'จรินทร์' แจงหลักจ่ายเงินยังชีพผู้สูงอายุ
นายจรินทร์ จักกะพาก อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทย ประกาศใช้ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2552 และระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยความพิการให้คนพิการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2553 ซึ่งตามระเบียบทั้ง 2 ฉบับนั้น กำหนดให้ผู้ที่จะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และคนพิการ ยื่นคำขอรับเบี้ยยังชีพ ในปีงบประมาณถัดไปด้วยตนเอง ต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ตนมีภูมิลำเนาหรือสถานที่อื่นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด และเพื่อให้การลงทะเบียนเป็นไปตามทิศทางเดียวกัน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการจัดให้มีการลงทะเบียนผู้มีสิทธิ์รับเงิน ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน และย้ายภูมิลำเนาเข้ามาใหม่ในพื้นที่นั้น ๆ โดยเคร่งครัด ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ และ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอนุโลมใช้แบบคำของลงทะเบียนแบบเดิม และรับลงทะเบียนทั้งวัน เวลาราชการและวันหยุดราชการด้วย
นายจรินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่มีความจำเป็นไม่สามารถยื่นคำขอลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง อาจมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรแก่ผู้อื่น ยื่นลงทะเบียนแทนได้ สำหรับผู้พิการ ขอให้ยื่นลงทะเบียนด้วยตนเอง กรณีที่ผู้พิการเป็นผู้เยาว์ ซึ่งมีผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาล ยื่นคำขอโดยแสดงหลักฐานความเป็นผู้แทนดังกล่าว สำหรับผู้พิการกรณีอื่น ที่ไม่สามารถยื่นคำขอได้ด้วยตนเองได้ ให้ผู้ดูแลยื่นคำขอโดยให้ผู้ที่เชื่อถือได้รับรองสถานะของคนพิการ แต่จะต้องนำหลักฐานของคนพิการและผู้ดูแลไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วย ส่วนผู้มีสิทธิ์จะได้รับเงินตั้งแต่ตุลาคม 2559 จนถึงกันยายน 2560 หากมีการย้ายภูมิลำเนา สิทธิ์ก็ยังคงได้รับเงินจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เดิม และเพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ให้ต่อเนื่องในการรับเบี้ยดังกล่าวในปีงบประมาณ 2561 ผู้มีสิทธิ์ต้องไปลงทะเบียนยื่นคำขอที่ภูมิลำเนาใหม่ก่อนสิ้นปีงบประมาณ หรือภายในเดือนพฤศจิกายน 2559
ขอบคุณ... http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=654138
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
นายจรินทร์ จักกะพาก อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายจรินทร์ จักกะพาก อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทย ประกาศใช้ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2552 และระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยความพิการให้คนพิการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2553 ซึ่งตามระเบียบทั้ง 2 ฉบับนั้น กำหนดให้ผู้ที่จะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และคนพิการ ยื่นคำขอรับเบี้ยยังชีพ ในปีงบประมาณถัดไปด้วยตนเอง ต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ตนมีภูมิลำเนาหรือสถานที่อื่นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด และเพื่อให้การลงทะเบียนเป็นไปตามทิศทางเดียวกัน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการจัดให้มีการลงทะเบียนผู้มีสิทธิ์รับเงิน ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน และย้ายภูมิลำเนาเข้ามาใหม่ในพื้นที่นั้น ๆ โดยเคร่งครัด ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ และ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอนุโลมใช้แบบคำของลงทะเบียนแบบเดิม และรับลงทะเบียนทั้งวัน เวลาราชการและวันหยุดราชการด้วย นายจรินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่มีความจำเป็นไม่สามารถยื่นคำขอลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง อาจมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรแก่ผู้อื่น ยื่นลงทะเบียนแทนได้ สำหรับผู้พิการ ขอให้ยื่นลงทะเบียนด้วยตนเอง กรณีที่ผู้พิการเป็นผู้เยาว์ ซึ่งมีผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาล ยื่นคำขอโดยแสดงหลักฐานความเป็นผู้แทนดังกล่าว สำหรับผู้พิการกรณีอื่น ที่ไม่สามารถยื่นคำขอได้ด้วยตนเองได้ ให้ผู้ดูแลยื่นคำขอโดยให้ผู้ที่เชื่อถือได้รับรองสถานะของคนพิการ แต่จะต้องนำหลักฐานของคนพิการและผู้ดูแลไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วย ส่วนผู้มีสิทธิ์จะได้รับเงินตั้งแต่ตุลาคม 2559 จนถึงกันยายน 2560 หากมีการย้ายภูมิลำเนา สิทธิ์ก็ยังคงได้รับเงินจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เดิม และเพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ให้ต่อเนื่องในการรับเบี้ยดังกล่าวในปีงบประมาณ 2561 ผู้มีสิทธิ์ต้องไปลงทะเบียนยื่นคำขอที่ภูมิลำเนาใหม่ก่อนสิ้นปีงบประมาณ หรือภายในเดือนพฤศจิกายน 2559 ขอบคุณ... http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=654138
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)