ประกาศ12ข้อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

แสดงความคิดเห็น

นายสุเทพเทือกสุบรรณแกนนำกลุ่มกปปส

เมื่อวันที่22มกราคมที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)พล.ต.ต.อดุลย์ณรงค์ศักดิ์รองผบช.น.และโฆษกบช.น.แถลงว่าได้ประกาศตามมาตรา11แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินดังต่อไปนี้

(1)ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจจับกุมและควบคุมตัวบุคคลที่สงสัยว่าจะเป็นผู้ร่วมกระทำการให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินหรือเป็นผู้ใช้ผู้โฆษณาผู้สนับสนุนการกระทำเช่นว่านั้นหรือปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งนี้เท่าที่มีเหตุจำเป็นเพื่อป้องกันมิให้บุคคลนั้นกระทำการหรือร่วมมือกระทำการใดๆอันจะทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงหรือเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการระงับเหตุการณ์ร้ายแรงและต้องปฏิบัติตามมาตรา12แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

(2)ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งเรียกให้บุคคลใดมารายงานตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือมาให้ถ้อยคำหรือส่งมอบเอกสารหรือหลักฐานใดที่เกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์ฉุกเฉิน

(3)ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งยึดหรืออายัดอาวุธสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคเคมีภัณฑ์หรือวัตถุอื่นใดในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าได้ใช้หรือจะใช้สิ่งนั้นเพื่อการกระทำการหรือสนับสนุนการกระทำให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน

(4)ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งตรวจค้นรื้อถอนหรือทำลายซึ่งอาคารสิ่งปลูกสร้างหรือสิ่งกีดขวางตามความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อระงับเหตุการณ์ร้ายแรงให้ยุติโดยเร็วและหากปล่อยเนิ่นช้าจะทำให้ไม่อาจระงับเหตุการณ์ได้ทันท่วงที

(5)ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งตรวจสอบจดหมายหนังสือสิ่งพิมพ์โทรเลขโทรศัพท์หรือการสื่อสารด้วยวิธีการอื่นใดตลอดจนการสั่งระงับหรือยับยั้งการติดต่อหรือการสื่อสารใดเพื่อป้องกันหรือระงับเหตุการณ์ร้ายแรงโดยต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษโดยอนุโลม

(6)ให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบมีอำนาจสั่งห้ามมิให้กระทำการใดๆหรือสั่งให้กระทำการใดๆเท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของรัฐความปลอดภัยของประเทศหรือความปลอดภัยของประชาชน

(7)ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งห้ามมิให้ผู้ใดออกไปนอกราชอาณาจักรเมื่อมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าการออกไปนอกราชอาณาจักรจะเป็นการกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประเทศ

(8)ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งการให้คนต่างด้าวออกไปนอกราชอาณาจักรในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเป็นผู้สนับสนุนการกระทำให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งนี้ให้นำกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองมาใช้บังคับโดยอนุโลม

(9)ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งการให้การซื้อขายใช้หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งอาวุธสินค้าเวชภัณฑ์เครื่องอุปโภคบริโภคเคมีภัณฑ์หรือวัสดุอุปกรณ์อย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งอาจใช้ในการก่อความไม่สงบหรือก่อการร้ายต้องรายงานหรือได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่หรือปฏิบัติตามเงื่อนไขที่หัวหน้าผู้รับผิดชอบกำหนด

(10)ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งการห้ามกระทำการอย่างใดๆที่เป็นการปิดการจราจรปิดเส้นทางคมนาคมหรือกระทำการอื่นใดที่ทำให้อาจใช้เส้นทางคมนาคมได้ตามปกติในทุกเขตพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

(11)ให้ข้าราชการทหารตามที่กำหนดในคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่พิเศษ2/2557เรื่องแต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงานหัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงช่วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือตำรวจ

(12)ในการดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประกาศนี้ให้ใช้มาตรการตามความจำเป็นและเหมาะสมโดยระมัดระวังมิให้มีการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ

พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวต่อว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาลจึงขอเรียนชี้แจงมายังพี่น้องประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมการชุมนุมเนื่องจากปรากฏว่าในช่วงที่ผ่านมาการชุมนุมของกลุ่มกปปส.ไม่ได้เป็นการชุมนุมโดยชอบด้วยกฎหมายมีการปลุกระดมเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนมีการปิดการจราจรในถนนสำคัญบุกรุกและยึดสถานที่ราชการหลายแห่งไล่ข้าราชการออกจากสถานที่ราชการตัดน้ำตัดไฟปิดระบบฐานข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ของทางราชการและพยายามจะควบคุมตัวผู้บริหารหรือบุคคลสำคัญที่มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดินมีการกระทำอันเป็นการขัดขวางการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่กำลังจะจัดให้มีขึ้นซึ่งล้วนแล้วแต่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเมืองทั้งสิ้นที่มา:นสพ.มติชน

ขอบคุณ... http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1390450542&grpid=00&catid=16&subcatid=1600

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย23ม.ค.57

ที่มา: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย23ม.ค.57
วันที่โพสต์: 24/01/2557 เวลา 03:30:38 ดูภาพสไลด์โชว์ ประกาศ12ข้อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

นายสุเทพเทือกสุบรรณแกนนำกลุ่มกปปส เมื่อวันที่22มกราคมที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)พล.ต.ต.อดุลย์ณรงค์ศักดิ์รองผบช.น.และโฆษกบช.น.แถลงว่าได้ประกาศตามมาตรา11แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินดังต่อไปนี้ (1)ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจจับกุมและควบคุมตัวบุคคลที่สงสัยว่าจะเป็นผู้ร่วมกระทำการให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินหรือเป็นผู้ใช้ผู้โฆษณาผู้สนับสนุนการกระทำเช่นว่านั้นหรือปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งนี้เท่าที่มีเหตุจำเป็นเพื่อป้องกันมิให้บุคคลนั้นกระทำการหรือร่วมมือกระทำการใดๆอันจะทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงหรือเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการระงับเหตุการณ์ร้ายแรงและต้องปฏิบัติตามมาตรา12แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (2)ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งเรียกให้บุคคลใดมารายงานตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือมาให้ถ้อยคำหรือส่งมอบเอกสารหรือหลักฐานใดที่เกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์ฉุกเฉิน (3)ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งยึดหรืออายัดอาวุธสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคเคมีภัณฑ์หรือวัตถุอื่นใดในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าได้ใช้หรือจะใช้สิ่งนั้นเพื่อการกระทำการหรือสนับสนุนการกระทำให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน (4)ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งตรวจค้นรื้อถอนหรือทำลายซึ่งอาคารสิ่งปลูกสร้างหรือสิ่งกีดขวางตามความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อระงับเหตุการณ์ร้ายแรงให้ยุติโดยเร็วและหากปล่อยเนิ่นช้าจะทำให้ไม่อาจระงับเหตุการณ์ได้ทันท่วงที (5)ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งตรวจสอบจดหมายหนังสือสิ่งพิมพ์โทรเลขโทรศัพท์หรือการสื่อสารด้วยวิธีการอื่นใดตลอดจนการสั่งระงับหรือยับยั้งการติดต่อหรือการสื่อสารใดเพื่อป้องกันหรือระงับเหตุการณ์ร้ายแรงโดยต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษโดยอนุโลม (6)ให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบมีอำนาจสั่งห้ามมิให้กระทำการใดๆหรือสั่งให้กระทำการใดๆเท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของรัฐความปลอดภัยของประเทศหรือความปลอดภัยของประชาชน (7)ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งห้ามมิให้ผู้ใดออกไปนอกราชอาณาจักรเมื่อมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าการออกไปนอกราชอาณาจักรจะเป็นการกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประเทศ (8)ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งการให้คนต่างด้าวออกไปนอกราชอาณาจักรในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเป็นผู้สนับสนุนการกระทำให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งนี้ให้นำกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองมาใช้บังคับโดยอนุโลม (9)ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งการให้การซื้อขายใช้หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งอาวุธสินค้าเวชภัณฑ์เครื่องอุปโภคบริโภคเคมีภัณฑ์หรือวัสดุอุปกรณ์อย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งอาจใช้ในการก่อความไม่สงบหรือก่อการร้ายต้องรายงานหรือได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่หรือปฏิบัติตามเงื่อนไขที่หัวหน้าผู้รับผิดชอบกำหนด (10)ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งการห้ามกระทำการอย่างใดๆที่เป็นการปิดการจราจรปิดเส้นทางคมนาคมหรือกระทำการอื่นใดที่ทำให้อาจใช้เส้นทางคมนาคมได้ตามปกติในทุกเขตพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน (11)ให้ข้าราชการทหารตามที่กำหนดในคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่พิเศษ2/2557เรื่องแต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงานหัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงช่วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือตำรวจ (12)ในการดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประกาศนี้ให้ใช้มาตรการตามความจำเป็นและเหมาะสมโดยระมัดระวังมิให้มีการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวต่อว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาลจึงขอเรียนชี้แจงมายังพี่น้องประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมการชุมนุมเนื่องจากปรากฏว่าในช่วงที่ผ่านมาการชุมนุมของกลุ่มกปปส.ไม่ได้เป็นการชุมนุมโดยชอบด้วยกฎหมายมีการปลุกระดมเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนมีการปิดการจราจรในถนนสำคัญบุกรุกและยึดสถานที่ราชการหลายแห่งไล่ข้าราชการออกจากสถานที่ราชการตัดน้ำตัดไฟปิดระบบฐานข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ของทางราชการและพยายามจะควบคุมตัวผู้บริหารหรือบุคคลสำคัญที่มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดินมีการกระทำอันเป็นการขัดขวางการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่กำลังจะจัดให้มีขึ้นซึ่งล้วนแล้วแต่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเมืองทั้งสิ้นที่มา:นสพ.มติชน ขอบคุณ...http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1390450542&grpid=00&catid=16&subcatid=1600 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย23ม.ค.57

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...