หยุดทำร้ายประเทศชาติ : บทบรรณาธิการประจำวันที่16มี.ค.2557
ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีกับการออกมาประกาศเรียกร้องความสงสารจาก สังคมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จากหลายๆ กรณีในการตัดสินของกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะศาลและองค์กรอิสระที่มีคำ วินิจฉัยถึงการบริหารบ้านเมืองรวมถึงการดำเนินงานต่างๆ ของรัฐบาลที่มีความเคลือบแคลงในการใช้กฎหมาย แต่นายกรัฐมนตรีกลับออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะเหมือนถูกกลั่นแกล้งจากฝ่ายที่ อยู่ตรงข้ามรัฐบาลรุมกินโต๊ะอย่างไม่ปรานีปราศรัย และยืนยันในเจตนาบริสุทธิ์ทำเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองและพวกรากหญ้าที่ จะได้ลืมตาอ้าปากได้ในอนาคต ทั้งที่สังคมไทยรับรู้อาการเสแสร้งจากผู้บริหารประเทศมาตั้งแต่ความพยายามใน การออกกฎหมายนิรโทษกรรม จนนำมาสู่การประท้วงครั้งใหญ่ของมวลมหาประชาชนเป็นประวัติศาสตร์การเมืองไทย เช่นเดียวกับการมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกคนนี้
โครงการจำนำข้าวที่ทำให้ประเทศไทยเจ๊งไปกว่า 5 แสนล้านบาท สถานะการเงินของประเทศต้องกระเทือนไปด้วย เป็นเหตุให้ชาวนาต้องยกทัพรถอีแต๋น อีแต๊ก มาปักหลักประท้วงกันถึงเมืองหลวงนานนับเดือนจากการที่รัฐบาลเบี้ยวจ่ายค่าใบ ประทวน กระทั่งต้องนำข้าวมาเททิ้งหน้ากระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เรียกร้องให้หน่วยงานรัฐจ่ายค่าจำนำข้าวที่ค้างพวกเขามาร่วมครึ่งปี ชาวนาถึงกับต้องกู้หนี้ยืมสินมาใช้จ่ายค่าเทอม ค่าอาหารให้ลูกหลาน บางคนสุดทนถึงขนาดตรอมใจตายแต่ผู้นำหญิงคนนี้ก็ไม่เคยไปเหลียวแลและพูดคุย เป็นกิจจะลักษณะเลย กลับอ้างความเป็นรัฐบาลรักษาการโยนบาปให้กลุ่มผู้ประท้วงและคณะกรรมการการเลือกตั้งขัดขวางไม่เห็นเม็ดเงินถึงมือชาวนา ขณะที่นักการเมืองและพวกพ้อง รวมถึงกลุ่มนายทุน โรงสี กลับร่ำรวยไปตามๆ กันบนคราบเหงื่อไคลของพวกกระดูกสันหลังของชาติเหล่านี้
แต่ก็ถือเป็นโชคดีของคนไทยที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ขนส่งของประเทศ 2 ล้านล้านบาท ขัดต่อรัฐธรรมนูญทั้งในส่วนของเนื้อหาและกระบวนการจัดทำที่มีการเสียบบัตร แทนกัน ช่วยให้ประชาชนและลูกหลานคนไทยไม่ต้องเป็นหนี้ครั้งนี้ไปอีกยาวนานกว่า 50 ปี และไม่รู้ว่านักเลือกตั้งและพวกพ้องจะฟาดเปอร์เซ็นต์จากค่างวดเหล่านี้อีก เท่าไหร่ แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับแสดงความโกรธเคืองศาลที่ไม่ยอมดูเจตนารมณ์ ยึดแต่ข้อกฎหมาย แต่ระหว่างที่กล่าวต่อหน้าสื่อมักจะบอกว่าตัวเองต้องอยู่ในตำแหน่งนายกฯ ก็เพื่อรักษาประชาธิปไตย รักษากฎหมาย ทั้งที่จริงแล้วนักประชาธิปไตยทุกคนเคารพกฎเกณฑ์กติกา เคารพกฎหมายบ้านเมือง เคารพในรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุด รวมไปถึงกระบวนการยุติธรรมทั้งศาลและองค์กรอิสระภายใต้รัฐธรรมนูญด้วย
ตลอดระยะเวลาในการบริหารประเทศมากว่า 2 ปี นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์สร้างระยะห่างกับระบบรัฐสภามาตลอด ทุกครั้งที่มีการตรวจสอบจากฝ่ายค้านหรือภาคประชาชนก็ไม่เคยยืนหยัดในหลักการ ประชาธิปไตยเลย ให้ลิ่วล้อชี้แจงแทนโดยอ้างว่าติดงานราชการในต่างจังหวัด แต่ภายหลังที่ระบอบทักษิณพลั้งพลาดกลับยึดคัมภีร์ประชาธิปไตยไว้เหนียวแน่น ทำผิดแล้วยังไม่รู้สึกนึกหนำซ้ำยังโยนบาปให้กระบวนการยุติธรรมที่ตัดสินขัดอารมณ์ตนเองอีก ปลุกระดมให้กลุ่มคนที่สนับสนุนเดินหน้าชนฝ่ายตรงข้ามตัวเองทั้งที่ปากเพ้อพก เรื่องความปรองดอง ถึงเวลาที่ควรจะเลิกสร้างภาพหลอกลวงชาวโลกก่อนที่ประเทศชาติจะบอบช้ำไป มากกว่านี้
ขอบคุณ… http://www.komchadluek.net/detail/20140316/180921.html#.UyTyazcrWyg (ขนาดไฟล์: 167)
(komchadlueออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 15 มี.ค.57 )
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีกับการออกมาประกาศเรียกร้องความสงสารจาก สังคมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จากหลายๆ กรณีในการตัดสินของกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะศาลและองค์กรอิสระที่มีคำ วินิจฉัยถึงการบริหารบ้านเมืองรวมถึงการดำเนินงานต่างๆ ของรัฐบาลที่มีความเคลือบแคลงในการใช้กฎหมาย แต่นายกรัฐมนตรีกลับออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะเหมือนถูกกลั่นแกล้งจากฝ่ายที่ อยู่ตรงข้ามรัฐบาลรุมกินโต๊ะอย่างไม่ปรานีปราศรัย และยืนยันในเจตนาบริสุทธิ์ทำเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองและพวกรากหญ้าที่ จะได้ลืมตาอ้าปากได้ในอนาคต ทั้งที่สังคมไทยรับรู้อาการเสแสร้งจากผู้บริหารประเทศมาตั้งแต่ความพยายามใน การออกกฎหมายนิรโทษกรรม จนนำมาสู่การประท้วงครั้งใหญ่ของมวลมหาประชาชนเป็นประวัติศาสตร์การเมืองไทย เช่นเดียวกับการมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกคนนี้ โครงการจำนำข้าวที่ทำให้ประเทศไทยเจ๊งไปกว่า 5 แสนล้านบาท สถานะการเงินของประเทศต้องกระเทือนไปด้วย เป็นเหตุให้ชาวนาต้องยกทัพรถอีแต๋น อีแต๊ก มาปักหลักประท้วงกันถึงเมืองหลวงนานนับเดือนจากการที่รัฐบาลเบี้ยวจ่ายค่าใบ ประทวน กระทั่งต้องนำข้าวมาเททิ้งหน้ากระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เรียกร้องให้หน่วยงานรัฐจ่ายค่าจำนำข้าวที่ค้างพวกเขามาร่วมครึ่งปี ชาวนาถึงกับต้องกู้หนี้ยืมสินมาใช้จ่ายค่าเทอม ค่าอาหารให้ลูกหลาน บางคนสุดทนถึงขนาดตรอมใจตายแต่ผู้นำหญิงคนนี้ก็ไม่เคยไปเหลียวแลและพูดคุย เป็นกิจจะลักษณะเลย กลับอ้างความเป็นรัฐบาลรักษาการโยนบาปให้กลุ่มผู้ประท้วงและคณะกรรมการการเลือกตั้งขัดขวางไม่เห็นเม็ดเงินถึงมือชาวนา ขณะที่นักการเมืองและพวกพ้อง รวมถึงกลุ่มนายทุน โรงสี กลับร่ำรวยไปตามๆ กันบนคราบเหงื่อไคลของพวกกระดูกสันหลังของชาติเหล่านี้ แต่ก็ถือเป็นโชคดีของคนไทยที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ขนส่งของประเทศ 2 ล้านล้านบาท ขัดต่อรัฐธรรมนูญทั้งในส่วนของเนื้อหาและกระบวนการจัดทำที่มีการเสียบบัตร แทนกัน ช่วยให้ประชาชนและลูกหลานคนไทยไม่ต้องเป็นหนี้ครั้งนี้ไปอีกยาวนานกว่า 50 ปี และไม่รู้ว่านักเลือกตั้งและพวกพ้องจะฟาดเปอร์เซ็นต์จากค่างวดเหล่านี้อีก เท่าไหร่ แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับแสดงความโกรธเคืองศาลที่ไม่ยอมดูเจตนารมณ์ ยึดแต่ข้อกฎหมาย แต่ระหว่างที่กล่าวต่อหน้าสื่อมักจะบอกว่าตัวเองต้องอยู่ในตำแหน่งนายกฯ ก็เพื่อรักษาประชาธิปไตย รักษากฎหมาย ทั้งที่จริงแล้วนักประชาธิปไตยทุกคนเคารพกฎเกณฑ์กติกา เคารพกฎหมายบ้านเมือง เคารพในรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุด รวมไปถึงกระบวนการยุติธรรมทั้งศาลและองค์กรอิสระภายใต้รัฐธรรมนูญด้วย ตลอดระยะเวลาในการบริหารประเทศมากว่า 2 ปี นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์สร้างระยะห่างกับระบบรัฐสภามาตลอด ทุกครั้งที่มีการตรวจสอบจากฝ่ายค้านหรือภาคประชาชนก็ไม่เคยยืนหยัดในหลักการ ประชาธิปไตยเลย ให้ลิ่วล้อชี้แจงแทนโดยอ้างว่าติดงานราชการในต่างจังหวัด แต่ภายหลังที่ระบอบทักษิณพลั้งพลาดกลับยึดคัมภีร์ประชาธิปไตยไว้เหนียวแน่น ทำผิดแล้วยังไม่รู้สึกนึกหนำซ้ำยังโยนบาปให้กระบวนการยุติธรรมที่ตัดสินขัดอารมณ์ตนเองอีก ปลุกระดมให้กลุ่มคนที่สนับสนุนเดินหน้าชนฝ่ายตรงข้ามตัวเองทั้งที่ปากเพ้อพก เรื่องความปรองดอง ถึงเวลาที่ควรจะเลิกสร้างภาพหลอกลวงชาวโลกก่อนที่ประเทศชาติจะบอบช้ำไป มากกว่านี้ ขอบคุณ… http://www.komchadluek.net/detail/20140316/180921.html#.UyTyazcrWyg (komchadlueออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 15 มี.ค.57 )
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)