กลุ่มหมอลุกฮือ! ต้าน “นิรโทษกรรม” ลั่นไม่เอา “แม้ว” กลับบ้าน
กลุ่มหมอและวิชาชีพสาธารณ สุขลุกฮือ ก่อม็อบหน้ามูลนิธิช่วยคนตาบอดฯ แสดงพลังต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่เอา “แม้ว” กลับบ้าน “หมอประมวล” ลั่นเป็นการทำลายศาลและระบบยุติธรรมของไทย อัดรัฐบาลไม่มีที่ไหนในโลกทำกัน พร้อมเดินเท้าไปให้กำลังใจที่ม็อบอุรุพงษ์ ยันไม่ยืดเยื้อ
วันนี้ (31 ต.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. ที่บริเวณหน้ามูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ถ.พระรามที่ 6 กลุ่มแพทย์ไทยหัวใจรักชาติและกลุ่มคนไทยต้านนิรโทษช่วยคนโกง นำโดย ศ.เกียรติคุณ นพ.ประมวล วรุตมเสน อดีตหัวหน้าภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ได้นำกลุ่มแพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล เภสัชกร และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ประมาณ 200 กว่าคน มารวมตัวกันเพื่อแสดงจุดยืนต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
ศ.เกียรติคุณ นพ.ประมวล กล่าวว่า การมาชุมนุมในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก เนื่องจากทนไม่ได้ต่อกระบวนการที่ขัดต่อนิติรัฐ และนิติธรรม เนื่องจากมีความพยายามที่จะร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งเป็นการเอาคนผิดที่ผ่านการตัดสินของกระบวนการยุติธรรมแล้วมายกโทษ เป็นเรื่องที่ระบบสากลยอมรับไม่ได้ เพราะ พ.ร.บ.ดังกล่าวจะสร้างความบอบช้ำให้แก่สังคม ทำลายระบบความเป็นธรรม และทำให้จิตสำนึกของคนไทยเสื่อมทราม เห็นได้ชัดจากผลสำรวจที่ระบุว่ากว่า 60% ยอมรับได้เรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน แต่ขอให้ตนเองได้ประโยชน์ ซึ่งไม่มีที่ไหนในโลกที่เยาวชนออกมายอมรับการโกง ซึ่งตนยอมรับไม่ได้และไม่มีประเทศไหนยอมรับได้
ศ.เกียรติคุณ นพ.ประมวล กล่าวอีกว่า การมาในครั้งนี้ทุกคนพร้อมใจกันมา มีการนัดกันผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก คาดว่าการชุมนุมในวันนี้จะไม่ยืดเยื้อ เนื่องจากเป็นการมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังของคนไทยกลุ่มหนึ่งที่ไม่ต้องการ ให้มีการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมขึ้น ซึ่งเป้าหมายของเรามีอยู่จุดเดียวคือ ไม่ต้องการให้ออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
“การมาครั้งนี้ไม่มีสีอะไร มีแต่สีของความถูกต้อง ความรักชาติ เป็นไปตามจิตสำนึกของคนไทย ไม่ต้องการให้มีการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มิเช่นนั้น กระบวนการตัดสินของศาลก็จะไม่มีความหมาย เพราะคนที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดและต้องได้รับโทษ กลับมีการออกกฎหมายเพื่อยกโทษให้ เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้” ศ.เกียรติคุณ นพ.ประมวล กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.30 น.กลุ่มคนแพทย์ไทยหัวใจรักชาติฯ ได้ออกเดินทางจากหน้ามูลนิธิช่วยคนตาบอดฯ ไปยังบริเวณแยกอุรุพงษ์ เพื่อให้กำลังใจกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จากนั้นจึงเดินทางมายังสถานีรถไฟสามเสน โดย ศ.เกียรติคุณ นพ.ประมวล กล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้จะไม่ยืดเยื้อ แต่จะมีการออกมาเคลื่อนไหวบ่อยครั้งขึ้น โดยในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ที่จะถึงนี้ ทางกลุ่มได้มีการหารือว่าจะมีการออกมาชุมนุมคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อีกครั้ง ที่บริเวณสวนลุมพินี
ทั้งนี้ กลุ่มแพทย์ไทยหัวใจรักชาติและกลุ่มคนไทยต้านนิรโทษช่วยคนโกงให้พ้นผิด ได้ออกแถลงการณ์ว่า ความสงบสุขของบ้านเมืองเป็นความต้องการร่วมกันของคนไทยทั้งชาติ แต่การตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม อันมีเนื้อหาช่วยให้คนทุจริตคดโกงพ้นจากการลงโทษ เป็นสิ่งที่คนไทยผู้รักความยุติธรรมมิอาจยอมรับได้ เพราะการทุจริตคอร์รัปชันเป็นปัญหาสำคัญของชาติ การใช้อำนาจเสียงข้างมากทางการเมืองตรากฎหมายอันมีผลให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ้นความผิดที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้พิพากษาว่า มีความผิดในคดีซื้อที่ดินรัชดาภิเษก ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา และคดีร่ำรวยผิดปกติ 76,000 ล้านบาท ให้ยึดทรัพย์จำนวน 46,000 ล้านบาท และคงจะมีโทษอาญาในที่สุด โดยฉวยโอกาสแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่เดิมมีหลักการ และเนื้อหาเพียงนิรโทษผู้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากการชุมนุมทางการเมือง ให้ครอบคลุมถึงผู้ที่ถูกดำเนินคดีโดยองค์กรที่จัดตั้งตามคำสั่งของคณะ คมช. ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และพวกพ้นจากความผิดในคดีทุจริตดังกล่าวมาแล้ว ทั้งๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองแต่อย่างใด
การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จึงเป็นการขัดหลักนิติรัฐ นิติธรรม ขัดหลักการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันขององค์การสหประชาชาติ และกฎหมายต้านคอร์รัปชันที่นานาประเทศใช้อยู่ และเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรม และไม่เคารพกฎหมายไทย เพราะทำให้กระบวนการพิจารณาคดีต้องยุติลงทันที ความขัดแย้งเคียดแค้นชิงชังในหมู่คนไทยก็ยังคงอยู่ต่อไป หรือกลับรุนแรงมากขึ้นด้วยซ้ำ ซึ่งไม่มีใครต้องการเช่นนั้น
ในขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรกำลังพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่มีเนื้อหาช่วยคนโกงให้พ้นผิดอยู่ พวกเราจึงขอออกแถลงการณ์คัดค้านการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ ขอเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎรถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว หรือให้ตัดข้อความส่วนที่เอื้อให้คนโกงพ้นผิดออกไป ทั้งนี้ ทางกลุ่มขอเรียกร้องให้มีการดำเนินคดี เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงในคดีการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี พ.ศ.2553 อย่างรวดเร็ว และโปร่งใส แล้วจึงพิจารณานิรโทษกรรมภายหลัง การมีคำพิพากษาออกมาแล้ว คนกระทำผิดรู้สึกสำนึกผิด ผู้ถูกกระทำและสังคมให้อภัย ความสงบสุขจึงจะกลับสู่สังคมไทย
ขอบคุณ… http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000136099 (ขนาดไฟล์: 164)
(ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 1 พ.ย.56 )
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ม็อบต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมวันที่ 31 ตุลาคม 2556 กลุ่มหมอและวิชาชีพสาธารณ สุขลุกฮือ ก่อม็อบหน้ามูลนิธิช่วยคนตาบอดฯ แสดงพลังต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่เอา “แม้ว” กลับบ้าน “หมอประมวล” ลั่นเป็นการทำลายศาลและระบบยุติธรรมของไทย อัดรัฐบาลไม่มีที่ไหนในโลกทำกัน พร้อมเดินเท้าไปให้กำลังใจที่ม็อบอุรุพงษ์ ยันไม่ยืดเยื้อ วันนี้ (31 ต.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. ที่บริเวณหน้ามูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ถ.พระรามที่ 6 กลุ่มแพทย์ไทยหัวใจรักชาติและกลุ่มคนไทยต้านนิรโทษช่วยคนโกง นำโดย ศ.เกียรติคุณ นพ.ประมวล วรุตมเสน อดีตหัวหน้าภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ได้นำกลุ่มแพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล เภสัชกร และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ประมาณ 200 กว่าคน มารวมตัวกันเพื่อแสดงจุดยืนต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ม็อบต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมวันที่ 31 ตุลาคม 2556ศ.เกียรติคุณ นพ.ประมวล กล่าวว่า การมาชุมนุมในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก เนื่องจากทนไม่ได้ต่อกระบวนการที่ขัดต่อนิติรัฐ และนิติธรรม เนื่องจากมีความพยายามที่จะร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งเป็นการเอาคนผิดที่ผ่านการตัดสินของกระบวนการยุติธรรมแล้วมายกโทษ เป็นเรื่องที่ระบบสากลยอมรับไม่ได้ เพราะ พ.ร.บ.ดังกล่าวจะสร้างความบอบช้ำให้แก่สังคม ทำลายระบบความเป็นธรรม และทำให้จิตสำนึกของคนไทยเสื่อมทราม เห็นได้ชัดจากผลสำรวจที่ระบุว่ากว่า 60% ยอมรับได้เรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน แต่ขอให้ตนเองได้ประโยชน์ ซึ่งไม่มีที่ไหนในโลกที่เยาวชนออกมายอมรับการโกง ซึ่งตนยอมรับไม่ได้และไม่มีประเทศไหนยอมรับได้ ศ.เกียรติคุณ นพ.ประมวล กล่าวอีกว่า การมาในครั้งนี้ทุกคนพร้อมใจกันมา มีการนัดกันผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก คาดว่าการชุมนุมในวันนี้จะไม่ยืดเยื้อ เนื่องจากเป็นการมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังของคนไทยกลุ่มหนึ่งที่ไม่ต้องการ ให้มีการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมขึ้น ซึ่งเป้าหมายของเรามีอยู่จุดเดียวคือ ไม่ต้องการให้ออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ม็อบต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมวันที่ 31 ตุลาคม 2556 “การมาครั้งนี้ไม่มีสีอะไร มีแต่สีของความถูกต้อง ความรักชาติ เป็นไปตามจิตสำนึกของคนไทย ไม่ต้องการให้มีการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มิเช่นนั้น กระบวนการตัดสินของศาลก็จะไม่มีความหมาย เพราะคนที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดและต้องได้รับโทษ กลับมีการออกกฎหมายเพื่อยกโทษให้ เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้” ศ.เกียรติคุณ นพ.ประมวล กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.30 น.กลุ่มคนแพทย์ไทยหัวใจรักชาติฯ ได้ออกเดินทางจากหน้ามูลนิธิช่วยคนตาบอดฯ ไปยังบริเวณแยกอุรุพงษ์ เพื่อให้กำลังใจกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จากนั้นจึงเดินทางมายังสถานีรถไฟสามเสน โดย ศ.เกียรติคุณ นพ.ประมวล กล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้จะไม่ยืดเยื้อ แต่จะมีการออกมาเคลื่อนไหวบ่อยครั้งขึ้น โดยในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ที่จะถึงนี้ ทางกลุ่มได้มีการหารือว่าจะมีการออกมาชุมนุมคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อีกครั้ง ที่บริเวณสวนลุมพินี ม็อบต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมวันที่ 31 ตุลาคม 2556 ทั้งนี้ กลุ่มแพทย์ไทยหัวใจรักชาติและกลุ่มคนไทยต้านนิรโทษช่วยคนโกงให้พ้นผิด ได้ออกแถลงการณ์ว่า ความสงบสุขของบ้านเมืองเป็นความต้องการร่วมกันของคนไทยทั้งชาติ แต่การตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม อันมีเนื้อหาช่วยให้คนทุจริตคดโกงพ้นจากการลงโทษ เป็นสิ่งที่คนไทยผู้รักความยุติธรรมมิอาจยอมรับได้ เพราะการทุจริตคอร์รัปชันเป็นปัญหาสำคัญของชาติ การใช้อำนาจเสียงข้างมากทางการเมืองตรากฎหมายอันมีผลให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ้นความผิดที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้พิพากษาว่า มีความผิดในคดีซื้อที่ดินรัชดาภิเษก ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา และคดีร่ำรวยผิดปกติ 76,000 ล้านบาท ให้ยึดทรัพย์จำนวน 46,000 ล้านบาท และคงจะมีโทษอาญาในที่สุด โดยฉวยโอกาสแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่เดิมมีหลักการ และเนื้อหาเพียงนิรโทษผู้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากการชุมนุมทางการเมือง ให้ครอบคลุมถึงผู้ที่ถูกดำเนินคดีโดยองค์กรที่จัดตั้งตามคำสั่งของคณะ คมช. ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และพวกพ้นจากความผิดในคดีทุจริตดังกล่าวมาแล้ว ทั้งๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองแต่อย่างใด การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จึงเป็นการขัดหลักนิติรัฐ นิติธรรม ขัดหลักการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันขององค์การสหประชาชาติ และกฎหมายต้านคอร์รัปชันที่นานาประเทศใช้อยู่ และเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรม และไม่เคารพกฎหมายไทย เพราะทำให้กระบวนการพิจารณาคดีต้องยุติลงทันที ความขัดแย้งเคียดแค้นชิงชังในหมู่คนไทยก็ยังคงอยู่ต่อไป หรือกลับรุนแรงมากขึ้นด้วยซ้ำ ซึ่งไม่มีใครต้องการเช่นนั้น ในขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรกำลังพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่มีเนื้อหาช่วยคนโกงให้พ้นผิดอยู่ พวกเราจึงขอออกแถลงการณ์คัดค้านการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ ขอเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎรถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว หรือให้ตัดข้อความส่วนที่เอื้อให้คนโกงพ้นผิดออกไป ทั้งนี้ ทางกลุ่มขอเรียกร้องให้มีการดำเนินคดี เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงในคดีการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี พ.ศ.2553 อย่างรวดเร็ว และโปร่งใส แล้วจึงพิจารณานิรโทษกรรมภายหลัง การมีคำพิพากษาออกมาแล้ว คนกระทำผิดรู้สึกสำนึกผิด ผู้ถูกกระทำและสังคมให้อภัย ความสงบสุขจึงจะกลับสู่สังคมไทย ขอบคุณ… http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000136099 (ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 1 พ.ย.56 )
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)