ย้อนรอยเตี๊ยม! โต้ 'เวิร์คพอยท์' สับ TGT3 นำความแตกต่างมา 'ย่ำยี' กระชากเรตติ้ง!
ย้อนรอยเตี๊ยม! ไฟลามทุ่ง สับรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ซีซั่น 3 แหลก เอาความผิดปกติมาหาเรตติ้ง โต้เวิร์คพอยท์กลับ ไม่ว่า สิทธัตถะ เอมเมอรัล จะป่วยหรือไม่ก็ไม่มีสิทธิ์เอาความไม่เหมือนคนส่วนใหญ่มาย่ำยี ฝากถึงเบนซ์-พรชิตาตอบกลับถามเรื่องมารยาท ที่บ้านเขาคงสอนให้ไหว้ แต่สมองส่วนที่เป็นของการพัฒนาทางสังคมเขาไม่เท่าคนอื่นมากกว่า...
กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักอีกครั้ง หลังจากหนึ่งในผู้เข้าประกวดซีซั่น 2 แล้วออกมายอมรับว่าถูกเตี๊ยมให้เปลือยหน้าอกวาดภาพเพื่อสร้างกระแส มาปีนี้รายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 3 ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 3 ก็ถูกเครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ จิตแพทย์ และอีกหลายภาคส่วนออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยพร้อมเรียกร้องให้ถอดรายการออก ด้วย กรณีการเผยแพร่ภาพและเสียงของผู้เข้าประกวดที่ชื่อว่า สิทธัตถะ เอมเมอรัล ซึ่งถูกตั้งคำถามว่านำบุคคลที่มีความแตกต่างจากไปจากคนส่วนใหญ่ มาย่ำยีบนเวทีเพื่อสร้างเรตติ้ง จนถึงวันนี้ประเด็นร้อนดังกล่าวลามไปยังวงการต่างๆ มากมาย
ล่าสุด ผศ.ดร.พิรงรอง รามสูต รณะนันท์ อาจารย์จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ นักวิชาการ ผู้ชำนาญการเรื่องสื่อ ผู้ปกครองที่มีลูกเป็นออทิสติก ออกมากล่าวผ่านไทยรัฐออนไลน์ถึงกรณีนี้ว่า ในฐานะแม่ของเด็กออทิสติกหลังจากชมรายการนี้ถึงกับอึ้งว่าทำไมถึงเอาความไม่ปกติของคนมาย่ำยีบนเวทีเพียงเพื่อเรียกเรตติ้งรายการพร้อมตอบโต้กรณีผู้จัด ออกมาชี้แจงว่าสิทธัตถะ เอมเมอรัล มีสภาพจิตปกติ
“หลายคนดูพิธีกรไล่ ถามแล้วชอบใจ ในฐานะแม่ที่เลี้ยงลูกที่มีความไม่ปกติหัวเราะไม่ลง ส่วนหนึ่งเรามีความรู้เรื่องสื่อด้วย ดังนั้นจะมองเห็นว่าลักษณะกล้องที่โยนไปมาต่างๆ เชื่อได้ว่าเป็นการเตี๊ยมกัน คำถามจึงเกิดขึ้นในหัวทันทีว่านี่เป็นรายการที่เน้นทาเลนต์โชว์ ต้องโชว์ความสามารถ ตั้งแต่รอบสกรีนต้องมองหาทาเลนต์ใช่ไหม ฉะนั้นถ้าเกิดคนนี้ไม่มีทาเลนต์จะเอาเขามาออกอากาศเพื่อย่ำยีทำไมกัน อย่างรายการเดอะสตาร์หรือรายการเอเอฟก็ต้องหาคนที่ร้องเพลงดี หรือถ้าเสียงไม่ดีแต่แสดงเก่ง แต่ว่ากรณีนี้มันไม่ตอบโจทย์ สิ่งเหล่านี้ว่ามันอยู่ตรงไหน”
ที่สำคัญการที่นำคนที่ผิดไปจากบรรทัดฐานของสังคมที่เราคุ้นเคยกัน เช่น มาถึงต้องสวัสดี ต้องทักทายแนะนำตัวอย่างอ่อนหวานหรืออะไรก็ตาม แต่นี่มาถึงก็โชว์เลย ยิ่งเราได้ยินประโยคที่ว่า “ที่บ้านไม่เน้นมารยาท เน้นคุณธรรมมากกว่า”
“ในฐานะคนที่มีประสบการณ์เลี้ยงลูกที่ไม่ปกติมาหลายสิบปีรู้ทันทีว่าเขาไม่ปกติ ซึ่งคนกลุ่มนี้เขาไม่มีทักษะทางสังคม คิด เชื่ออะไร ก็พูดตามนั้น ซึ่งเมื่อฟังดูจากคนที่มีทักษะทางสังคมมาเยอะๆ ก็จะบอกว่านี่ไม่ได้รับการขัดเกลา ไม่ได้รับการอบรมที่คุณเบนซ์บอกว่าพ่อแม่ไม่ได้สอนมาให้ไหว้เหรอ เขาคงสอนนะค่ะ แต่สมองส่วนที่เป็นของการพัฒนาทางสังคมเขาไม่เท่าคนอื่น ใส่ไปอย่างไรก็ไม่มีทางเข้า ไม่ใช่เขาอยากจะเป็นแบบนี้”
นักวิชาการผู้นี้ บอกว่า ปัจจุบันจำนวนคนที่เป็นมีความไม่ปกติทางร่างกายและทางจิตใจที่ลงทะเบียนทั้ง หมดราว 1-2 ล้านคน และที่ยังไม่ลงทะเบียนอีกราว 1 ล้านคน ซึ่งถือว่ามีจำนวนเยอะมาก คนทั่วไปมักจะมองว่ากลุ่มนี้เป็นคนประหลาด จริงๆ ไม่ประหลาด เขาเป็นแบบนี้เพราะว่าเขามีสภาวะที่ควบคุมไม่ได้
“จริงๆ อยากให้มองว่าความแตกต่างของเขาไม่ได้มาทำให้เราเดือดร้อน บางทีเขาไม่สวัสดี หรือไม่ได้ทำตามบรรทัดฐานทางสังคมที่เราคุ้นเคย ซึ่งก็ไม่ใช่สิทธิ์ หรือความชอบธรรมของเราในการที่จะไปทำให้เขาเป็นตัวตลก โดยเฉพาะในสายตาของคนจำนวนเป็นล้านๆ ที่ดูฟรีทีวีอยู่ เพราะว่าทีวีมันขยายผลได้มากมายยิ่งในช่วงไพรม์ไทม์ที่มีคนดูมาก ทุกคนไม่มีสิทธิ์ย่ำยี เพราะเขาก็มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ กรณีนี้มันสะท้อนว่าสังคมไทยอ่อนด้อยในเรื่องของการยอมรับความแตกต่าง จะเห็นได้ว่าจากการแสดงตลก กะเทย ลาว เขมร ในทีวีก็เอาเรื่องปมด้อย เรื่องความแตกต่างมาล้อมาย่ำยี ซึ่งตรงนี้ระบบศึกษาก็ดี การสอนในครอบครัวก็ดี ต้องสอนให้เคารพในความเป็นมนุษย์ของคนอื่น ไม่ว่าจะแตกต่าง หรือเหนือกว่าทางสติปัญญาหรือด้อยกว่า ทางร่างกาย เชื้อชาติ เพศ ผิว อุดมการณ์ทางการเมืองก็ตาม”
อาจารย์จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวฝากทิ้งท้ายไปยังบริษัทเวิร์คพอยท์ผู้ผลิตรายการนี้และช่อง 3 ผู้เผยแพร่ด้วยว่า การที่เวิร์คพอยท์ออกมาชี้แจงหลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์กรณี สิทธัตถะ เอมเมอรัล ว่า เขาไม่ได้ป่วย จริงๆ เขาก็ไม่ได้ป่วย มันเป็นอาการถาวรที่แตกต่างไปจากมนุษย์ที่เราคุ้นเคยตามบรรทัดฐานทางสังคม เท่านั้นเอง
“แต่ จะป่วยหรือไม่ป่วย หรือเป็นบุคคลพิเศษหรือไม่เป็น สิ่งที่ชัดเจนก็คือเขาแตกต่าง อย่าเอาความแตกต่างของคนไม่ว่าจะบนพื้นฐานอะไรก็ตาม มาย่ำยีเป็นเรื่องตลก เพื่อหาเรตติ้งหรือสร้างกระแส มันอยุติธรรมทางสังคมสุดๆ ที่สามารถจะคิดได้ ท้ายที่สุดด้วยเรื่องราวอันไม่เหมาะสมของรายการนี้ มันเป็นแรงบันดาลใจให้ทางคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดงานเสวนาสาธารณะ เพื่อเป็นการให้ความรู้กับสาธารณะที่เกี่ยวข้องและสนใจ ในหัวข้อ “รายการทีวีกับการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” ณ ห้อง 1001 ชั้น 10 อาคารมงกุฎสมมติวงศ์ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน นี้ เวลา 13.00-16.00 น. โดยมีวิทยากรนำการเสวนาดังต่อไปนี้ อาจารย์ชูศักดิ์ จันทยานนท์ นายกสมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม (ไทย) คุณธรรมนิตย์ ชาญจรัสพงศ์ กรรมการสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย คุณวัชระ แวววุฒินันท์ กรรมการสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์และประธานเจ้า หน้าที่บริหาร บริษัท JSL Global Media คุณโรซาลีน่า อเล็กซานเดอร์ ศูนย์ความเข้าใจเชิงบวกเกี่ยวกับความต้องการพิเศษ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พญ.สุวิมล ชีวมงคล กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ขอเชิญทุกท่านที่สนใจเข้าร่วมด้วย” นักวิชาการนิเทศศาสตร์กล่าวในที่สุด
ย้อนฉาว TGT ซีซั่น 2 เตี๊ยมเปลือยอกวาดภาพ - ถ้า ยังจำกันได้ดี กรณี สิทธัตถะ เอมเมอรัล ในรายการ TGT ซีซั่น 3 ไม่ใช่ครั้งแรกที่รายการนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะหากย้อนเวลาไปเมื่อซีซั่นที่ 2 รายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ก็สร้างความตกตะลึง หลังจากที่มีในรอบคัดเลือกนำหญิงสาวเปลือยอกวาดภาพทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ และสื่อต่างๆ ก็ขุดคุ้ยเรื่องราวเบื้องหลังว่ามีความเป็นมาอย่างไร
ที่สุดแล้วสาวเปลือยอกวาดภาพคนดังกล่าวก็ออกมายอมรับกับรายการมิราเคิลออฟไลฟ์ ที่ออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ทีวีว่า 'การแสดงเปลือยอกดังกล่าวมีการเตี๊ยมกันจริง' ขอบคุณ http://www.thairath.co.th/content/ent/271073 (ช็อก! แฉทุกขั้นตอน น้องปอนด์ TGT เปิดใจรับถูกสั่งโชว์อก) ส่งผลให้ผู้เกี่ยวข้องโดนสอบสวนพร้อมกับถูกปรับ ส่วนสาวเปลือยอกผู้เข้าประกวดคนดังกล่าวก็เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่และถูก ปรับไปในที่สุด.
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ภาพ ผศ.ดร.พิรงรอง รามสูต รณะนันท์ อาจารย์จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ และผู้เข้าแข่งขันที่ตกเป็นข่าวจากรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ย้อนรอยเตี๊ยม! ไฟลามทุ่ง สับรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ซีซั่น 3 แหลก เอาความผิดปกติมาหาเรตติ้ง โต้เวิร์คพอยท์กลับ ไม่ว่า สิทธัตถะ เอมเมอรัล จะป่วยหรือไม่ก็ไม่มีสิทธิ์เอาความไม่เหมือนคนส่วนใหญ่มาย่ำยี ฝากถึงเบนซ์-พรชิตาตอบกลับถามเรื่องมารยาท ที่บ้านเขาคงสอนให้ไหว้ แต่สมองส่วนที่เป็นของการพัฒนาทางสังคมเขาไม่เท่าคนอื่นมากกว่า... กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักอีกครั้ง หลังจากหนึ่งในผู้เข้าประกวดซีซั่น 2 แล้วออกมายอมรับว่าถูกเตี๊ยมให้เปลือยหน้าอกวาดภาพเพื่อสร้างกระแส มาปีนี้รายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 3 ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 3 ก็ถูกเครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ จิตแพทย์ และอีกหลายภาคส่วนออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยพร้อมเรียกร้องให้ถอดรายการออก ด้วย กรณีการเผยแพร่ภาพและเสียงของผู้เข้าประกวดที่ชื่อว่า สิทธัตถะ เอมเมอรัล ซึ่งถูกตั้งคำถามว่านำบุคคลที่มีความแตกต่างจากไปจากคนส่วนใหญ่ มาย่ำยีบนเวทีเพื่อสร้างเรตติ้ง จนถึงวันนี้ประเด็นร้อนดังกล่าวลามไปยังวงการต่างๆ มากมาย ล่าสุด ผศ.ดร.พิรงรอง รามสูต รณะนันท์ อาจารย์จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ นักวิชาการ ผู้ชำนาญการเรื่องสื่อ ผู้ปกครองที่มีลูกเป็นออทิสติก ออกมากล่าวผ่านไทยรัฐออนไลน์ถึงกรณีนี้ว่า ในฐานะแม่ของเด็กออทิสติกหลังจากชมรายการนี้ถึงกับอึ้งว่าทำไมถึงเอาความไม่ปกติของคนมาย่ำยีบนเวทีเพียงเพื่อเรียกเรตติ้งรายการพร้อมตอบโต้กรณีผู้จัด ออกมาชี้แจงว่าสิทธัตถะ เอมเมอรัล มีสภาพจิตปกติ “หลายคนดูพิธีกรไล่ ถามแล้วชอบใจ ในฐานะแม่ที่เลี้ยงลูกที่มีความไม่ปกติหัวเราะไม่ลง ส่วนหนึ่งเรามีความรู้เรื่องสื่อด้วย ดังนั้นจะมองเห็นว่าลักษณะกล้องที่โยนไปมาต่างๆ เชื่อได้ว่าเป็นการเตี๊ยมกัน คำถามจึงเกิดขึ้นในหัวทันทีว่านี่เป็นรายการที่เน้นทาเลนต์โชว์ ต้องโชว์ความสามารถ ตั้งแต่รอบสกรีนต้องมองหาทาเลนต์ใช่ไหม ฉะนั้นถ้าเกิดคนนี้ไม่มีทาเลนต์จะเอาเขามาออกอากาศเพื่อย่ำยีทำไมกัน อย่างรายการเดอะสตาร์หรือรายการเอเอฟก็ต้องหาคนที่ร้องเพลงดี หรือถ้าเสียงไม่ดีแต่แสดงเก่ง แต่ว่ากรณีนี้มันไม่ตอบโจทย์ สิ่งเหล่านี้ว่ามันอยู่ตรงไหน” ที่สำคัญการที่นำคนที่ผิดไปจากบรรทัดฐานของสังคมที่เราคุ้นเคยกัน เช่น มาถึงต้องสวัสดี ต้องทักทายแนะนำตัวอย่างอ่อนหวานหรืออะไรก็ตาม แต่นี่มาถึงก็โชว์เลย ยิ่งเราได้ยินประโยคที่ว่า “ที่บ้านไม่เน้นมารยาท เน้นคุณธรรมมากกว่า” “ในฐานะคนที่มีประสบการณ์เลี้ยงลูกที่ไม่ปกติมาหลายสิบปีรู้ทันทีว่าเขาไม่ปกติ ซึ่งคนกลุ่มนี้เขาไม่มีทักษะทางสังคม คิด เชื่ออะไร ก็พูดตามนั้น ซึ่งเมื่อฟังดูจากคนที่มีทักษะทางสังคมมาเยอะๆ ก็จะบอกว่านี่ไม่ได้รับการขัดเกลา ไม่ได้รับการอบรมที่คุณเบนซ์บอกว่าพ่อแม่ไม่ได้สอนมาให้ไหว้เหรอ เขาคงสอนนะค่ะ แต่สมองส่วนที่เป็นของการพัฒนาทางสังคมเขาไม่เท่าคนอื่น ใส่ไปอย่างไรก็ไม่มีทางเข้า ไม่ใช่เขาอยากจะเป็นแบบนี้” กลุ่มผู้ต่อต้านถือป้ายประจานรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์นักวิชาการผู้นี้ บอกว่า ปัจจุบันจำนวนคนที่เป็นมีความไม่ปกติทางร่างกายและทางจิตใจที่ลงทะเบียนทั้ง หมดราว 1-2 ล้านคน และที่ยังไม่ลงทะเบียนอีกราว 1 ล้านคน ซึ่งถือว่ามีจำนวนเยอะมาก คนทั่วไปมักจะมองว่ากลุ่มนี้เป็นคนประหลาด จริงๆ ไม่ประหลาด เขาเป็นแบบนี้เพราะว่าเขามีสภาวะที่ควบคุมไม่ได้ “จริงๆ อยากให้มองว่าความแตกต่างของเขาไม่ได้มาทำให้เราเดือดร้อน บางทีเขาไม่สวัสดี หรือไม่ได้ทำตามบรรทัดฐานทางสังคมที่เราคุ้นเคย ซึ่งก็ไม่ใช่สิทธิ์ หรือความชอบธรรมของเราในการที่จะไปทำให้เขาเป็นตัวตลก โดยเฉพาะในสายตาของคนจำนวนเป็นล้านๆ ที่ดูฟรีทีวีอยู่ เพราะว่าทีวีมันขยายผลได้มากมายยิ่งในช่วงไพรม์ไทม์ที่มีคนดูมาก ทุกคนไม่มีสิทธิ์ย่ำยี เพราะเขาก็มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ กรณีนี้มันสะท้อนว่าสังคมไทยอ่อนด้อยในเรื่องของการยอมรับความแตกต่าง จะเห็นได้ว่าจากการแสดงตลก กะเทย ลาว เขมร ในทีวีก็เอาเรื่องปมด้อย เรื่องความแตกต่างมาล้อมาย่ำยี ซึ่งตรงนี้ระบบศึกษาก็ดี การสอนในครอบครัวก็ดี ต้องสอนให้เคารพในความเป็นมนุษย์ของคนอื่น ไม่ว่าจะแตกต่าง หรือเหนือกว่าทางสติปัญญาหรือด้อยกว่า ทางร่างกาย เชื้อชาติ เพศ ผิว อุดมการณ์ทางการเมืองก็ตาม” อาจารย์จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวฝากทิ้งท้ายไปยังบริษัทเวิร์คพอยท์ผู้ผลิตรายการนี้และช่อง 3 ผู้เผยแพร่ด้วยว่า การที่เวิร์คพอยท์ออกมาชี้แจงหลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์กรณี สิทธัตถะ เอมเมอรัล ว่า เขาไม่ได้ป่วย จริงๆ เขาก็ไม่ได้ป่วย มันเป็นอาการถาวรที่แตกต่างไปจากมนุษย์ที่เราคุ้นเคยตามบรรทัดฐานทางสังคม เท่านั้นเอง กลุ่มผู้ต่อต้านถือป้ายประจานรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ “แต่ จะป่วยหรือไม่ป่วย หรือเป็นบุคคลพิเศษหรือไม่เป็น สิ่งที่ชัดเจนก็คือเขาแตกต่าง อย่าเอาความแตกต่างของคนไม่ว่าจะบนพื้นฐานอะไรก็ตาม มาย่ำยีเป็นเรื่องตลก เพื่อหาเรตติ้งหรือสร้างกระแส มันอยุติธรรมทางสังคมสุดๆ ที่สามารถจะคิดได้ ท้ายที่สุดด้วยเรื่องราวอันไม่เหมาะสมของรายการนี้ มันเป็นแรงบันดาลใจให้ทางคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดงานเสวนาสาธารณะ เพื่อเป็นการให้ความรู้กับสาธารณะที่เกี่ยวข้องและสนใจ ในหัวข้อ “รายการทีวีกับการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” ณ ห้อง 1001 ชั้น 10 อาคารมงกุฎสมมติวงศ์ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน นี้ เวลา 13.00-16.00 น. โดยมีวิทยากรนำการเสวนาดังต่อไปนี้ อาจารย์ชูศักดิ์ จันทยานนท์ นายกสมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม (ไทย) คุณธรรมนิตย์ ชาญจรัสพงศ์ กรรมการสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย คุณวัชระ แวววุฒินันท์ กรรมการสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์และประธานเจ้า หน้าที่บริหาร บริษัท JSL Global Media คุณโรซาลีน่า อเล็กซานเดอร์ ศูนย์ความเข้าใจเชิงบวกเกี่ยวกับความต้องการพิเศษ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พญ.สุวิมล ชีวมงคล กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ขอเชิญทุกท่านที่สนใจเข้าร่วมด้วย” นักวิชาการนิเทศศาสตร์กล่าวในที่สุด ย้อนฉาว TGT ซีซั่น 2 เตี๊ยมเปลือยอกวาดภาพ - ถ้า ยังจำกันได้ดี กรณี สิทธัตถะ เอมเมอรัล ในรายการ TGT ซีซั่น 3 ไม่ใช่ครั้งแรกที่รายการนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะหากย้อนเวลาไปเมื่อซีซั่นที่ 2 รายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ก็สร้างความตกตะลึง หลังจากที่มีในรอบคัดเลือกนำหญิงสาวเปลือยอกวาดภาพทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ และสื่อต่างๆ ก็ขุดคุ้ยเรื่องราวเบื้องหลังว่ามีความเป็นมาอย่างไร ผู้เข้าประกวดในรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ของปี 2012 ที่ตกเป็นข่าว เปลือยอกวาดรูปที่สุดแล้วสาวเปลือยอกวาดภาพคนดังกล่าวก็ออกมายอมรับกับรายการมิราเคิลออฟไลฟ์ ที่ออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ทีวีว่า 'การแสดงเปลือยอกดังกล่าวมีการเตี๊ยมกันจริง' ขอบคุณ http://www.thairath.co.th/content/ent/271073 (ช็อก! แฉทุกขั้นตอน น้องปอนด์ TGT เปิดใจรับถูกสั่งโชว์อก) ส่งผลให้ผู้เกี่ยวข้องโดนสอบสวนพร้อมกับถูกปรับ ส่วนสาวเปลือยอกผู้เข้าประกวดคนดังกล่าวก็เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่และถูก ปรับไปในที่สุด. ขอบคุณ… http://www.thairath.co.th/content/life/349575
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)