13มกราคม2557 : วันเว้นวัน จันทร์ พุธ ศุกร์ กับ ประภัสสร เสวิกุล

แสดงความคิดเห็น

ชายยืนถือธงชาติ โบกสะบัด

ถ้าวันนี้ยังรับราชการอยู่ เช้าวันที่ 13 มกราคม 2557 ผมก็จะไปทำงานตามปกติ เช่นเดียวกับที่เคยทำมาในสมัยเหตุการณ์วันมหาวิปโยค-14 ตุลาคม 2516 หรือพฤษภาทมิฬ-17 พฤษภาคม 2535 เพราะผมเป็นข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มิใช่คนของ จอมพลถนอม กิตติขจร พล.อ.สุจินดา คราประยูร หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และข้าราชการก็มิได้อยู่ในระบอบทักษิณ แต่อยู่ใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข การเรียกร้อง กดดัน หรือกีดขวาง มิให้ข้าราชการปฏิบัติงานตามหน้าที่หรือละทิ้งหน้าที่ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีความขัดแย้งทางการเมืองเกิดขึ้นอยู่เนืองๆ แต่ก็เป็นเรื่องของฝ่ายการเมือง ที่จะหาทางต่อสู้เอาชนะกันตามวิถีทางของการเมือง ไม่ได้ลากดึงข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้น แม้จะมีความวุ่นวายทางการเมืองเกิดขึ้นสักกี่ครั้ง หรือว่างเว้นรัฐบาลไปชั่วขณะสักกี่คราว แต่ราชการงานเมืองก็ยังคงดำเนินต่อไปเป็นปกติ ไม่มีผลกระทบต่อกิจการของแผ่นดิน เพราะข้าราชการต่างก็ทำงานตามหน้าที่ของตน

ประเทศไทยนั้น มีความสัมพันธ์และติดต่อเชื่อมโยงเรื่องต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ การค้า การเจรจาทางธุรกิจ การลงทุน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความมั่นคง การคมนาคม การสื่อสาร วิชาการ การป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติ ฯลฯ กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก อยู่ตลอดเวลา การปิดกั้นสถานที่ราชการไม่ให้ข้าราชการเข้าไปทำงานก็ดี การก่อกวนด้วยวิธีการต่างๆ ก็ดี การตัดน้ำตัดไฟก็ดี ล้วนส่งผลให้ประเทศไทยโดดเดี่ยวตัวเองจากประชาคมโลก ซึ่งปัจจุบันนี้ความล่าช้าแม้เพียงเสี้ยววินาทีก็อาจสร้างความเสียหายแก่ ประเทศชาติอย่างไม่สามารถประมาณค่าได้ รวมทั้งอาจทำให้ประเทศไทยและคนไทยสูญเสียบทบาทบนเวทีโลก หรือโอกาสอันดีไปอย่างน่าเสียดาย

คนที่ออกแบบ “ชัตดาวน์ กรุงเทพฯ” นั้น น่าจะมีความใกล้ชิดกับคนที่เคยเสนอแนวคิด “ปิดประเทศไทย” ซึ่งเป็นเรื่องน่าประหลาดใจว่า กับการขับไล่โจรออกจากบ้าน ทำไมเราถึงกับต้องทำรั้วทองแดงกำแพงเหล็กปิดขังตัวเองอยู่ในบ้านของตัวเอง เลยหรือ? และนี่เรากำลังกำจัดโจร หรือจำกัดตัวของเราเองกันแน่?

พม่าที่เคยปิดเมืองหลวงปิดประเทศนั้น ก็เห็นกันแล้วว่าล้าหลังเพื่อนบ้านร่วม 50 ปี-ในยุคโลกาภิวัตน์ เช่นปัจจุบัน ถ้าวันนี้เราปิดกรุงเทพฯ ปิดประเทศไทยและเหตุการณ์ยืดเยื้อออกไป ผมเดาไม่ถูกหรอกครับว่าเราจะล้าหลังพม่าไปสักกี่ปี?

ขอเรียนว่า ผมเห็นด้วยกับการที่ข้าราชการจะไปร่วมชุมนุมนอกเวลาราชการ และเห็นด้วยอย่างยิ่งถ้าข้าราชการจะแสดงทัศนะและแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ตามความคิดเห็นของตน เพราะนั่นเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคลตามระบอบประชาธิปไตย แต่ยืนยันว่าผมไม่เห็นด้วย กับการใช้สิทธิและเสรีภาพดังกล่าว ไปรบกวนหรือละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น เพราะนั่นคือการกระทำที่ไม่เป็นประชาธิปไตยแม้แต่น้อย และมีความโน้มเอียงไปสู่อนาธิปไตย ที่บ้านเมืองไร้กฎหมาย ไร้กฎเกณฑ์กติกาและไม่มีขื่อมีแปคนกลุ่มใดนึกอยากทำอะไรก็ทำได้ตามใจชอบ

ข้าราชการนั้นเป็นหลักของแผ่นดิน นักการเมืองมาแล้วก็จากไปในชั่วเวลาอันสั้น แต่ข้าราชการนั้นบางคนรับราชการทั้งชีวิต โดยไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงเจ้ากระทรวงสักกี่สิบคนก็ตาม และถ้าต้องการจะโค่นล้มรัฐบาลอย่างเด็ดขาด ทำไมถึงไม่ไปเล่นงานรัฐมนตรีของกระทรวงต่างๆ โดยตรง แต่กลับมาไล่เบี้ยเอากับข้าราชการพลเรือนซึ่งไม่มีทางสู้รบตบมือด้วย?

ผมนับถือความเป็นคนใจถึงของคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ดังนั้น วันนี้จึงขอพูดอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้แหละครับ…และถ้าวันนี้ยังรับราชการอยู่ เช้าวันที่ 13 มกราคม นี้ ผมก็จะไปทำงานตามปกติ

ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20140113/176667.html (ขนาดไฟล์: 167)

ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 13 ม.ค.57

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 13 ม.ค.57
วันที่โพสต์: 13/01/2557 เวลา 02:32:59 ดูภาพสไลด์โชว์ 13มกราคม2557 : วันเว้นวัน จันทร์ พุธ ศุกร์ กับ ประภัสสร เสวิกุล

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ชายยืนถือธงชาติ โบกสะบัด ถ้าวันนี้ยังรับราชการอยู่ เช้าวันที่ 13 มกราคม 2557 ผมก็จะไปทำงานตามปกติ เช่นเดียวกับที่เคยทำมาในสมัยเหตุการณ์วันมหาวิปโยค-14 ตุลาคม 2516 หรือพฤษภาทมิฬ-17 พฤษภาคม 2535 เพราะผมเป็นข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มิใช่คนของ จอมพลถนอม กิตติขจร พล.อ.สุจินดา คราประยูร หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และข้าราชการก็มิได้อยู่ในระบอบทักษิณ แต่อยู่ใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข การเรียกร้อง กดดัน หรือกีดขวาง มิให้ข้าราชการปฏิบัติงานตามหน้าที่หรือละทิ้งหน้าที่ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีความขัดแย้งทางการเมืองเกิดขึ้นอยู่เนืองๆ แต่ก็เป็นเรื่องของฝ่ายการเมือง ที่จะหาทางต่อสู้เอาชนะกันตามวิถีทางของการเมือง ไม่ได้ลากดึงข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้น แม้จะมีความวุ่นวายทางการเมืองเกิดขึ้นสักกี่ครั้ง หรือว่างเว้นรัฐบาลไปชั่วขณะสักกี่คราว แต่ราชการงานเมืองก็ยังคงดำเนินต่อไปเป็นปกติ ไม่มีผลกระทบต่อกิจการของแผ่นดิน เพราะข้าราชการต่างก็ทำงานตามหน้าที่ของตน ประเทศไทยนั้น มีความสัมพันธ์และติดต่อเชื่อมโยงเรื่องต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ การค้า การเจรจาทางธุรกิจ การลงทุน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความมั่นคง การคมนาคม การสื่อสาร วิชาการ การป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติ ฯลฯ กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก อยู่ตลอดเวลา การปิดกั้นสถานที่ราชการไม่ให้ข้าราชการเข้าไปทำงานก็ดี การก่อกวนด้วยวิธีการต่างๆ ก็ดี การตัดน้ำตัดไฟก็ดี ล้วนส่งผลให้ประเทศไทยโดดเดี่ยวตัวเองจากประชาคมโลก ซึ่งปัจจุบันนี้ความล่าช้าแม้เพียงเสี้ยววินาทีก็อาจสร้างความเสียหายแก่ ประเทศชาติอย่างไม่สามารถประมาณค่าได้ รวมทั้งอาจทำให้ประเทศไทยและคนไทยสูญเสียบทบาทบนเวทีโลก หรือโอกาสอันดีไปอย่างน่าเสียดาย คนที่ออกแบบ “ชัตดาวน์ กรุงเทพฯ” นั้น น่าจะมีความใกล้ชิดกับคนที่เคยเสนอแนวคิด “ปิดประเทศไทย” ซึ่งเป็นเรื่องน่าประหลาดใจว่า กับการขับไล่โจรออกจากบ้าน ทำไมเราถึงกับต้องทำรั้วทองแดงกำแพงเหล็กปิดขังตัวเองอยู่ในบ้านของตัวเอง เลยหรือ? และนี่เรากำลังกำจัดโจร หรือจำกัดตัวของเราเองกันแน่? พม่าที่เคยปิดเมืองหลวงปิดประเทศนั้น ก็เห็นกันแล้วว่าล้าหลังเพื่อนบ้านร่วม 50 ปี-ในยุคโลกาภิวัตน์ เช่นปัจจุบัน ถ้าวันนี้เราปิดกรุงเทพฯ ปิดประเทศไทยและเหตุการณ์ยืดเยื้อออกไป ผมเดาไม่ถูกหรอกครับว่าเราจะล้าหลังพม่าไปสักกี่ปี? ขอเรียนว่า ผมเห็นด้วยกับการที่ข้าราชการจะไปร่วมชุมนุมนอกเวลาราชการ และเห็นด้วยอย่างยิ่งถ้าข้าราชการจะแสดงทัศนะและแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ตามความคิดเห็นของตน เพราะนั่นเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคลตามระบอบประชาธิปไตย แต่ยืนยันว่าผมไม่เห็นด้วย กับการใช้สิทธิและเสรีภาพดังกล่าว ไปรบกวนหรือละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น เพราะนั่นคือการกระทำที่ไม่เป็นประชาธิปไตยแม้แต่น้อย และมีความโน้มเอียงไปสู่อนาธิปไตย ที่บ้านเมืองไร้กฎหมาย ไร้กฎเกณฑ์กติกาและไม่มีขื่อมีแปคนกลุ่มใดนึกอยากทำอะไรก็ทำได้ตามใจชอบ ข้าราชการนั้นเป็นหลักของแผ่นดิน นักการเมืองมาแล้วก็จากไปในชั่วเวลาอันสั้น แต่ข้าราชการนั้นบางคนรับราชการทั้งชีวิต โดยไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงเจ้ากระทรวงสักกี่สิบคนก็ตาม และถ้าต้องการจะโค่นล้มรัฐบาลอย่างเด็ดขาด ทำไมถึงไม่ไปเล่นงานรัฐมนตรีของกระทรวงต่างๆ โดยตรง แต่กลับมาไล่เบี้ยเอากับข้าราชการพลเรือนซึ่งไม่มีทางสู้รบตบมือด้วย? ผมนับถือความเป็นคนใจถึงของคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ดังนั้น วันนี้จึงขอพูดอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้แหละครับ…และถ้าวันนี้ยังรับราชการอยู่ เช้าวันที่ 13 มกราคม นี้ ผมก็จะไปทำงานตามปกติ ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20140113/176667.html ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 13 ม.ค.57

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...