เตรียมระดมสมอง หาคำแทน "ปัญญาอ่อน" "บกพร่อง" และ"เด็กพิเศษ" ก่อนชงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับแก้

แสดงความคิดเห็น

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม น.ส.โรสซาลีน่า อเล็กซานเดอร์ แมคเคย์ ในประธาน มูลนิธิเดอะ เรนโบว์ รูม กล่าวในการแถลงโครงการศิลปะการสร้างสายรุ้ง:ละครเวที "เธียเตอร์สายรุ้ง" ว่า ในโครงการศิลปะการสร้างสายรุ้ง เลือกที่จะทำงานกับศิลปินในหลายแขนง เพื่อให้ศิลปินได้มีโอกาสได้สัมผัสกับเด็ก เห็นศักยภาพ และความเป็นไปได้ของเด็ก ๆ และสะท้อนประสบการณ์เหล่านั้น ออกมาในงานศิลปะที่ตนเองถนัด เพราะศิลปะเป็นศาสตร์สากล โดยละครเวทีเธียเตอร์สายรุ้งเป็นหนึ่งในกิจกรรมของโครงการ มีเนื้อหาหลักในการรณรงค์ให้เลิกใช้คำพูดทำร้ายเด็ก โดยเฉพาะคำว่าปัญญาอ่อน เนื่องจากคำพูดเล็ก ๆ สามารถทำร้ายจิตใจกันได้ พ่อแม่ต้องรับผลของคำพูดเหล่านี้ก่อนที่ลูก ๆ จะรู้เรื่อง ลูกบางคนเกิดมาด้วยโครงสร้างของร่างกาย การเชื่อมโยงของสมอง หรือการเรียนรู้ที่แตกต่าง ดังนั้นหากมีคำพูดที่ส่งผลในเชิงลบไม่เพียงแต่ศักยภาพของลูกเท่านั้นที่ถูก จำกัดด้วยคำว่าปัญญาอ่อน แต่รวมถึงศักยภาพของความเป็นพ่อแม่ด้วยที่ได้รับผลกระทบทำให้ขาดกำลังใจในการทุ่มเทความสามารถเพื่อพัฒนาศักยภาพของลูก

นาง วรนันท์ ประเสริฐเมธ นักจิตวิทยา ผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิ เดอะ เรนโบว์ รูม กล่าวว่า ขณะนี้ทางมูลนิธิฯ กำลังรวบรวมหาคำที่เหมาะสมเพื่อเสนอให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้ง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ราชบัณฑิตยสถาน กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน นำไปปรับใช้แทนคำใช้ที่ใช้เรียกเด็ก ที่มีภาวะความต้องการพิเศษต่าง ๆ ทั้ง ออทิสติก ดาวน์ซินโดรม หรือเด็กที่มีภาวะความต้องการพิเศษด้านอื่น ๆ เช่น ตาบอด หูหนวก ฯลฯ ใหม่ ทั้งนี้เพื่อให้สังคมเข้าใจในพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กเหล่านี้ในเชิงบวกมาก ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ คำว่า "บกพร่อง" หรือ "เด็กพิเศษ" ซึ่งทำให้เขามีความแตกต่างกับเด็กอื่น ๆ และถือเป็นคำที่กระทบต่อความรู้สึกของพ่อแม่ หากสามารถหาคำที่เหมาะสมมาแทนคำเหล่านี้ได้ จะช่วยสร้างความเข้าใจในเชิงบวกเพื่อเข้ามาช่วยดูแลเด็กเหล่านี้ ให้มีพัฒนาการดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ในวงการแพทย์ เลิกใช้คำว่า "ปัญญาอ่อน" มานานกว่า 10 ปี แล้ว แต่ก็ยังมีคำว่า "บกพร่อง" หรือ "เด็กพิเศษ" ซึ่งดิฉันในฐานะนักจิตวิทยา เข้าใจว่าในวงการแพทย์ จำเป็นต้องมีศัพท์วิชาการที่เข้าใจตรงกัน แต่การสื่อสารอาจจะต้องหาศัพท์ใหม่ที่ไม่ไปกระทบความรู้สึกของพ่อ แม่ หรือคนในครอบครัวที่มีลูกเป็นเด็กที่มีภาวะความต้องการพิเศษ อย่างเช่น การที่จะบอกพ่อแม่ว่า ลูกของเขา "เป็นออทิสติก" ก็อาจจะเลี่ยงไปใช้คำว่า "มีภาวะ" แทน หากใช้คำว่า "เป็น" เหมือนเป็นการตีตรายางไปแล้วว่าเด็กเป็นอย่างนั้น แต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้ "มี" จะทำให้คนฟังรู้สึกว่าเด็กสามารถพัฒนาได้เช่นเดียวกันเด็กอื่น ๆ ดังนั้นหากมีคำที่ใช้แทนภาวะที่เด็กเหล่านี้ ที่เป็นความรู้สึกในเชิงบวกเป็นก็จะเป็นเรื่องดี"นางวรนันท์กล่าว และว่าส่วนคำที่เหมาะสมนั้น คงต้องระดมความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อหาคำที่สั้น และง่ายต่อความเข้าใจของคนส่วนใหญ่ในสังคม

ขอบคุณ... http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1393848011&grpid=&catid=19&subcatid=1904 (ขนาดไฟล์: 167)

มติชนออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 3 มี.ค.57

ที่มา: มติชนออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 3 มี.ค.57
วันที่โพสต์: 4/03/2557 เวลา 04:08:49

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม น.ส.โรสซาลีน่า อเล็กซานเดอร์ แมคเคย์ ในประธาน มูลนิธิเดอะ เรนโบว์ รูม กล่าวในการแถลงโครงการศิลปะการสร้างสายรุ้ง:ละครเวที "เธียเตอร์สายรุ้ง" ว่า ในโครงการศิลปะการสร้างสายรุ้ง เลือกที่จะทำงานกับศิลปินในหลายแขนง เพื่อให้ศิลปินได้มีโอกาสได้สัมผัสกับเด็ก เห็นศักยภาพ และความเป็นไปได้ของเด็ก ๆ และสะท้อนประสบการณ์เหล่านั้น ออกมาในงานศิลปะที่ตนเองถนัด เพราะศิลปะเป็นศาสตร์สากล โดยละครเวทีเธียเตอร์สายรุ้งเป็นหนึ่งในกิจกรรมของโครงการ มีเนื้อหาหลักในการรณรงค์ให้เลิกใช้คำพูดทำร้ายเด็ก โดยเฉพาะคำว่าปัญญาอ่อน เนื่องจากคำพูดเล็ก ๆ สามารถทำร้ายจิตใจกันได้ พ่อแม่ต้องรับผลของคำพูดเหล่านี้ก่อนที่ลูก ๆ จะรู้เรื่อง ลูกบางคนเกิดมาด้วยโครงสร้างของร่างกาย การเชื่อมโยงของสมอง หรือการเรียนรู้ที่แตกต่าง ดังนั้นหากมีคำพูดที่ส่งผลในเชิงลบไม่เพียงแต่ศักยภาพของลูกเท่านั้นที่ถูก จำกัดด้วยคำว่าปัญญาอ่อน แต่รวมถึงศักยภาพของความเป็นพ่อแม่ด้วยที่ได้รับผลกระทบทำให้ขาดกำลังใจในการทุ่มเทความสามารถเพื่อพัฒนาศักยภาพของลูก นาง วรนันท์ ประเสริฐเมธ นักจิตวิทยา ผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิ เดอะ เรนโบว์ รูม กล่าวว่า ขณะนี้ทางมูลนิธิฯ กำลังรวบรวมหาคำที่เหมาะสมเพื่อเสนอให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้ง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ราชบัณฑิตยสถาน กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน นำไปปรับใช้แทนคำใช้ที่ใช้เรียกเด็ก ที่มีภาวะความต้องการพิเศษต่าง ๆ ทั้ง ออทิสติก ดาวน์ซินโดรม หรือเด็กที่มีภาวะความต้องการพิเศษด้านอื่น ๆ เช่น ตาบอด หูหนวก ฯลฯ ใหม่ ทั้งนี้เพื่อให้สังคมเข้าใจในพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กเหล่านี้ในเชิงบวกมาก ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ คำว่า "บกพร่อง" หรือ "เด็กพิเศษ" ซึ่งทำให้เขามีความแตกต่างกับเด็กอื่น ๆ และถือเป็นคำที่กระทบต่อความรู้สึกของพ่อแม่ หากสามารถหาคำที่เหมาะสมมาแทนคำเหล่านี้ได้ จะช่วยสร้างความเข้าใจในเชิงบวกเพื่อเข้ามาช่วยดูแลเด็กเหล่านี้ ให้มีพัฒนาการดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ในวงการแพทย์ เลิกใช้คำว่า "ปัญญาอ่อน" มานานกว่า 10 ปี แล้ว แต่ก็ยังมีคำว่า "บกพร่อง" หรือ "เด็กพิเศษ" ซึ่งดิฉันในฐานะนักจิตวิทยา เข้าใจว่าในวงการแพทย์ จำเป็นต้องมีศัพท์วิชาการที่เข้าใจตรงกัน แต่การสื่อสารอาจจะต้องหาศัพท์ใหม่ที่ไม่ไปกระทบความรู้สึกของพ่อ แม่ หรือคนในครอบครัวที่มีลูกเป็นเด็กที่มีภาวะความต้องการพิเศษ อย่างเช่น การที่จะบอกพ่อแม่ว่า ลูกของเขา "เป็นออทิสติก" ก็อาจจะเลี่ยงไปใช้คำว่า "มีภาวะ" แทน หากใช้คำว่า "เป็น" เหมือนเป็นการตีตรายางไปแล้วว่าเด็กเป็นอย่างนั้น แต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้ "มี" จะทำให้คนฟังรู้สึกว่าเด็กสามารถพัฒนาได้เช่นเดียวกันเด็กอื่น ๆ ดังนั้นหากมีคำที่ใช้แทนภาวะที่เด็กเหล่านี้ ที่เป็นความรู้สึกในเชิงบวกเป็นก็จะเป็นเรื่องดี"นางวรนันท์กล่าว และว่าส่วนคำที่เหมาะสมนั้น คงต้องระดมความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อหาคำที่สั้น และง่ายต่อความเข้าใจของคนส่วนใหญ่ในสังคม ขอบคุณ... http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1393848011&grpid=&catid=19&subcatid=1904 มติชนออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 3 มี.ค.57

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...