้าใจสังคม ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่ออารมณ์ของคนอื่น ไม่สามารถปรับตัวเองเพื่อให้สอดคล้องกับสังคม และจนถึงโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ ยังคงไม่สนใจการติดต่อกับคนอื่น และไม่มีความสามารถในการทำงาน จนกระทั่งไม่สามารถหาแฟนและแต่งงานมีครอบครัวของตนเองได้ เด็กชายสวมเสื้อคลุมสีดำเดินกลางถนน ในมือถือตุ๊กตาเด็กทารกนอกจากนี้ เด็กเหล่านี้ไม่ชอบของเล่นหรือการละเล่นที่เด็กธรรมดาชอบ กลับชอบเอาสิ่งของแปลกๆ มาเป็นของเล่น เช่นของที่มีรูปกลมๆ เช่นล้อรถ หรือฝาขวด ผูกพันกับสิ่งของอย่างใดอย่างหนึ่งซ้ำๆ เช่นเล่นใบไม้ ผ้าอ้อม และมักชอบทำอะไรเดิมๆ ซ้ำๆ ต้องวางสิ่งของอยู่ในที่เดิม เวลาออกไปนอกบ้านต้องเดินตามเส้นทางเดียว รับประทานอาหารเพียงไม่กี่อย่างเป็นเวลานาน แม้ว่าเด็กออทิสติกมีประมาณ 3 ใน 4 สมองเติบโตช้า แสดงอารมณ์ไม่เป็น ไม่ว่าดีใจหรือทักทายคนที่ชอบ แต่เด็กบางคนอาจมีความสามารถพิเศษในด้านต่างๆ เช่น ดนตรี คณิตศาสตร์ การจำวันเวลา และการท่องจำ ภาพวาดของเด็กออทิสติกเมื่อปี 2007 สหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 2 เมษายนของทุกปีเป็นวันออทิสติกโลก เพื่อให้ชาวโลกเอาใจใส่ สนใจและให้ความเคารพต่อผู้ป่วยโรคนี้มากขึ้น ปัจจุบัน ทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคออทิสติกประมาณ 70 ล้านคน เป็นโรคร้ายแรงที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุด เด็กที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคออทิสติกมีมากกว่าจำนวนรวมของเด็กที่เป็นโรค เบาหวาน โรคมะเร็งและโรคเอดส์ และเด็กชายออทิสติกมีมากกว่าเด็กหญิง 4 เท่า แม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีวิธีป้องกันและรักษาที่มีประสิทธิผล แต่ถ้าวินิจฉัยและรักษาในระยะต้นๆ จะสามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้นอย่างมีประสิทธิผล ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรสังเกตพฤติกรรมของลูกว่า มีอะไรผิดปกติหรือช้ากว่ากระบวนการพัฒนาตามปกติ ถ้าพบจริงๆ จึงควรไปปรึกษาแพทย์ทันที เด็ก 5 คนร่วมกันกางมือให้เป็นรูปดาวปัจจุบัน จีนมีผู้ป่วยโรคออทิสติกหลายแสนคน แต่โรงพยาบาลที่รักษาโรคนี้มีน้อยมาก โรงเรียนสำหรับเด็กออทิสติกก็มีไม่กี่แห่ง ส่วนใหญ่เป็นองค์กรภาคเอกชน ซึ่งมีประมาณ 500 แห่ง เนื่องจากโรงพยาบาลและแพทย์ยังไม่มียาหรือวิธีการรักษาที่ดี ดังนั้น การฝึกนิสัยในวัยเด็กและให้การศึกษาในช่วงเข้าเรียนจึงเป็นวิธีการที่ดีที่ สุด ปัจจุบัน ในจีนมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง สนใจเด็กออทิสติก หรือเรียกว่าเด็กแห่งดวงดาวมาโดยตลอด พยายามเปิดโลกเล็กๆ ของพวกเขา แม้ว่าทำได้เพียงแค่แง้มๆ เล็กน้อย ก็ยังสามารถทำให้ลมจากภายนอกพัดเข้าสู่ใจเล็กๆ ของเด็กออทิสติกได้บ้าง ขอบคุณ… http://thai.cri.cn/247/2013/05/28/121s210239.html
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)