shutdown Bangkok มหากาพย์การเมือง
จุดเริ่มต้นของมหากาพย์ - การเมืองครุกรุ่นตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมลากยาวข้ามปี โดยคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. นำมวลมหาประชาชนขับไล่รัฐบาลโดยมีชนวนมาจาก พรบ.นิรโทษกรรมสุดซอย และการที่รัฐบาลปฏิเสธอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีการประกาศเดดไลน์ชัยชนะหลายระลอกแต่ก็ไม่เห็นจะมีทีท่าว่ารัฐบาลจะมีการยอมแพ้แต่อย่างใด โดยข้อเรียกร้องของกลุ่มมวลมหาประชาชนต้องการให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและคณะรักษาการรัฐมนตรีลาออก เพื่อก่อให้เกิดการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง แต่ฝ่ายรัฐบาลและผู้สนับสนุนวิถีตามประชาธิปไตยเห็นว่า ควรจะมีการเลือกตั้งก่อนการปฎิรูป ซึ่งทางกลุ่มกปปส.และ มวลมหาประชาชนเตรียมเคลื่อนพลใหญ่โดยเรียกยุทธการครั้งนี้ว่า’ปิดกรุงเทพฯ’ หรือ ‘shutdown Bangkok’
ยิ่งใหญ๋ เทียบเคียง Les Miserables - นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้วิเคราะห์ว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้เปรียบเหมือนยุทธการ Barricade (ด่านกั้น) ในการกบฏในเมืองปารีสเมื่อปี ค.ศ. 1832 ประชาชนชาวปารีสกลุ่มหนึ่ง ได้ลุกขึ้นมาปิดเมืองด้วยการก่อ ‘barricade’ หรือ ‘ด่านกั้น’ ตามแยกถนนทั่วเมือง สุดท้ายก็พ่ายแพ้กำลังอาวุธของฝ่ายเจ้าหน้าที่ เพราะไม่สามารถปลุกมวลชนชาวปารีสให้ลุกขึ้นมาได้ในจำนวนที่เพียงพอ
จากความพ่ายแพ้นี้จึงทำให้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปอีกเป็นสิบปี ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว Victor Hugo ได้นำไปเขียนเป็นหนังสือชื่อก้องโลก Les Miserables ก่อนที่จะถูกแปลงไปเป็นละครเพลงและภาพยนตร์ชื่อดัง โดยถ้าหากคิดว่าฝรั่งจะไม่เข้าใจที่ไทยกำลังทำ ก็ให้ไปดูหนังเรื่องนี้ได้เลย
ชัตดาวน์เอเซีย – หากไปดูประเทศในแถบเอเซีย การปิดเมืองประท้วงนั้นเคยเกิดขึ้นที่ประเทศจีน เมื่อประชาชนในเมืองหยูเหยา ในมณฑลเจ้อเจียง รวมตัวประท้วงไม่พอใจที่รัฐบาลเยียวยาช่วยเหลือล่าช้าหลังจากที่พวกเขาต้อง เผชิญพายุไต้ฝุ่นพัดเข้าถล่ม เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดเหตุรุนแรงกับผู้ประท้วงหลายพันคน และเสียชีวิตมากกว่า 10 คน
ที่ประเทศอินเดีย ชาวอินเดียในรัฐเบงกอลตะวันตกพากันหยุดงานออกมาเดินขบวนประท้วงรัฐบาล 1 วัน หลังรัฐบาลอินเดียปฏิเสธข้อเรียกร้องให้ยกเลิกการขึ้นราคาน้ำมันสูงสุด ส่งผลให้สนามบินกัลกัตตาต้องพักเที่ยวบินชั่วคราว ระบบการคมนาคมและธุรกิจภายในเมืองกัลกัตตา เมืองหลวงรัฐเบงกอลตะวันตก ชะงักไปทั้งเมือง มีการปะทะกันประปรายระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ และมีการประท้วงเล็กน้อยในนครมุมไป เมืองเศรษฐกิจของประเทศในรัฐมหาราษฎระ และกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย
ส่วนประเทศกัมพูชาเริ่มมีการเดินตามโมเดลของมวลมหาประชาชนเช่นเดียวกัน เนื่องจากการอยู่ภายใต้รัฐบาลสมเด็จฮุน เซน ยาวนานถึง30ปี ซึ่งมีผู้เรียกร้องก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนำโดยนายสม รังษี ผู้นำฝ่ายค้าน ระดมผู้ชุมนุมเข้ากรุงพนมเปญ แต่ถ้าเทียบกันกับจำนวนมวลมหาประชาชนของไทย ที่ประเทศกัมพูชามีเพียงหลักหมื่นคนเท่านั้น
ประเทศไทยปิด-ประเทศพม่าเปิด - แต่ในทางกลับกันประเทศพม่าที่มีการปิดประเทศ ยาวนานตั้งแต่ปี 2505 ตั้งแต่ยุคของนายพลเนวิน ยาวนานจนถึงปัจจุบัน 52 ปี จนได้รับฉายาว่า ฤาษีแห่งเอเชีย แต่ตอนนี้พม่าเริ่มเปิดประเทศพัฒนาแล้ว โดยเริ่มพัฒนาทั้งบ้านเมืองและ ระบอบประชาธิปไตย ซึ่งผู้นำพม่าเผยว่าได้มีการปล่อยนักโทษการเมืองทั้งหมดแล้ว รวมถึงจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้นางอองซานซูจี หัวหน้าพรรค NLD สามารถลงเลือกตั้งได้ด้วย ซึ่งการปฏิรูปในพม่าทางด้านเศรษฐกิจได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติเป็นอย่าง มาก เพราะพม่าอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ก๊าซในทะเล เหมืองแร่ และน้ำมัน โดยในปี 2557 พม่าก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งชาติผู้นำอาเซียนด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกเหมือน กันที่ว่า ประเทศที่ปิดมานานเกือบ50ปี กลับต้องการเปิดประเทศต้องการความเจริญ แต่ประเทศไทยที่เรียกได้ว่าพัฒนารุดหน้าในชาติอาเซียนกลับกำลังทำเหมือนปิดประเทศ ถอยหลังเข้าคลอง เหมือนภาพการ์ตูนไลน์ที่เค้าทำล้อเลียนกันว่า ชาติอื่นกำลังนั่งหัวเราะที่บ้านเราทะเลาะกันเอง ถ้านับระยะเวลาตอนนี้ก็ตีกันจนจะครบ 9 ปีแล้ว ไม่น่าแปลกใจที่ชาติอื่นเขาว่างจนพัฒนาชาติไปจนถึงระบบ 5G แล้ว
ขอบคุณ… http://news.mthai.com/hot-news/300837.html
(MThai Newsออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 10 ม.ค.57 )
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ จุดเริ่มต้นของมหากาพย์ - การเมืองครุกรุ่นตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมลากยาวข้ามปี โดยคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. นำมวลมหาประชาชนขับไล่รัฐบาลโดยมีชนวนมาจาก พรบ.นิรโทษกรรมสุดซอย และการที่รัฐบาลปฏิเสธอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีการประกาศเดดไลน์ชัยชนะหลายระลอกแต่ก็ไม่เห็นจะมีทีท่าว่ารัฐบาลจะมีการยอมแพ้แต่อย่างใด โดยข้อเรียกร้องของกลุ่มมวลมหาประชาชนต้องการให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและคณะรักษาการรัฐมนตรีลาออก เพื่อก่อให้เกิดการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง แต่ฝ่ายรัฐบาลและผู้สนับสนุนวิถีตามประชาธิปไตยเห็นว่า ควรจะมีการเลือกตั้งก่อนการปฎิรูป ซึ่งทางกลุ่มกปปส.และ มวลมหาประชาชนเตรียมเคลื่อนพลใหญ่โดยเรียกยุทธการครั้งนี้ว่า’ปิดกรุงเทพฯ’ หรือ ‘shutdown Bangkok’ Les Miserables ยิ่งใหญ๋ เทียบเคียง Les Miserables - นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้วิเคราะห์ว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้เปรียบเหมือนยุทธการ Barricade (ด่านกั้น) ในการกบฏในเมืองปารีสเมื่อปี ค.ศ. 1832 ประชาชนชาวปารีสกลุ่มหนึ่ง ได้ลุกขึ้นมาปิดเมืองด้วยการก่อ ‘barricade’ หรือ ‘ด่านกั้น’ ตามแยกถนนทั่วเมือง สุดท้ายก็พ่ายแพ้กำลังอาวุธของฝ่ายเจ้าหน้าที่ เพราะไม่สามารถปลุกมวลชนชาวปารีสให้ลุกขึ้นมาได้ในจำนวนที่เพียงพอ จากความพ่ายแพ้นี้จึงทำให้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปอีกเป็นสิบปี ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว Victor Hugo ได้นำไปเขียนเป็นหนังสือชื่อก้องโลก Les Miserables ก่อนที่จะถูกแปลงไปเป็นละครเพลงและภาพยนตร์ชื่อดัง โดยถ้าหากคิดว่าฝรั่งจะไม่เข้าใจที่ไทยกำลังทำ ก็ให้ไปดูหนังเรื่องนี้ได้เลย ชัตดาวน์เอเซีย – หากไปดูประเทศในแถบเอเซีย การปิดเมืองประท้วงนั้นเคยเกิดขึ้นที่ประเทศจีน เมื่อประชาชนในเมืองหยูเหยา ในมณฑลเจ้อเจียง รวมตัวประท้วงไม่พอใจที่รัฐบาลเยียวยาช่วยเหลือล่าช้าหลังจากที่พวกเขาต้อง เผชิญพายุไต้ฝุ่นพัดเข้าถล่ม เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดเหตุรุนแรงกับผู้ประท้วงหลายพันคน และเสียชีวิตมากกว่า 10 คน ที่ประเทศอินเดีย ชาวอินเดียในรัฐเบงกอลตะวันตกพากันหยุดงานออกมาเดินขบวนประท้วงรัฐบาล 1 วัน หลังรัฐบาลอินเดียปฏิเสธข้อเรียกร้องให้ยกเลิกการขึ้นราคาน้ำมันสูงสุด ส่งผลให้สนามบินกัลกัตตาต้องพักเที่ยวบินชั่วคราว ระบบการคมนาคมและธุรกิจภายในเมืองกัลกัตตา เมืองหลวงรัฐเบงกอลตะวันตก ชะงักไปทั้งเมือง มีการปะทะกันประปรายระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ และมีการประท้วงเล็กน้อยในนครมุมไป เมืองเศรษฐกิจของประเทศในรัฐมหาราษฎระ และกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย ส่วนประเทศกัมพูชาเริ่มมีการเดินตามโมเดลของมวลมหาประชาชนเช่นเดียวกัน เนื่องจากการอยู่ภายใต้รัฐบาลสมเด็จฮุน เซน ยาวนานถึง30ปี ซึ่งมีผู้เรียกร้องก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนำโดยนายสม รังษี ผู้นำฝ่ายค้าน ระดมผู้ชุมนุมเข้ากรุงพนมเปญ แต่ถ้าเทียบกันกับจำนวนมวลมหาประชาชนของไทย ที่ประเทศกัมพูชามีเพียงหลักหมื่นคนเท่านั้น shutdown Bangkok มหากาพย์การเมือง ประเทศไทยปิด-ประเทศพม่าเปิด - แต่ในทางกลับกันประเทศพม่าที่มีการปิดประเทศ ยาวนานตั้งแต่ปี 2505 ตั้งแต่ยุคของนายพลเนวิน ยาวนานจนถึงปัจจุบัน 52 ปี จนได้รับฉายาว่า ฤาษีแห่งเอเชีย แต่ตอนนี้พม่าเริ่มเปิดประเทศพัฒนาแล้ว โดยเริ่มพัฒนาทั้งบ้านเมืองและ ระบอบประชาธิปไตย ซึ่งผู้นำพม่าเผยว่าได้มีการปล่อยนักโทษการเมืองทั้งหมดแล้ว รวมถึงจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้นางอองซานซูจี หัวหน้าพรรค NLD สามารถลงเลือกตั้งได้ด้วย ซึ่งการปฏิรูปในพม่าทางด้านเศรษฐกิจได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติเป็นอย่าง มาก เพราะพม่าอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ก๊าซในทะเล เหมืองแร่ และน้ำมัน โดยในปี 2557 พม่าก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งชาติผู้นำอาเซียนด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกเหมือน กันที่ว่า ประเทศที่ปิดมานานเกือบ50ปี กลับต้องการเปิดประเทศต้องการความเจริญ แต่ประเทศไทยที่เรียกได้ว่าพัฒนารุดหน้าในชาติอาเซียนกลับกำลังทำเหมือนปิดประเทศ ถอยหลังเข้าคลอง เหมือนภาพการ์ตูนไลน์ที่เค้าทำล้อเลียนกันว่า ชาติอื่นกำลังนั่งหัวเราะที่บ้านเราทะเลาะกันเอง ถ้านับระยะเวลาตอนนี้ก็ตีกันจนจะครบ 9 ปีแล้ว ไม่น่าแปลกใจที่ชาติอื่นเขาว่างจนพัฒนาชาติไปจนถึงระบบ 5G แล้ว ขอบคุณ… http://news.mthai.com/hot-news/300837.html (MThai Newsออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 10 ม.ค.57 )
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)