เลือกตั้ง 57 ทางออกประเทศไทย : สันติวิธี...ยุติวิกฤติการเมือง

แสดงความคิดเห็น

พล.อ.เอกชัย ศรีวีลาศ ผอ.สํานักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า ให้สัมภาษณ์ในรายการ "เลือกตั้ง 57 ทางออกประเทศไทย"

กรุงเทพฯ 16 ม.ค.-นักสันติวิธีมองขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณรุนแรงที่จะนำไปสู่วิกฤติ แต่ห่วงการเคลื่อนไหวยืดเยื้อทำ 2 ฝ่ายอ่อนล้า นำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่คาดคิด แนะการพูดคุยคือทางออก ชี้สังคมไทยขัดแย้งหนักเหมือนเสียสติต้องปฏิรูปคนอันดับแรก

พล.อ.เอกชัย ศรีวีลาศ ผอ.สํานักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า ให้สัมภาษณ์ในรายการ "เลือกตั้ง 57 ทางออกประเทศไทย" ระบุปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในวันนี้ มีที่มาจากในอดีตที่ยังไม่มีการแก้ไขปัญหา ซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณรุนแรงที่จะนำไปสู่วิกฤติ เพราะการเคลื่อนไหวไปปิดสถานที่ราชการต่างๆ ของ กปปส.เพียงแค่แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ต้องการให้ข้าราชการสนับสนุน ดึงอำนาจรัฐมาอยู่ฝ่ายตนเท่านั้น ไม่ได้ปิดสถานที่ราชการแบบถาวร จะน่าห่วงอยู่บ้างก็กรณีเหตุรุนแรงยิงและปาประทัดยักษ์ต่างๆ ทั้งนี้ วิกฤติจะเกิดขึ้นใน 3 เงื่อนไข คือ เมื่อตำรวจเคลื่อนเข้าสลายการชุมนุมหรือมวลชนเคลื่อนปะทะเหมือนกรณีสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นและกลุ่มนปช.เคลื่อนเข้ากทม.

พล.อ.เอกชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณว่ามีคนไม่พอใจการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. แต่คนส่วนน้อยคงไม่กล้าทำอะไรรุนแรง แต่หากปล่อยสถานการณ์เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จะอ่อนเพลียไปทั้งสองฝ่าย ยิ่งอยู่ยาวนาน สองฝ่ายจะอ่อนล้า ทั้งผู้ชุมและตำรวจ ระบบตัดสินใจจะเสีย อาจตัดสินใจอะไรที่เกินคาดคิด ซึ่งต้องระวังตรงนี้ หากใครทำความรุนแรง จะเสียความชอบธรรมทันที ขณะนี้มองว่าทั้งรัฐบาลและ กปปส.เกือบถึงทางตัน รัฐบาลเองก็มองไม่เห็นอนาคตว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ ขณะที่ กปปส.การปิด กทม.คนเดือดร้อน ในระยะยาวจะทำให้มีปัญหา และหากหยุดเดินเมื่อไรก็จบ มวลชนอ่อนล้า ในที่สุดก็จะเลิกไป เหลือแต่คดีความต่างๆ

ผอ.สํานักสันติวิธีฯ มองว่า รัฐบาลและ กปปส.ทั้งสองฝ่าย ต่างก็มีความต้องการที่ "สุดซอย" ทั้งคู่ ซึ่งเป็นคติเตือนอย่างดีว่า ทำอะไรให้แค่พอประมาณที่จะได้ เมื่อไรที่สุดเต็มที่ จะไม่ได้เลย และเกิดการต่อต้าน ขณะนี้ต้องยอมรับ กปปส.มีอำนาจมาก ปกติคนมีอำนาจควรขอพูดคุย หากไม่คุยจะเสียโอกาส และไม่ได้ปฏิรูปอย่างที่ต้องการ ถ้าครั้งนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯ กปปส. ทำสำเร็จจะถือเป็นครั้งแรกของโลก ที่การปฏิวัติประชาชนทำสำเร็จโดยไม่ใช่อาวุธ แต่ย้ำว่าไม่ว่าที่ไหนในโลก แม้เมื่อจับอาวุธฆ่ากันแล้ว สุดท้ายก็ต้องคุยกัน

ส่วนกรณีสังคมไทยขณะนี้มีความตึงเครียด แบ่งเป็นพวก เป็นฝ่ายมากขึ้น พล.อ.เอกชัย กล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่เชื่อมั่นนักการเมือง มองว่าใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้อำนาจ และเมื่อได้อำนาจแล้ว ก็ไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้น ประชาชนต้องระวังให้ดีทั้งสองฝ่าย ไตร่ตรองให้ดี ความขัดแย้งขณะนี้หนักกว่าเก่ามาก เพื่อนพี่น้อง ขัดแย้งกันจำนวนมาก สังคมไทยเหมือนเสียสติ ต้องปรับสมองวิธีคิด ต้องปฏิรูปคนอันดับแรก ก่อนจะปฏิรูปการเมือง

ขอบคุณ... http://www.mcot.net/site/content?id=52d7c3d8be047087188b45cd#.Uth6hzcrWyg

(สำนักข่าวไทยออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 16 ม.ค.57 )

ที่มา: สำนักข่าวไทยออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 16 ม.ค.57
วันที่โพสต์: 17/01/2557 เวลา 03:42:49 ดูภาพสไลด์โชว์ เลือกตั้ง 57 ทางออกประเทศไทย : สันติวิธี...ยุติวิกฤติการเมือง

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

พล.อ.เอกชัย ศรีวีลาศ ผอ.สํานักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า ให้สัมภาษณ์ในรายการ \"เลือกตั้ง 57 ทางออกประเทศไทย\" กรุงเทพฯ 16 ม.ค.-นักสันติวิธีมองขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณรุนแรงที่จะนำไปสู่วิกฤติ แต่ห่วงการเคลื่อนไหวยืดเยื้อทำ 2 ฝ่ายอ่อนล้า นำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่คาดคิด แนะการพูดคุยคือทางออก ชี้สังคมไทยขัดแย้งหนักเหมือนเสียสติต้องปฏิรูปคนอันดับแรก พล.อ.เอกชัย ศรีวีลาศ ผอ.สํานักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า ให้สัมภาษณ์ในรายการ "เลือกตั้ง 57 ทางออกประเทศไทย" ระบุปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในวันนี้ มีที่มาจากในอดีตที่ยังไม่มีการแก้ไขปัญหา ซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณรุนแรงที่จะนำไปสู่วิกฤติ เพราะการเคลื่อนไหวไปปิดสถานที่ราชการต่างๆ ของ กปปส.เพียงแค่แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ต้องการให้ข้าราชการสนับสนุน ดึงอำนาจรัฐมาอยู่ฝ่ายตนเท่านั้น ไม่ได้ปิดสถานที่ราชการแบบถาวร จะน่าห่วงอยู่บ้างก็กรณีเหตุรุนแรงยิงและปาประทัดยักษ์ต่างๆ ทั้งนี้ วิกฤติจะเกิดขึ้นใน 3 เงื่อนไข คือ เมื่อตำรวจเคลื่อนเข้าสลายการชุมนุมหรือมวลชนเคลื่อนปะทะเหมือนกรณีสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นและกลุ่มนปช.เคลื่อนเข้ากทม. พล.อ.เอกชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณว่ามีคนไม่พอใจการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. แต่คนส่วนน้อยคงไม่กล้าทำอะไรรุนแรง แต่หากปล่อยสถานการณ์เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จะอ่อนเพลียไปทั้งสองฝ่าย ยิ่งอยู่ยาวนาน สองฝ่ายจะอ่อนล้า ทั้งผู้ชุมและตำรวจ ระบบตัดสินใจจะเสีย อาจตัดสินใจอะไรที่เกินคาดคิด ซึ่งต้องระวังตรงนี้ หากใครทำความรุนแรง จะเสียความชอบธรรมทันที ขณะนี้มองว่าทั้งรัฐบาลและ กปปส.เกือบถึงทางตัน รัฐบาลเองก็มองไม่เห็นอนาคตว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ ขณะที่ กปปส.การปิด กทม.คนเดือดร้อน ในระยะยาวจะทำให้มีปัญหา และหากหยุดเดินเมื่อไรก็จบ มวลชนอ่อนล้า ในที่สุดก็จะเลิกไป เหลือแต่คดีความต่างๆ ผอ.สํานักสันติวิธีฯ มองว่า รัฐบาลและ กปปส.ทั้งสองฝ่าย ต่างก็มีความต้องการที่ "สุดซอย" ทั้งคู่ ซึ่งเป็นคติเตือนอย่างดีว่า ทำอะไรให้แค่พอประมาณที่จะได้ เมื่อไรที่สุดเต็มที่ จะไม่ได้เลย และเกิดการต่อต้าน ขณะนี้ต้องยอมรับ กปปส.มีอำนาจมาก ปกติคนมีอำนาจควรขอพูดคุย หากไม่คุยจะเสียโอกาส และไม่ได้ปฏิรูปอย่างที่ต้องการ ถ้าครั้งนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯ กปปส. ทำสำเร็จจะถือเป็นครั้งแรกของโลก ที่การปฏิวัติประชาชนทำสำเร็จโดยไม่ใช่อาวุธ แต่ย้ำว่าไม่ว่าที่ไหนในโลก แม้เมื่อจับอาวุธฆ่ากันแล้ว สุดท้ายก็ต้องคุยกัน ส่วนกรณีสังคมไทยขณะนี้มีความตึงเครียด แบ่งเป็นพวก เป็นฝ่ายมากขึ้น พล.อ.เอกชัย กล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่เชื่อมั่นนักการเมือง มองว่าใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้อำนาจ และเมื่อได้อำนาจแล้ว ก็ไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้น ประชาชนต้องระวังให้ดีทั้งสองฝ่าย ไตร่ตรองให้ดี ความขัดแย้งขณะนี้หนักกว่าเก่ามาก เพื่อนพี่น้อง ขัดแย้งกันจำนวนมาก สังคมไทยเหมือนเสียสติ ต้องปรับสมองวิธีคิด ต้องปฏิรูปคนอันดับแรก ก่อนจะปฏิรูปการเมือง ขอบคุณ... http://www.mcot.net/site/content?id=52d7c3d8be047087188b45cd#.Uth6hzcrWyg (สำนักข่าวไทยออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 16 ม.ค.57 )

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...