ชวนแบ่งปัน ‘ให้ชีวิตใหม่’ ผู้ป่วยเด็กหัวใจพิการ

แสดงความคิดเห็น

คอลัมน์ หมายเหตุประชาชน

แม้จะผ่านวันแห่งความรักมาแล้ว แต่ยังถืออยู่ในเดือนที่อบอวลไปด้วยความรัก และการให้ความรักนี้ไม่ได้จำกัดแค่เพียงรักระหว่างหนุ่มสาว แต่ยังรวมไปถึงการให้ความรักทุกรูปแบบ ทั้งรักครอบครัว รักเพื่อนพ้อง

ในโอกาสนี้ห้างสรรพสินค้าโรบินสันจึงเชิญชวนให้ทุกคนแสดงออกถึงความรัก และแบ่งปันความรักสู่สังคม ภายใต้โครงการ “Robinson : We Care We Share มอบหัวใจดวงใหม่ให้น้องน้อย” สนับสนุนให้กับ ผู้ป่วยเด็กหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิดที่อยู่ในความดูแลของ “มูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ” (ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยา ณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์) ณ แผนกเด็กโรคหัวใจ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น โดยพร้อมมอบเงินสมทบทุนจากแคมเปญ “Season of Love” พร้อมนำตุ๊กตาหมีน้อยส่งรัก “Bear with Love” ตัวแทนแห่งความรักอันบริสุทธิ์ ไปมอบให้กับเด็กด้อยโอกาสที่ป่วยเป็นโรคหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิด และเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจดวงใหม่ ภายใต้ความดูแลของ มูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ

ศาสตราจารย์นายแพทย์บุญชอบ พงษ์พาณิชย์ ประธานมูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ กล่าวถึงสถานการณ์ของเด็กที่เป็นโรคหัวใจว่า ในปีหนึ่ง ๆ ประเทศไทยมีเด็กเกิดเป็นโรคหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิดกว่า 7,000-8,000 คน (ร้อยละ 0.8–1.0 ของการเกิดมีชีวิต มีโรคหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิด) และโรคหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิดเพียงร้อยละ 5 เท่านั้น ที่สามารถป้องกันได้ เช่น เกิดจากมารดาที่มีเชื้อหัดเยอรมันระหว่างตั้งครรภ์ในช่วง 3- 4 เดือนแรกอีกร้อยละ 95 ไม่ทราบสาเหตุ จำนวนเด็กเกิดใหม่ที่เป็นโรคหัวใจร้อยละ 50 หรือกว่า 3,500 คน ต้องได้รับการรักษา โดยการผ่าตัด หรือ ใช้สายสวนหัวใจ, ปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่งของเด็กผู้ป่วยโรคหัวใจ คือ ร้อยละ 20 เป็นผู้พิการซ้ำซ้อน จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญเป็นพิเศษ ซึ่งต้องได้รับการผ่าตัดภายในอายุ 1 ปี หรือบางรายภายใน 1 เดือน มิฉะนั้นจะเสียชีวิตหรือผ่าตัดไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีเด็กโรคหัวใจในชนบทอีกมากที่ยังไม่ได้เข้ารับการตรวจรักษา บางรายยังไม่ทราบว่าเป็นโรคหัวใจ

จากปัญหาดังกล่าว มูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ จึงได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลและสถาบันต่าง ๆ ที่สามารถผ่าตัดเด็กโรคหัวใจได้ดำเนินโครงการผ่าตัดเด็กโรคหัวใจนอกเวลาราชการขึ้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 เช่น หลัง 16.30 น. ของวันทำงาน และเสาร์-อาทิตย์ ก็นำเด็กพันกว่าคนที่เหลือมารับการผ่าตัดนอกเวลา ทำให้สถิติของการรักษาเด็กได้เพิ่มมากขึ้น ลดภาวะแทรกซ้อนและลดอัตราการเสียชีวิตทำให้เด็กมีสุขภาพ และคุณภาพชีวิตที่ดี และดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

มูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ จะสนับสนุนเงินค่าผ่าตัดให้กับโรงพยาบาลรัฐ 20 แห่ง และโรงพยาบาลเอกชน อีก 5 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสม เด็ก 1 ราย ใช้งบในการผ่าตัดหัวใจ 20,000 บาท ต่อราย (ปกติค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดหัวใจ รายละ 400,000-1,000,000 บาท) ทางโครงการฯ จะรับผู้ป่วยเด็กด้วยการลงพื้นที่ออกตรวจสุขภาพเด็กทั่วประเทศ และทางผู้ปกครองเขียนจดหมายคำร้องขอมายังมูลนิธิ ซึ่งทั้ง 2 วิธีจะมีคณะกรรมการพิจารณาคัดกรองเด็กที่ป่วยและให้การสนับสนุน โดย รพ. ที่เข้าร่วมโครงการฯ ที่อยู่ใกล้พื้นที่ดำเนินการต่อไป

คุณกาญจนวรรณ ผู้บริหารโรบินสัน กล่าวว่า การผ่าตัดผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจแต่ละรายมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ทำให้ผู้ป่วยที่มีฐานะยากจนขาดโอกาสที่จะได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว โครงการมอบหัวใจดวงใหม่ให้น้องน้อย ในครั้งนี้ หวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เด็กด้อยโอกาสที่ป่วยด้วยโรคหัวใจพิการฯ มีโอกาสได้ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจดวงใหม่ ช่วยเติมรอยยิ้มให้เค้าเติบโตขึ้นอย่างสดใสและแข็งแรงใช้ชีวิตได้อย่างคน ปกติ และอยากขอเชิญชวนให้ทุก ๆ คน เข้ามาช่วยสนับสนุนกันเยอะ ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางสังคมให้กับเยาวชนเหล่านี้ เพราะยังมีผู้ป่วยที่รอคอยความช่วยเหลืออยู่อีกมาก

เด็กชายภูริภัทร สมัครดี หรือ น้องกาฟิลด์ อายุ 4 ขวบ 6 เดือน เป็นหนึ่งในผู้ป่วยโรคหัวใจพิการมาแต่กำเนิด และเพิ่งรับการผ่าตัดเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 57 โดยนางนรินทร์ สมัครดี คุณแม่น้องกาฟิลด์ กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้รับความช่วยเหลือจากทางมูลนิธิฯ ครอบครัวมีความเป็นห่วงและกังวลอย่างมาก เพราะหากต้องรอคิวการรักษาเป็นเวลานาน น้องอาจไม่สามารถรอไหวจริง ๆ ต้องขอขอบคุณ รวมถึงแพทย์ พยาบาล และทีมงานทุกคนจริง ๆ ที่ให้โอกาสและให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ ทำให้น้องกาฟิลด์ ได้มีโอกาสมีชีวิตต่อไปดังเช่นเด็กปกติทั่วไป

ศาสตราจารย์นายแพทย์บุญชอบ กล่าวว่า แนวทางแก้ปัญหาโรคหัวใจผิดปกติในเด็ก ต้องแก้ตั้งแต่ต้นทาง เริ่มจากการคัดกรองผู้ป่วยจากทีมแพทย์และพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญ เนื่องจากเด็กกว่า 40% ไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคหัวใจหรือขาดการรักษาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยากต่อการเข้าถึงเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย จึงต้องเร่งฝึกอบรมบุคลากรคัดกรองเด็กป่วยเป็นโรคหัวใจ ให้สามารถใช้อุปกรณ์ตรวจคลื่นเสียงหัวใจและวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งใช้จิตวิทยากระตุ้นให้คนไข้เข้ารับการตรวจรักษาให้เร็วที่สุด การให้ แม้เพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็สร้างความสุขอันยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้น ทั้งกับผู้ให้และผู้รับ.

ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/Content/Article/217160/index.html (ขนาดไฟล์: 167)

เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 20 ก.พ.57

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 20 ก.พ.57
วันที่โพสต์: 21/02/2557 เวลา 04:06:06 ดูภาพสไลด์โชว์ ชวนแบ่งปัน ‘ให้ชีวิตใหม่’ ผู้ป่วยเด็กหัวใจพิการ

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

คอลัมน์ หมายเหตุประชาชน แม้จะผ่านวันแห่งความรักมาแล้ว แต่ยังถืออยู่ในเดือนที่อบอวลไปด้วยความรัก และการให้ความรักนี้ไม่ได้จำกัดแค่เพียงรักระหว่างหนุ่มสาว แต่ยังรวมไปถึงการให้ความรักทุกรูปแบบ ทั้งรักครอบครัว รักเพื่อนพ้อง ในโอกาสนี้ห้างสรรพสินค้าโรบินสันจึงเชิญชวนให้ทุกคนแสดงออกถึงความรัก และแบ่งปันความรักสู่สังคม ภายใต้โครงการ “Robinson : We Care We Share มอบหัวใจดวงใหม่ให้น้องน้อย” สนับสนุนให้กับ ผู้ป่วยเด็กหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิดที่อยู่ในความดูแลของ “มูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ” (ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยา ณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์) ณ แผนกเด็กโรคหัวใจ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น โดยพร้อมมอบเงินสมทบทุนจากแคมเปญ “Season of Love” พร้อมนำตุ๊กตาหมีน้อยส่งรัก “Bear with Love” ตัวแทนแห่งความรักอันบริสุทธิ์ ไปมอบให้กับเด็กด้อยโอกาสที่ป่วยเป็นโรคหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิด และเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจดวงใหม่ ภายใต้ความดูแลของ มูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ ศาสตราจารย์นายแพทย์บุญชอบ พงษ์พาณิชย์ ประธานมูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ กล่าวถึงสถานการณ์ของเด็กที่เป็นโรคหัวใจว่า ในปีหนึ่ง ๆ ประเทศไทยมีเด็กเกิดเป็นโรคหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิดกว่า 7,000-8,000 คน (ร้อยละ 0.8–1.0 ของการเกิดมีชีวิต มีโรคหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิด) และโรคหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิดเพียงร้อยละ 5 เท่านั้น ที่สามารถป้องกันได้ เช่น เกิดจากมารดาที่มีเชื้อหัดเยอรมันระหว่างตั้งครรภ์ในช่วง 3- 4 เดือนแรกอีกร้อยละ 95 ไม่ทราบสาเหตุ จำนวนเด็กเกิดใหม่ที่เป็นโรคหัวใจร้อยละ 50 หรือกว่า 3,500 คน ต้องได้รับการรักษา โดยการผ่าตัด หรือ ใช้สายสวนหัวใจ, ปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่งของเด็กผู้ป่วยโรคหัวใจ คือ ร้อยละ 20 เป็นผู้พิการซ้ำซ้อน จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญเป็นพิเศษ ซึ่งต้องได้รับการผ่าตัดภายในอายุ 1 ปี หรือบางรายภายใน 1 เดือน มิฉะนั้นจะเสียชีวิตหรือผ่าตัดไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีเด็กโรคหัวใจในชนบทอีกมากที่ยังไม่ได้เข้ารับการตรวจรักษา บางรายยังไม่ทราบว่าเป็นโรคหัวใจ จากปัญหาดังกล่าว มูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ จึงได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลและสถาบันต่าง ๆ ที่สามารถผ่าตัดเด็กโรคหัวใจได้ดำเนินโครงการผ่าตัดเด็กโรคหัวใจนอกเวลาราชการขึ้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 เช่น หลัง 16.30 น. ของวันทำงาน และเสาร์-อาทิตย์ ก็นำเด็กพันกว่าคนที่เหลือมารับการผ่าตัดนอกเวลา ทำให้สถิติของการรักษาเด็กได้เพิ่มมากขึ้น ลดภาวะแทรกซ้อนและลดอัตราการเสียชีวิตทำให้เด็กมีสุขภาพ และคุณภาพชีวิตที่ดี และดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน มูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ จะสนับสนุนเงินค่าผ่าตัดให้กับโรงพยาบาลรัฐ 20 แห่ง และโรงพยาบาลเอกชน อีก 5 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสม เด็ก 1 ราย ใช้งบในการผ่าตัดหัวใจ 20,000 บาท ต่อราย (ปกติค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดหัวใจ รายละ 400,000-1,000,000 บาท) ทางโครงการฯ จะรับผู้ป่วยเด็กด้วยการลงพื้นที่ออกตรวจสุขภาพเด็กทั่วประเทศ และทางผู้ปกครองเขียนจดหมายคำร้องขอมายังมูลนิธิ ซึ่งทั้ง 2 วิธีจะมีคณะกรรมการพิจารณาคัดกรองเด็กที่ป่วยและให้การสนับสนุน โดย รพ. ที่เข้าร่วมโครงการฯ ที่อยู่ใกล้พื้นที่ดำเนินการต่อไป คุณกาญจนวรรณ ผู้บริหารโรบินสัน กล่าวว่า การผ่าตัดผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจแต่ละรายมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ทำให้ผู้ป่วยที่มีฐานะยากจนขาดโอกาสที่จะได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว โครงการมอบหัวใจดวงใหม่ให้น้องน้อย ในครั้งนี้ หวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เด็กด้อยโอกาสที่ป่วยด้วยโรคหัวใจพิการฯ มีโอกาสได้ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจดวงใหม่ ช่วยเติมรอยยิ้มให้เค้าเติบโตขึ้นอย่างสดใสและแข็งแรงใช้ชีวิตได้อย่างคน ปกติ และอยากขอเชิญชวนให้ทุก ๆ คน เข้ามาช่วยสนับสนุนกันเยอะ ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางสังคมให้กับเยาวชนเหล่านี้ เพราะยังมีผู้ป่วยที่รอคอยความช่วยเหลืออยู่อีกมาก เด็กชายภูริภัทร สมัครดี หรือ น้องกาฟิลด์ อายุ 4 ขวบ 6 เดือน เป็นหนึ่งในผู้ป่วยโรคหัวใจพิการมาแต่กำเนิด และเพิ่งรับการผ่าตัดเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 57 โดยนางนรินทร์ สมัครดี คุณแม่น้องกาฟิลด์ กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้รับความช่วยเหลือจากทางมูลนิธิฯ ครอบครัวมีความเป็นห่วงและกังวลอย่างมาก เพราะหากต้องรอคิวการรักษาเป็นเวลานาน น้องอาจไม่สามารถรอไหวจริง ๆ ต้องขอขอบคุณ รวมถึงแพทย์ พยาบาล และทีมงานทุกคนจริง ๆ ที่ให้โอกาสและให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ ทำให้น้องกาฟิลด์ ได้มีโอกาสมีชีวิตต่อไปดังเช่นเด็กปกติทั่วไป ศาสตราจารย์นายแพทย์บุญชอบ กล่าวว่า แนวทางแก้ปัญหาโรคหัวใจผิดปกติในเด็ก ต้องแก้ตั้งแต่ต้นทาง เริ่มจากการคัดกรองผู้ป่วยจากทีมแพทย์และพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญ เนื่องจากเด็กกว่า 40% ไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคหัวใจหรือขาดการรักษาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยากต่อการเข้าถึงเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย จึงต้องเร่งฝึกอบรมบุคลากรคัดกรองเด็กป่วยเป็นโรคหัวใจ ให้สามารถใช้อุปกรณ์ตรวจคลื่นเสียงหัวใจและวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งใช้จิตวิทยากระตุ้นให้คนไข้เข้ารับการตรวจรักษาให้เร็วที่สุด การให้ แม้เพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็สร้างความสุขอันยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้น ทั้งกับผู้ให้และผู้รับ. ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/Content/Article/217160/index.html เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 20 ก.พ.57

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...