พบเด็กไทยปัญหารุมเร้า ท้องไม่พร้อม ติดสารเสพติด ติดเกม บกพร่องเรียนรู้
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่โรงแรมเดอะ สุโกศล ภญ.ปฤษฐพร กิ่งแก้ว นักวิจัยโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ หรือ ไฮแทป (HITAP) แถลงข่าว "ผลการศึกษาโครงการอนาคตไทยเพื่อการสร้างเสริมสุขภาวะเด็กอายุ 6-25 ปี" ว่า จากการทบทวนปัญหาสุขภาวะของเด็กและเยาวชน โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญจาก 17 หน่วยงาน เช่น กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นต้น มาร่วมจัดลำดับความสำคัญของปัญหาสุขภาวะในเด็กและเยาวชน พบว่า ปัญหาหลักๆ คือ การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นและการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ มาจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย การเปลี่ยนหลายคู่นอน และขาดความรู้เรื่องการคุมกำเนิดที่ถูกต้อง แม้ที่ผ่านมาทุกภาคส่วนจะให้ความสำคัญ แต่จากอัตราการคลอดบุตรของผู้หญิงไทยอายุ 15-17 ปี ยังคงมีตัวเลขสูงในอัตราเกิน 50 ต่อ 1,000 ประชากร
ภญ.ปฤษฐพรกล่าวอีกว่า ข้อเสนอเชิงนโยบาย คือ ต้องพัฒนาฐานข้อมูลการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น เพราะปัจจุบันมีเพียงฐานข้อมูลจากการคลอดบุตรเท่านั้น กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ต้องพัฒนาหลักสูตรเพศศึกษาให้ทันสมัย พร้อมพัฒนาทักษะผู้สอน ส่วน สธ.ต้องพัฒนางานด้านอนามัยเจริญพันธุ์ที่เป็นมิตรกับวัยรุ่น และร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พัฒนาระบบการเข้าถึงถุงยางอนามัย ยาคุมกำเนิดและบริการให้คำปรึกษาที่ปกป้องตัวตนของผู้รับบริการ
นอกจากนี้ ยังพบปัญหาสุขภาพจิต ทั้งการติดสารเสพติด การติดเกม และภาวะบกพร่องทางการเรียนรู้ โดยเฉพาะการติดเกมมีผลกระทบด้านเศรษฐกิจสูงถึง 30,000 ล้านบาทต่อปี โดยพบว่า เด็ก 1 คนมีค่าใช้จ่ายในการเล่นเกม 1,106 บาทต่อเดือน
ขณะที่การติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ หากสามารถป้องกันนักดื่มและนักสูบหน้าใหม่ได้ จะสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 20,000-360,000 บาทต่อราย และ 80,000-160,000 บาทต่อรายตามลำดับ แนวทางการแก้ปัญหา รัฐบาลต้องกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบปัญหาติดเกมในระดับชาติขึ้น พร้อมนิยามการติดเกมให้ชัดเจน รวมทั้งตั้งคลินิกเฉพาะผู้มีปัญหาการติดเกม
มติชนออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 3 ต.ค.56
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่โรงแรมเดอะ สุโกศล ภญ.ปฤษฐพร กิ่งแก้ว นักวิจัยโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ หรือ ไฮแทป (HITAP) แถลงข่าว "ผลการศึกษาโครงการอนาคตไทยเพื่อการสร้างเสริมสุขภาวะเด็กอายุ 6-25 ปี" ว่า จากการทบทวนปัญหาสุขภาวะของเด็กและเยาวชน โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญจาก 17 หน่วยงาน เช่น กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นต้น มาร่วมจัดลำดับความสำคัญของปัญหาสุขภาวะในเด็กและเยาวชน พบว่า ปัญหาหลักๆ คือ การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นและการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ มาจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย การเปลี่ยนหลายคู่นอน และขาดความรู้เรื่องการคุมกำเนิดที่ถูกต้อง แม้ที่ผ่านมาทุกภาคส่วนจะให้ความสำคัญ แต่จากอัตราการคลอดบุตรของผู้หญิงไทยอายุ 15-17 ปี ยังคงมีตัวเลขสูงในอัตราเกิน 50 ต่อ 1,000 ประชากร ภญ.ปฤษฐพรกล่าวอีกว่า ข้อเสนอเชิงนโยบาย คือ ต้องพัฒนาฐานข้อมูลการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น เพราะปัจจุบันมีเพียงฐานข้อมูลจากการคลอดบุตรเท่านั้น กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ต้องพัฒนาหลักสูตรเพศศึกษาให้ทันสมัย พร้อมพัฒนาทักษะผู้สอน ส่วน สธ.ต้องพัฒนางานด้านอนามัยเจริญพันธุ์ที่เป็นมิตรกับวัยรุ่น และร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พัฒนาระบบการเข้าถึงถุงยางอนามัย ยาคุมกำเนิดและบริการให้คำปรึกษาที่ปกป้องตัวตนของผู้รับบริการ นอกจากนี้ ยังพบปัญหาสุขภาพจิต ทั้งการติดสารเสพติด การติดเกม และภาวะบกพร่องทางการเรียนรู้ โดยเฉพาะการติดเกมมีผลกระทบด้านเศรษฐกิจสูงถึง 30,000 ล้านบาทต่อปี โดยพบว่า เด็ก 1 คนมีค่าใช้จ่ายในการเล่นเกม 1,106 บาทต่อเดือน ขณะที่การติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ หากสามารถป้องกันนักดื่มและนักสูบหน้าใหม่ได้ จะสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 20,000-360,000 บาทต่อราย และ 80,000-160,000 บาทต่อรายตามลำดับ แนวทางการแก้ปัญหา รัฐบาลต้องกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบปัญหาติดเกมในระดับชาติขึ้น พร้อมนิยามการติดเกมให้ชัดเจน รวมทั้งตั้งคลินิกเฉพาะผู้มีปัญหาการติดเกม ขอบคุณ… http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1380789516&grpid=03&catid=&subcatid= มติชนออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 3 ต.ค.56
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)