เรียนรู้ให้เข้าใจ 'เด็ก' 'แอสเพอร์เกอร์' 'อัจฉริยะ' สร้างได้!!

แสดงความคิดเห็น

ภาพวาดการ์ตูน ชาย หญิง และเด็ก

'แอสเพอร์เกอร์' เป็นหนึ่งในความผิดปกติที่อยู่ในกลุ่ม “ออทิสติก” ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนเมื่อได้ยิน 2 คำนี้มาโยงกับ ’เด็ก“ ที่เป็นบุตรหลาน ก็มักกังวลใจสูง เนื่องจากมีความเชื่อฝังใจกับความหมายเชิงลบเกี่ยวกับออทิสติก อย่างไรก็ตาม แอสเพอร์เกอร์นั้น จริง ๆ แล้วสามารถดำเนินชีวิตและประสบความสำเร็จได้ไม่น้อยกว่าคนปกติทั่ว ๆ ไป เพียงแต่...ก็ต้องได้รับการเลี้ยงดูและดูแลช่วยเหลืออย่างถูกวิธีตั้งแต่ในวัยเด็ก

เข้าใจและดูแลช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้อย่างถูกวิธี - เมื่อเด็กเติบโตขึ้นอาจจะเป็น “อัจฉริยะ” ก็ได้!! “มีผู้ป่วยแอสเพอร์เกอร์จำนวนไม่น้อยเลยที่ประสบความสำเร็จในชีวิต และสามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข” ...นี่เป็นส่วนหนึ่งจากการระบุของ พญ.กมลชนก เหล่าชัยศรี จิตแพทย์เด็กประจำ โรงพยาบาลมนารมย์ ซึ่งทางโรงพยาบาลแห่งนี้ได้มีการจัดบรรยายหัวข้อ “เปิดโลกแอสเพอร์เกอร์” ขึ้น เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้สังคมไทย สร้างความรู้ความเข้าใจในการดูแลเด็กกลุ่มนี้อย่างถูกต้องเหมาะสม

ทั้งนี้ ในปัจจุบันยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่า “แอสเพอร์เกอร์” เกิดจากสาเหตุใด แต่ที่แน่ ๆ ไม่ได้เกิดจากการเลี้ยงดู ซึ่งผู้ป่วยแอสเพอร์เกอร์ส่วนใหญ่ก็มีความสามารถทางสติปัญญาในเกณฑ์ปกติ แถม บางรายสติปัญญาในขั้นดีเลิศ อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมผิดปกติของแอสเพอร์เกอร์คือ มีปัญหาด้านพัฒนาการของทักษะทางสังคม ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครอง ครู สามารถจะสังเกตเห็นได้ตั้งแต่วัยเด็ก ในช่วงตั้งแต่เด็กเริ่มหัดพูด

“เด็กที่มีภาวะแอสเพอร์เกอร์จะ ไม่สามารถเข้าใจถึงความรู้สึก ความต้องการของผู้อื่น จึงพูดแต่ในแง่มุมของตัวเอง ซึ่งไม่ใช่ลักษณะการพูดคุยสื่อสารทางสังคมแบบโต้ตอบที่มีลักษณะถ้อยทีถ้อย อาศัย และ มักมีการดำเนินกิจวัตรประจำวันรูปแบบเดิมซ้ำ ๆ ไม่เปลี่ยนแปลง หากมีการเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันที่แตกต่างไปจากเดิมจะเกิดความเครียดขึ้นทันที ซึ่งบางครั้งอาจหงุดหงิด โกรธ หรืออาจอาละวาด หากพบว่าเด็กมีพฤติกรรมคล้ายคลึงกับลักษณะดังกล่าวนี้ ควรจะให้แพทย์วินิจฉัยอย่างละเอียดด้วยการตรวจร่างกาย ระบบประสาท พัฒนาการ และสภาพจิต เพื่อประเมินและหาแนวทางช่วยเหลือ”...พญ.กมลชนก ระบุ

พร้อมทั้งบอกอีกว่า... สำหรับเด็กที่มีภาวะแอสเพอร์เกอร์ การมีพฤติกรรม เช่น ก้าวร้าว ทำร้ายตัวเอง ย้ำคิดย้ำทำ ซึมเศร้า วิตกกังวล ก็อาจเป็นอาการร่วมกับลักษณะดังที่ว่ามาข้างต้น ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วยก็อาจจะต้องใช้ยาร่วมกับการทำพฤติกรรมบำบัด ในการรักษา โดย สิ่งที่สำคัญคือการช่วยเหลือเด็กในด้านพัฒนาการทางสังคม สอนทักษะการปฏิบัติตัวทางสังคมในชีวิตประจำวัน สอนวิธีการแก้ไขสถานการณ์ที่พบบ่อยและเป็นปัญหา มีการช่วยสอนให้รับรู้ว่าคนอื่นคิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร รวมถึงการสอนให้มีการประเมินพฤติกรรมของตนเองว่าเหมาะสมเพียงใด และสอนให้เข้าใจความเกี่ยวโยงของสถานการณ์กับความรู้สึกด้วย

นอกจากนี้ ก็ ควรได้รับความร่วมมือจากครูและสถานศึกษา ครูผู้สอนควรใช้วิธีการสื่อสารที่สั้น ชัดเจน ตรงประเด็น และตรวจสอบความเข้าใจของเด็กทุกครั้ง รวมถึงสอนให้เด็กมีทักษะโต้ตอบทางสังคมในเรื่องกฎ กติกา มารยาท สิทธิส่วนบุคคล การปฏิบัติตนกับคนแปลกหน้า การแสดงออกต่าง ๆ กับบุคคลอื่น อีกทั้งเรื่อง มีการช่วยเหลือและทำความเข้าใจจากเพื่อนร่วมชั้นเรียน กับเด็กที่มีภาวะแอสเพอร์เกอร์ นี่ก็สำคัญ

จิตแพทย์เด็กโรงพยาบาลมนารมย์ ระบุด้วยว่า...ด้วยความบกพร่องด้านทักษะทางสังคม จึงมักถูกเพื่อนรังแกบ่อยๆ ซึ่งแท้จริงแล้วเด็กที่มีภาวะแอสเพอร์เกอร์ก็ต้องการเข้าสังคม เด็กแอสเพอร์เกอร์แม้จะมีความบกพร่องทางสังคม แต่ก็มีศักยภาพ และมีความน่ารักอยู่ในตัว จะให้อภัยคนง่าย ไว้ใจได้ มีความรับผิดชอบ ไม่ลักขโมย ไม่ค่อยรังเกียจหรือรังแกใคร ไม่แบ่งแยกคนจากภาษาหรือสีผิว และก็ ฉลาดและมีความสามารถ ดังนั้น นอกจากช่วยเหลือด้านพัฒนาการทางสังคมและการเรียนแล้ว ก็ ควรหาจุดแข็งของเด็กให้พบ เพื่อใช้เป็นจุดเด่นที่ทำให้เพื่อนๆ และสังคมยอมรับ ซึ่งจะช่วยให้เด็กสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข

ด้านผู้ปกครองที่เข้าร่วมฟังบรรยาย “เปิดโลกแอสเพอร์เกอร์” รายหนึ่ง ก็ระบุว่า...พ่อแม่ของเด็กที่มีภาวะแอสเพอร์เกอร์ก็ย่อมกังวล พยายามปกป้องลูกจากสถานการณ์ต่าง ๆ แต่วิธีที่ดีกว่าคือสอนให้เขาแยกแยะ และสอนวิธีรับมือที่เขาพอจะทำได้ด้วยตนเอง แสดงให้เขาเห็นว่าเราภูมิใจที่เขาสามารถจะเอาตัวรอดได้ พ่อแม่ควรคิดในแง่ดี ’เลิกคิดว่าลูกผิดปกติ แต่ควรมองหาว่าลูกมีจุดเด่นอะไร แล้วช่วยเขาพัฒนาให้ดีขึ้น“

ทั้งนี้ เชื่อหรือไม่?? กับนักฟิสิกส์ชื่อก้องโลกอย่าง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ผู้ค้นพบแรงโน้มถ่วงอย่าง เซอร์ไอแซค นิวตัน อัจฉริยะระดับโลกหลายคนทั้งในอดีตและในปัจจุบัน ก็มีการตั้งข้อสังเกตกันว่า อาจมีประวัติเข้าข่ายภาวะ “แอสเพอร์เกอร์” หนึ่งในภาวะในกลุ่ม “ออทิสติก” ซึ่งนี่ก็สะท้อนนัยสำคัญ

เรียนรู้และเข้าใจวิธีการดูแลเลี้ยงดูที่ถูกต้อง แม้ลูกเป็น ’เด็กแอสเพอร์เกอร์“ ก็ไม่เป็นไร ’สร้างลูกเป็นอัจฉริยะ“ ก็สามารถทำได้!!!!!.

ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/article/223/208060 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 31 พ.ค.56
วันที่โพสต์: 31/05/2556 เวลา 04:04:19 ดูภาพสไลด์โชว์ เรียนรู้ให้เข้าใจ 'เด็ก' 'แอสเพอร์เกอร์' 'อัจฉริยะ' สร้างได้!!

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ภาพวาดการ์ตูน ชาย หญิง และเด็ก 'แอสเพอร์เกอร์' เป็นหนึ่งในความผิดปกติที่อยู่ในกลุ่ม “ออทิสติก” ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนเมื่อได้ยิน 2 คำนี้มาโยงกับ ’เด็ก“ ที่เป็นบุตรหลาน ก็มักกังวลใจสูง เนื่องจากมีความเชื่อฝังใจกับความหมายเชิงลบเกี่ยวกับออทิสติก อย่างไรก็ตาม แอสเพอร์เกอร์นั้น จริง ๆ แล้วสามารถดำเนินชีวิตและประสบความสำเร็จได้ไม่น้อยกว่าคนปกติทั่ว ๆ ไป เพียงแต่...ก็ต้องได้รับการเลี้ยงดูและดูแลช่วยเหลืออย่างถูกวิธีตั้งแต่ในวัยเด็ก เข้าใจและดูแลช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้อย่างถูกวิธี - เมื่อเด็กเติบโตขึ้นอาจจะเป็น “อัจฉริยะ” ก็ได้!! “มีผู้ป่วยแอสเพอร์เกอร์จำนวนไม่น้อยเลยที่ประสบความสำเร็จในชีวิต และสามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข” ...นี่เป็นส่วนหนึ่งจากการระบุของ พญ.กมลชนก เหล่าชัยศรี จิตแพทย์เด็กประจำ โรงพยาบาลมนารมย์ ซึ่งทางโรงพยาบาลแห่งนี้ได้มีการจัดบรรยายหัวข้อ “เปิดโลกแอสเพอร์เกอร์” ขึ้น เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้สังคมไทย สร้างความรู้ความเข้าใจในการดูแลเด็กกลุ่มนี้อย่างถูกต้องเหมาะสม ทั้งนี้ ในปัจจุบันยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่า “แอสเพอร์เกอร์” เกิดจากสาเหตุใด แต่ที่แน่ ๆ ไม่ได้เกิดจากการเลี้ยงดู ซึ่งผู้ป่วยแอสเพอร์เกอร์ส่วนใหญ่ก็มีความสามารถทางสติปัญญาในเกณฑ์ปกติ แถม บางรายสติปัญญาในขั้นดีเลิศ อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมผิดปกติของแอสเพอร์เกอร์คือ มีปัญหาด้านพัฒนาการของทักษะทางสังคม ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครอง ครู สามารถจะสังเกตเห็นได้ตั้งแต่วัยเด็ก ในช่วงตั้งแต่เด็กเริ่มหัดพูด “เด็กที่มีภาวะแอสเพอร์เกอร์จะ ไม่สามารถเข้าใจถึงความรู้สึก ความต้องการของผู้อื่น จึงพูดแต่ในแง่มุมของตัวเอง ซึ่งไม่ใช่ลักษณะการพูดคุยสื่อสารทางสังคมแบบโต้ตอบที่มีลักษณะถ้อยทีถ้อย อาศัย และ มักมีการดำเนินกิจวัตรประจำวันรูปแบบเดิมซ้ำ ๆ ไม่เปลี่ยนแปลง หากมีการเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันที่แตกต่างไปจากเดิมจะเกิดความเครียดขึ้นทันที ซึ่งบางครั้งอาจหงุดหงิด โกรธ หรืออาจอาละวาด หากพบว่าเด็กมีพฤติกรรมคล้ายคลึงกับลักษณะดังกล่าวนี้ ควรจะให้แพทย์วินิจฉัยอย่างละเอียดด้วยการตรวจร่างกาย ระบบประสาท พัฒนาการ และสภาพจิต เพื่อประเมินและหาแนวทางช่วยเหลือ”...พญ.กมลชนก ระบุ พร้อมทั้งบอกอีกว่า... สำหรับเด็กที่มีภาวะแอสเพอร์เกอร์ การมีพฤติกรรม เช่น ก้าวร้าว ทำร้ายตัวเอง ย้ำคิดย้ำทำ ซึมเศร้า วิตกกังวล ก็อาจเป็นอาการร่วมกับลักษณะดังที่ว่ามาข้างต้น ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วยก็อาจจะต้องใช้ยาร่วมกับการทำพฤติกรรมบำบัด ในการรักษา โดย สิ่งที่สำคัญคือการช่วยเหลือเด็กในด้านพัฒนาการทางสังคม สอนทักษะการปฏิบัติตัวทางสังคมในชีวิตประจำวัน สอนวิธีการแก้ไขสถานการณ์ที่พบบ่อยและเป็นปัญหา มีการช่วยสอนให้รับรู้ว่าคนอื่นคิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร รวมถึงการสอนให้มีการประเมินพฤติกรรมของตนเองว่าเหมาะสมเพียงใด และสอนให้เข้าใจความเกี่ยวโยงของสถานการณ์กับความรู้สึกด้วย นอกจากนี้ ก็ ควรได้รับความร่วมมือจากครูและสถานศึกษา ครูผู้สอนควรใช้วิธีการสื่อสารที่สั้น ชัดเจน ตรงประเด็น และตรวจสอบความเข้าใจของเด็กทุกครั้ง รวมถึงสอนให้เด็กมีทักษะโต้ตอบทางสังคมในเรื่องกฎ กติกา มารยาท สิทธิส่วนบุคคล การปฏิบัติตนกับคนแปลกหน้า การแสดงออกต่าง ๆ กับบุคคลอื่น อีกทั้งเรื่อง มีการช่วยเหลือและทำความเข้าใจจากเพื่อนร่วมชั้นเรียน กับเด็กที่มีภาวะแอสเพอร์เกอร์ นี่ก็สำคัญ จิตแพทย์เด็กโรงพยาบาลมนารมย์ ระบุด้วยว่า...ด้วยความบกพร่องด้านทักษะทางสังคม จึงมักถูกเพื่อนรังแกบ่อยๆ ซึ่งแท้จริงแล้วเด็กที่มีภาวะแอสเพอร์เกอร์ก็ต้องการเข้าสังคม เด็กแอสเพอร์เกอร์แม้จะมีความบกพร่องทางสังคม แต่ก็มีศักยภาพ และมีความน่ารักอยู่ในตัว จะให้อภัยคนง่าย ไว้ใจได้ มีความรับผิดชอบ ไม่ลักขโมย ไม่ค่อยรังเกียจหรือรังแกใคร ไม่แบ่งแยกคนจากภาษาหรือสีผิว และก็ ฉลาดและมีความสามารถ ดังนั้น นอกจากช่วยเหลือด้านพัฒนาการทางสังคมและการเรียนแล้ว ก็ ควรหาจุดแข็งของเด็กให้พบ เพื่อใช้เป็นจุดเด่นที่ทำให้เพื่อนๆ และสังคมยอมรับ ซึ่งจะช่วยให้เด็กสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ด้านผู้ปกครองที่เข้าร่วมฟังบรรยาย “เปิดโลกแอสเพอร์เกอร์” รายหนึ่ง ก็ระบุว่า...พ่อแม่ของเด็กที่มีภาวะแอสเพอร์เกอร์ก็ย่อมกังวล พยายามปกป้องลูกจากสถานการณ์ต่าง ๆ แต่วิธีที่ดีกว่าคือสอนให้เขาแยกแยะ และสอนวิธีรับมือที่เขาพอจะทำได้ด้วยตนเอง แสดงให้เขาเห็นว่าเราภูมิใจที่เขาสามารถจะเอาตัวรอดได้ พ่อแม่ควรคิดในแง่ดี ’เลิกคิดว่าลูกผิดปกติ แต่ควรมองหาว่าลูกมีจุดเด่นอะไร แล้วช่วยเขาพัฒนาให้ดีขึ้น“ ทั้งนี้ เชื่อหรือไม่?? กับนักฟิสิกส์ชื่อก้องโลกอย่าง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ผู้ค้นพบแรงโน้มถ่วงอย่าง เซอร์ไอแซค นิวตัน อัจฉริยะระดับโลกหลายคนทั้งในอดีตและในปัจจุบัน ก็มีการตั้งข้อสังเกตกันว่า อาจมีประวัติเข้าข่ายภาวะ “แอสเพอร์เกอร์” หนึ่งในภาวะในกลุ่ม “ออทิสติก” ซึ่งนี่ก็สะท้อนนัยสำคัญ เรียนรู้และเข้าใจวิธีการดูแลเลี้ยงดูที่ถูกต้อง แม้ลูกเป็น ’เด็กแอสเพอร์เกอร์“ ก็ไม่เป็นไร ’สร้างลูกเป็นอัจฉริยะ“ ก็สามารถทำได้!!!!!. ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/article/223/208060

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...